ส่งท้ายปีหมู ที่เป็นหมูเขี้ยวตัน แม้อะไรๆ จะไม่หมูอย่างที่คิด ทั้งปัญหาด้านการเมืองและเศรษฐกิจ แต่เมื่อวันเวลาเดินมาถึงวันสุดท้ายของปฏิทินปี 2562 ก่อนจะเริ่มศักราชใหม่ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ตั้งสติก่อนข้ามไปสู่ปี 2563 จึงขออันเชิญพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่พระราชทานให้กับพสกนิกรชาวไทย ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ที่ทรงคุณคาเหนือกาลเวลา มาเผยแพร่อีกครั้ง เพื่อพสกนิกรจะสามารถน้อมนำมาใช้ในการดำเนินชีวิตได้ในปีใหม่นี้ “…ความสงบภายในหรือจิตใจที่ปลอดโปร่งจากสิ่งรบกวนนี้สำคัญมาก ควรจะทำให้มีขึ้น เพราะผู้ที่มีจิตใจสงบ จะใช้ความคิดพิจารณาของตนได้อย่างกว้างขวางและถูกต้องดีขึ้น ความคิดที่ประกอบด้วยความสงบ มีศักยภาพสูง อาจนำไปใช้คิดอ่านสร้างสรรค์สิ่งที่จะอำนวยความสุข ความเจริญก้าวหน้า ตลอดจนชื่อเสียงเกียรติคุณ อันเป็นสิ่งที่แต่ละคนปรารถนา ให้สัมฤทธิ์ผลได้…” (พระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2530 วันพุธ ที่ 31 ธันวาคม พุทธศักราช 2529) “…ความสามัคคีปรองดองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กับความรักใคร่เผื่อแผ่ช่วยเหลือกันฉันญาติพี่น้อง สองประการนี้ คือ คุณลักษณะสำคัญของไทย ที่ช่วยให้ชาติบ้านเมืองอยู่เป็นอิสระ และเจริญมั่นคงมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตราบใดที่เราทั้งหลายรักษาความเป็นไทยนี้ไว้ได้ ชาติบ้านเมืองก็จะดำรงมั่นคงอยู่ตราบนั้น ความเป็นไทย จึงเป็นสมบัติล้ำค่าที่ชาวเราต้องถนอมรักษาไว้เป็นนิตย์ต่อไป...” (พระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2532 วันเสาร์ ที่ 31 ธันวาคม พุทธศักราช 2531) “…จิตใจที่สะอาดปลอดโปร่งจากสิ่งรบกวนนี้สำคัญมาก เพราะเป็นจิตใจสงบ และเยือกเย็น ทำให้บุคคลมีสติรู้ตัว มีความคิดเที่ยงตรงเป็นกลาง มีวิจารณญาณละเอียดกว้างขวาง และถูกต้องตรงจุด ความคิดวิจารณญาณที่เกิดจากจิตใจที่สงบนี้มีศักยภาพสูง อาจนำไปใช้คิดอ่านสร้างสรรค์สิ่งที่จะอำนวยประโยชน์สุขความเจริญก้าวหน้า ตลอดจนชื่อเสียงเกียรติคุณอันเป็นสิ่งปรารถนาของแต่ละคนให้สัมฤทธิ์ผลได้…”พระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2536วันพฤหัสบดี ที่ 31 ธันวาคม พุทธศักราช 2535) “…ข้าพเจ้าใคร่ขอให้ท่านทั้งหลายพยายามรักษาสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรง เพื่อให้สามารถประกอบกิจการงานอันเป็นสัมมาชีพได้เต็มกำลัง ทั้งพยายามระมัดระวังรักษาจิตใจของตนให้หนักแน่น เพื่อให้มีสติสมบูรณ์ มีปัญญาแจ่มใส สามารถขบคิดวินิจฉัยเรื่องราวต่าง ๆ ได้ไม่ผิดพลาด ผู้ใดมีภาระหน้าที่อันใดอยู่ ก็เร่งกระทำให้สำเร็จลุล่วง ด้วยความรู้ความสามารถ ด้วยความจริงใจพร้อมใจ และความเมตตาปรารถนาดีต่อกัน ผลการปฏิบัติของแต่ละคนแต่ละฝ่าย จักได้ประกอบและส่งเสริมกันขึ้นเป็นประโยชน์ เป็นความมั่นคงวัฒนาของประเทศชาติ…” (พระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2538วันเสาร์ ที่ 31 ธันวาคม พุทธศักราช 2537) “…ไม่ว่าจะมีเหตุไม่ปรกติหรือปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น เราควรจะได้ทำความเข้าใจและร่วมกันคิดอ่าน ปฏิบัติแก้ไขด้วยเหตุผล ด้วยหลักวิชา และด้วยความบริสุทธิ์จริงใจ ให้ทุกสิ่งทุกอย่างคลี่คลายลุล่วงไป เพื่อให้ประเทศชาติของเราก้าวหน้าต่อไปได้โดยสวัสดี…” (พระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2540 วันอังคาร ที่ 31 ธันวาคม พุทธศักราช 2539) “…วิถีชีวิตของคนเรานั้น จะต้องมีทุกข์ มีภัย มีอุปสรรค ผ่านเข้ามาเนือง ๆ ไม่มีผู้ใดจะอยู่เป็นปรกติสุขอย่างเดียวได้ ทุกคนจึงจะต้องเตรียมกายเตรียมใจ และเตรียมการไว้ให้พร้อมเสมอ เพื่อเผชิญและป้องกันแก้ไขความไม่ปรกติเดือดร้อนต่าง ๆ ด้วยความไม่ประมาท ด้วยเหตุผล ด้วยหลักวิชา และด้วยสามัคคีธรรม…” (พระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2555วันเสาร์ ที่ 31 ธันวาคม พุทธศักราช 2554)