แสงไทย เค้าภูไทย การบุกวัดพระธรรมกาย ค้นโกดังอาวุธโกตี่ เก็บภาษีขายหุ้นทักษิณ ทยอยปิดคดีคนเสื้อแดง ฟ้องยึดทรัพย์ยิ่งลักษณ์ การรวบอำนาจอปท.ฯลฯ กลายเป็นประเด็นโยงเข้าหากันว่าเป็นการล้างบางเครือข่ายทักษิณก่อนเลือกตั้งครั้งใหม่ที่โพลทุกโพลสรุปผลว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้ง การที่ดีเอสไอ ส่งกองกำลังเขาตรวจค้นแหล่งซุกซ่อนอาวุธสงคราม 9 จุดในพื้นที่ 7 จังหวัด เน้นบ้านและที่ทำการบริษัท ของนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณหรือ “โกตี๋ แดงปทุมฯ” ฉายาเมื่ออยู่ป่า “สหายหมาน้อย” ที่จังหวัดปทุมธานีเป็นสัญญาณถึงการสลายพลังของคนเสื้อแดงทุกสายโกตี๋มีเครือข่ายกว้างขวงมาก เน้นเข้มข้นในย่านปทุมธานี จนปทุมธานีได้ชื่อว่าเป็น”เมืองหลวงของคนเสื้อแดง”ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง หนองคาย สกลนคร อุดรธานี สุรินทร์ นครราชสีมาประจวบคีรีขันธ์(หัวหิน) สมุทรปราการ ทุกจังหวัดล้วนเป็นเขตที่ พรรคเพื่อไทยมี อดีตส.ส.อยู่ บางจังหวัดถึงกับยกจังหวัดจังหวัดเหล่านั้น หากดูป้ายระบุสถานที่จอดรถที่จัดแบ่งไว้สำหรับแต่ละจังหวัดในลานจอดรถของวัดพระธรรมกายในช่วงมีการประกอบพิธีทางศาสนาใหญ่ จะพบว่า สถานที่จอดรถตามชื่อจังหวัดเหล่านี้ทั้งหมดจะเป็นเนื้อที่ใหญ่กว่า จังหวัดอื่นๆ แสดงถึง รถที่พาสาวกพระธรรมกายมาร่วมพิธีจากจังหวัดเหล่านี้ มีจำนวนมากกว่าจังหวัดอื่นๆ แม้ขณะนี้สหายน้อยจะหลบหนีคดีอาญาจากเหตุการณ์ชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงที่สี่แยกราชประสงค์และคดีเกี่ยวข้องอื่นๆไปอยู่ลาว แต่เขาก็ยังสั่งการผ่านสื่อออนไลน์มายังเครือข่ายในประเทศไทย การวางแผนจับมือกันต่อสู้กับกองกำลังสนธิทหาร-ตำรวจที่บุกจับพระธัมมชโยนั้น หากจุดติด คือเกิดการปะทะกันจนถึงเลือดตกยางออกแล้วจะเกิดการลุกฮือขนานใหญ่เขาเชื่อว่า เมื่อใดที่กองกำลังดีเอสไอบุกเข้าวัดแบบหักหาญ สาวกธรรมกายจะยอมพลีชีพไม่ต่างจากสาวกลัทธิฝ่าหลุนกง ที่ชุมนุมที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน พุ่งเข้านอนขวางรถถังยอมให้ล้อตีนตะขาบทับ ขณะที่ 4 คนเผาตัวตาย หากเกิดเหตุการณ์ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ มวลชนในเครือข่ายของโกตี๋ จะออกมาพร้อมกับอาวุธที่ซุกซ่อนไว้ตามแหล่งต่างๆที่ดีเอสไอสืบทราบออกมาต่อสู้กับกองกำลังรัฐบาล“สงครามในเมือง” จะเกิดขึ้นสมตามความมุ่งหมายของแดงสายรุนแรงที่ต้องการล้มระบอบการปกครองและสถาบันกษัตริย์แม้โกตี๋และเครือข่ายจะเคยเข้าร่วมงานกับกลุ่มเสื้อแดง แต่การใช้อาวุธและความรุนแรงก่อให้เกิดความลำบากใจอย่างยิ่งต่อกลุ่ม “แดงทักษิณ” เพราะแดงทักษิณมุ่งล้มรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งมากกว่ายุทธวิธี “สงครามในเมือง” ที่เป็นความฝันอันสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.) การที่นพ.เหวง โตจิรการ “สหายเข้ม”และภรรยา ผศ.ภก.ธิดา ถาวรเศรษฐ์ “สหายปูน” ประธานนปช.