ทิ้งทวนก่อนสิ้นปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2563 ด้วยประเด็นร้อนๆทางการเมือง ทั้งในและนอกเวทีสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งดูเหมือนว่า ต่างฝ่ายต่างช่วยกัน “สุมฟืนเข้ากองไฟ” โดยไม่มีใครยอมถอย !
พรรคอนาคตใหม่ที่กำลังเจอ “คดีความ” กลุ้มรุมอย่างหนัก ทั้งล่าสุดที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้องกรณี “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคให้เงินพรรคกู้ยืม จำนวน 191 ล้านบาทไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังมีความคืบหน้าอีกหนึ่งคดีสำคัญ โดยศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งนัดฟังคำพิพากษา คดีล้มล้างการปกครอง ในวันที่ 21 ม.ค.2563
ถือเป็นวันชี้ชะตา ว่าพรรคอนาคตใหม่ จะต้องโทษร้ายแรงถึงขั้นต้องถูกยุบพรรคหรือไม่ จากคดีล้มล้างการปกครอง !
ขณะที่ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่เอง วันนี้เขาเองก็พยายาม “สู้สุดฤทธิ์” โดยเฉพาะ “ความได้เปรียบ” อยู่นอกสภาฯ อยู่บนท้องถนน เพราะมีสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ รวมทั้ง “แนวร่วม” ที่รอฟังสัญญาณจากธนาธร ต่างตั้งท่ารอเปิดเกม ด้วยความคึกคัก
จากเดิมที่กิจกรรม “วิ่ง ไล่ ลุง” วันที่ 12 ม.ค.63 นี้ วางเป้าเคลื่อนไหวขับไล่ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นเป้าหลัก คงต้องจับตาและประเมินทิศทางกันใหม่แล้วว่า จะมีรายการผสมโรงขยับเพื่อกดดัน “กระบวนการยุติธรรม” ไปด้วยในคราวเดียวกันเลยหรือไม่
ส่วนเกมการเมืองในสังเวียนสภาฯ ก็ใช่ว่า “ฝ่ายค้าน” จะยอมหยุดที่จะเปิดเกมรุกไปยังฝ่ายรัฐบาล แม้พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำฝ่ายค้านเอง จะมีปัญหาภายในพรรค งัดข้อกันเอง มิหนำซ้ำ ส.ส.ที่ออกหน้า ก้าวขึ้นมาเป็น “ดาวสภาฯ” ส่วนใหญ่มาจาก ส.ส.แถว2 แถว 3 ก็ตาม
แต่เมื่อภายในพรรคพลังประชารัฐ และฝ่ายรัฐบาลที่ประกอบด้วยพรรคร่วมมากหน้าหลายตา กลับมี “จุดอ่อน”ปรากฎ ให้เห็นชัดเจน จึงกลายเป็นว่า “ขุมกำลัง” ในมือ พล.อ.ประยุทธ์ จึงเป็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน เปิดหน้าให้ “ฝ่ายค้าน” โจมตีได้ในคราวเดียวกัน
สถานการณ์ทางการเมืองในภาพรวม วันนี้ดูจะไม่แตกต่างไปจากช่วงระยะเวลากว่า5ปีที่ผ่านมา นั่นคือ “ความขัดแย้ง” ยังคงอยู่ และเมื่อวันนี้ ในมือ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มี “ดาบอาญาสิทธิ์” อย่าง “มาตรา 44” เหมือนเมื่อครั้งที่ยังเป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
อีกทั้งฝ่ายค้านยังมี “เวทีสภาฯ” ให้ใช้เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบ เกาะติด และเขย่าฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะ ตัวพล.อ.ประยุทธ์ เองจึงไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลและตัวพล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ในชัยภูมิที่แข็งแกร่งในทางการเมือง จนถึงขั้นที่จะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ สบายใจ ได้ทุกๆวัน โดยที่ “ฟิวส์ไม่ขาด” !
เมื่อการเมืองแรง ร้อนระอุข้ามปี โดยไม่มีการเว้นวรรคเช่นนี้ ทั้งคดีความที่รัดคอพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งหากผลออกมาในทางที่เป็นลบ แน่นอนว่าเอฟเฟกซ์หลายทางจะเกิดขึ้นตามมาอย่างไม่ต้องสงสัย
และเมื่อมองกลับมายังฝ่ายรัฐบาลเอง ก็จะพบว่าหลายต่อหลายครั้งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ เองเลือกที่จะไม่ปะทะ หรือลงไปเล่นเอง ในทุกเรื่องและทุกสนาม เพราะรู้ดีว่า การเปิดศึกหลายทาง ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก
ยิ่งในเมื่อยามนี้ “ผลงานรัฐบาล” เท่านั้นที่จะเรียกเรทติ้ง สร้างความนิยมให้กับรัฐบาล จนสร้างความมั่นใจได้ว่า รัฐบาลสามารถเอาหลังพิงประชาชนได้อย่างสนิทใจเมื่อใด เมื่อถึงเวลานั้น จะเลือกชนทุกคน ทุกเรื่อง ค่อยพิจารณากันใหม่ !