ดร.วิชัย พยัคฆโส
[email protected]
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของปี 2562 ซึ่งเป็นปีแห่งความวุ่นวายของการเมืองไทย แต่ยังดีที่รัฐบาลมอบของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทยหลายมาตรการ สยบการเมืองบนท้องถนนจากเกษตรกรได้อย่างน่าชื่นชม พร้อมๆกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเล็กๆน้อยๆ เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนด้วย
ในขณะที่รัฐบาลกำลังอึดอัดจากกรณีงบประมาณแผ่นดินถูกตรวจสอบอย่างละเอียด กว่าจะนำมาอัดฉีดในระบบต่างๆได้คงเป็นเดือนกุมภาพันธ์ปี 63 เท่ากับว่างบลงทุนของรัฐจะเริ่มได้เดือนมีนาคม ซึ่งล่าช้าไปมากกว่าเกือบ 6 เดือน จะส่งผลให้งบประมาณการลงทุนจะจัดทำไม่เสร็จในปี 2563 ต้องกันงบประมาณไว้ในปีต่อไป แต่ก็ยังพอให้งบอื่นมาอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้บ้าง
ในฝ่ายรัฐบาลเองยืนยันว่าเศรษฐกิจปี 63 จะฟื้นตัวไม่ตกต่ำไปกว่าเดิม แถมมีแรงบวกจากผลงานของรัฐบาลที่จะเดินหน้าโดยเฉพาะการส่งออกไปสู่ 18 ประเทศใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น GDP คงไม่ต่ำกว่า 3% นับว่ายังไม่เลวลงไปกว่าปี 62 ประชาชนน่าจะพอมีเงินเหลือพอไว้จับจ่ายได้บ้าง
รัฐบาลได้เร่งรัดให้รัฐวิสาหกิจเร่งระดมลงทุนกับงบที่ค้างท่ออยู่อีกแสนล้านให้ไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจปลายปี คงจะพอช่วยให้กระตุ้นเศรษฐกิจได้บางส่วน มีผลในต้นปีหน้า 63 ได้บ้าง จะเป็นทางช่วยอีกทางหนึ่งนอกเหนือจากงบประมาณที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากที่รัฐบาลมอบให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อยในหลายๆมาตรการ
กระทรวงพลังงานขับเคลื่อน B10 ออกมาใช้ในเดือนมีนาคม 63 คงจะช่วยให้ชาวเกษตรกรที่ปลูกปาล์มยืนได้บ้าง เพราะราคาปาล์มน้ำมันขยับตัวสูงขึ้น แถมยังช่วยให้ลดการนำเข้าได้อีกทาง คงช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยมิให้ดิ่งลง มีแต่จะผงกหัวขึ้นได้ค่อนข้างแน่
ในขณะที่รัฐบาลได้ทุ่มเทงบประมาณโครงสร้างพื้นฐานในระบบรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง และอื่นๆเข้าไปด้วย คงไปช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้น โครงการ EEC ก็กำลังคืบหน้าเม็ดเงินคงทะยอยเข้าไปลงทุนเรื่อยๆ เชื่อว่าปี 65 คงได้เห็นหน้าเห็นหลังกันได้บ้าง
สำหรับเงินกองทุนหมู่บ้านๆละ 2 แสนบาทคงเข้าถึงหมู่บ้านในปีใหม่นี้ เพื่อให้ชุมชนหมู่บ้านสร้างโครงการที่จะช่วยยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นสะดวกขึ้น และเป็นโครงการเล็กๆที่จะช่วยยกระดับเกษตรกรได้บ้าง
ปีใหม่เดือนมีนาคม ประชาชนคงได้เห็นระบบ 5G มาช่วยงานอุตสาหกรรมและงานทางสังคมได้อีกมากโดยเฉพาะ smart city ควบคู่ไปกับนโยบายกระทรวงพลังงานเปิดโอกาสให้โรงไฟฟ้าชุมชนเกิดขึ้นรวม 700 เมกะวัตต์ เป็นโรงไฟฟ้าที่ชุมชนอาจรวมกันสัก 200 ครัวเรือน ลงทุนร่วมกับภาครัฐ เกิดเป็นวิสาหกิจชุมชน ชุมชนมีโอกาสเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าทางเลือก ใช้วัสดุจากพืช เช่น หญ้าเนเปียร์ เป็นพลังงาน ถือเป็นของขวัญปีใหม่แบบ Quick win อย่างน้อย 6-7 จังหวัด
ปี 2563 จึงเป็นปีเริ่มต้นเข้าสู่แผนยุทธศาสตร์ชาติ โดยมีงบประมาณที่กำลังพิจารณากันอยู่เป็นพื้น
ฐานการพัฒนาเข้าสู่เป้าหมาย เศรษฐกิจจะเริ่มขยับตัวสูงขึ้นเป็น 5% ในปี 2565 คนฐานรากคงพอยิ้มได้บ้างในปีใหม่นี้
ข่าวร้ายนิดๆคือฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่ดูเหมือนว่าน้ำหนักจะมีน้อยทั้งประเด็นและผู้ที่จะถูกอภิปรายที่มีการเปิดโผรายชื่อออกมา คงทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากสร้างวาระการอภิปรายไม่ไว้วางใจปีละครั้ง รัฐบาลคงรอดตัวไปได้ อีกเรื่องที่ไม่น่าจะมีผลกระทบมากกับนโยบายปรับค่าแรงขั้นต่ำประมาณ 6 บาทต่อวัน แม้ว่าจะกระทบกับต้นทุนของ SMEs ขนาดเล็กๆ ควบคู่ไปกับการจ่ายภาษีสรรพากรสำหรับสินค้า online อยู่บ้าง ถือว่าเป็นความยุติธรรมสำหรับผู้ทำธุรกิจ โดยสรุปโชคดีมีมากกว่าโชคร้าย
ปีใหม่ 2563 ขอให้ประชาชนคนไทยทุกคนประสบแต่ความสุขกันถ้วนหน้า จะเดินทางกลับบ้านหรือไปพักผ่อนขอให้ปลอดภัย หวังว่าจะพบกับความสุขสบายใจกันถ้วนหน้า ขอให้โชคดีปีใหม่ครับ