ปฏิเสธว่าโกตี๋ไม่ใช่คนเสื้อแดงก็ด้วยเหตุผลนี้ เพราะแดงทักษิณ มุ่งแต่จะเลือกตั้งเ พราะเชื่อมั่นว่าเลือกตั้งเมื่อใดพรรคเพื่อไทยจะชนะเมื่อนั้นตรงกับที่โพลที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งของสถาบันหลายแห่งทุกโพลสรุปผลออกมาคิดตรงกันกับคสช. ที่สำรวจความเห็นและความเป็นไปได้สำหรับผลการเลือกตั้งครั้งใหม่หลายครั้ง ทุกครั้งพบว่าคะแนนเสียงของคนเสื้อแดงยังแนบแน่นกับพรรคเพื่อไทยนี่เองที่ทำให้กลุ่มการเมืองทุกฝ่ายมองว่า การดึงองค์กรการปกครองท้องถิ่น (อปท.)มาขึ้นกับส่วนกลางคือกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เป็นการทำลายฐานการเมืองเพื่อไทย โดยเฉพาะภาคเหนือและอิสาน อปท.นั้น ระดับจังหวัดมี 67 แห่งระดับตำบล(อบต) 5,334 แห่งเทศบาล 2,441 แห่งล้างบางนักการเมืองท้องถิ่นที่พรรคใหญ่ใช้เป็นฐานเสียงหรือเป็นเสมือนหัวคะแนนเสีย เอาคนจากส่วนกลางไปแทนจะล้างระบอบทักษิณ ล้างหัวคะแนนเพื่อไทยหมดไปจากเมืองไทยได้ไหม?คงลืมคิดไปว่า คนนิยมทักษิณหรือไทยรักไทยหรือเพื่อไทยนั้น เกิดจากการเมืองรูปแบบประชานิยมตราบใดที่ยังไม่สามารถหารูปแบบการเมือง การบริหารงานแผ่นดินที่เน้นลบประชานิยมไปจากแผ่นดินไทยได้ ตราบนั้นก็ไม่สามารถล้างระบอบทักษิณได้มีความพยายามกันอยู่ แต่คงทำอะไรไม่ได้ยกเลิกบัตรทอง 30 บาทก็ไม่ได้ยกเลิกกองทุนหมู่บ้านที่ครอบคลุมถึง 75,032 หมู่บ้าน ที่ทุกคนในหมู่บ้านรู้กันว่า เป็นกองทุนที่ทักษิณตั้งให้ ก็ไม่ได้แม้จะสรวมรอยทำตามในรูปแบบใหม่ๆ แต่คนก็ฝังใจไปแล้วว่ามันเกิดขึ้นในยุคทักษิณ จะเลิกหรือเปลี่ยนแปลงโอท็อปก็ไม่ได้ ถูกล็อคเอาไว้ ใครแตะต้องขึ้นมา ชาวบ้านโวยแหลกจะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มที่ตั้งอัตรา 7 % ไว้ตั้งแต่ยุคทักษิณ ก็โดนโจมตีด้วยถ้อยคำรุนแรง เพียงแค่นายกฯแอะว่าขอภาษีเพิ่มอีก 1 % ก็ถูกเอาไปตีความว่าจะขึ้นภาษีแวต มีนักวิชาการ นักการเมือง นักวิจารณ์ นานานักเคยแนะนำรัฐบาลคสช.ว่าให้ทำในสิ่งที่ทักษิณไม่เคยทำ หรือทำไม่ได้หรือยังไม่ได้ทำเพื่อที่ผลงานใหม่ๆจะได้กลบและลบทักษิณออกไปจากสมองของคนไทยแต่จนบัดนี้ก็ยังคิดกันไม่ออกว่าจะทำอะไรที่ดีกว่า เหนือกว่าทักษิณมีแต่จะหาเรื่องที่ทำให้ทักษิณเสื่อมเสีย โดยเฉพาะเรื่องคอรัปชั่น ซึ่งก็จุดติดที่คนครึ่งประเทศที่ไม่ใช่เครือข่ายเสื้อแดงเชื่อแต่ก็มีบางส่วนไม่เชื่อว่าการล้างคอรัปชั่นจะหมดไปจากประเทศไทย แม้จะไม่มีระบอบทักษิณโพลสำนักวิจัยซุเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “คนไทยพอเพียงจริงหรือ”เมื่อต้นเดือนนี้ มีคำถามหนึ่งถามว่า “ถ้ามีรัฐบาลที่ทุจริตคอรัปชั่น แต่ทำให้ตนได้ประโยชน์มาแบ่งกันบ้างรับได้ไหม” ประชากรสำรวจถึง 46.7% ตอบว่า พอจะยอมรับ(การคอรัปชั่นของรัฐบาล)กันได้ แสดงถึงการยอมรับรัฐบาลที่มีการโกงกิน แต่ทำประโยชน์ให้แก่ประชาชนเป็นที่พึงพอใจแสดงถึงประชานิยมที่ประชาชนนิยม ยังเป็นที่นิยมกันอยู่ จะลบล้างค่านิยมนี้กันได้อย่างไร ?