ตั้งท่าเตรียมดึง “หัวหน้ารัฐบาล” และ “รัฐมนตรีบางคน” ในครม. “ประยุทธ์ 2/1” ขึ้นเขียงชำแหละด้วย “ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ” กันอย่างขึงขัง แต่แล้วล่าสุด กลับดูเหมือนว่าฝ่ายพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็น “หัวหอก”ตัวหลักคุมเกมสำคัญในยามนี้ ที่พอจะมีน้ำหนักมากกว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านที่เหลือ ก็มีอันต้อง “กลับลำ” เพราะทำไป ทำมาแล้วกำลังจะกลายเป็นว่า “เกมซักฟอกรัฐบาล” ส่อแววว่าจะถูกสกัดด้วยทางใดทางหนึ่งเสียแล้ว “สุทิน คลังแสง” ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์สื่อล่าสุดถึง “วงรอบ” ของการบรรจุญัตติอภิปรายไม่ไว้ใจ เพราะหากไล่เลียงตามที่ “วิษณุ เครืองาม”รองนายกรัฐมนตรี ระบุเอาไว้โดยนับจากเดือนพ.ค.63 หมายความว่าจะอภิปรายในการทำงานของรัฐบาลปีแรกถึงเดือนพ.ค. 63 หรือยื่นอภิปรายได้หลังเดือนพ.ค. 63 แต่ปัญหาที่พรรคเพื่อไทยกำลังกังวล คือการที่ถูกแกล้ง โดยมีการบรรจุญัตติตรงกับช่วงปีใหม่ หรือช่วงเลือกตั้งซ่อมเขต 7 ขอนแก่น ทางฝ่ายค้านก็อาจจะต้องพิจารณา “ถอนญัตติ” ออกก่อน เพราะไม่เช่นนั้น จะทำให้เผชิญกับศึกหลายทาง โดยล่าสุดคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพิ่งสรุปวันเลือกตั้งซ่อม เขต7 ขอนแก่นออกมาให้เป็นวันที่ 22 ธ.ค.นี้ การเปิดเกมอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรคที่จะมีขึ้นในการประชุมสภาสมัยประชุมนี้ ทางหนึ่งแม้ว่าจะเป็นโอกาสให้พรรคฝ่ายค้านใช้เป็นกลไก เป็นช่องทางในการ “เขย่ารัฐบาล” ก็ตาม แต่ขณะเดียวกันยังต้องไม่ลืมว่าเมื่อมองย้อนกลับมายังสถานการณ์ของพรรคฝ่ายค้านเอง ก็ใช่ว่า มีความเป็นเอกภาพและเข้มแข็งมากพอ และที่สำคัญไปกว่านั้น นั่นคือกว่าที่เกมซักฟอกรัฐบาลจะเริ่มต้น จะแน่ใจได้อย่างไรว่า ฝ่ายค้านเองจะไม่เจอกับ “มุกแป้ก” เหมือนที่เคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อเป็นการรุกรัฐบาล ที่ผิดจังหวะมาโดยตลอด ความกังวลใจของพรรคเพื่อไทย ว่าจะ “วางแผนการเล่น” ผ่านญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ “หัวหน้ารัฐบาล” ไปจนถึง “รัฐมนตรี” ใน ครม.นั้นส่วนหนึ่งยังมาจากปัญหาภายในพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกันเอง โดยเฉพาะเมื่อศึกเลือกตั้งซ่อม ขอนแก่น เขต 7 ล่าสุดพรรคเพื่อไทย ส่ง “ธนิก มาสีพิทักษ์” อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นตัวแทนลงไปรักษาที่นั่ง ก็กลับต้องมาเจอกับปัญหาระหว่าง พรรคอนาคตใหม่ พรรคฝ่ายค้านด้วยกันเองที่เคยประกาศกร้าวมาก่อนหน้านี้ว่า จะไม่ยอม “หลีกทาง” ให้เพราะถือว่า พรรคอนาคตใหม่ก็มีสิทธิ์ส่งผู้สมัครเช่นกัน นั่นหมายความว่า แทนที่พรรคเพื่อไทย จะยืนซดกับ “พรรคพลังประชารัฐ” ฝ่ายรัฐบาล ที่ส่ง “สมศักดิ์ คุณเงิน” อดีตผู้สมัคร ที่หวังลงมือ “แก้มือ” เพราะต้องพ่ายแพ้ให้กับคนของพรรคเพื่อไทย ก็กลายเป็นว่า ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย กับพรรคอนาคตใหม่ มีแววว่าจะมาตัดคะแนนกันเอง ทั้งที่เป็น “ฝ่ายค้าน” เหมือนกัน อาการปีนเกลียวระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคอนาคตใหม่ นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ลึกๆแล้วพบว่า หลายครั้งหลายคราที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย มักเป็นฝ่ายเปิดทางให้พรรคอนาคตใหม่ จนน่าประหลาดใจ ยิ่งวันนี้ พรรคอนาคตใหม่เองตกอยู่ในภาวะ “วิกฤต” เพราะหัวหน้าพรรค เพิ่งพ้นจากสถานะส.ส.ด้วยคำพิพากษาจากศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นหากหนทางไหน พอที่จะเป็น “ทางรอด” มีหรือจะไม่คว้าไว้ ขณะที่พรรคเพื่อไทยเอง ก็ตั้งเป้าและคาดหวังกับการเลือกตั้งซ่อมรอบนี้ไม่น้อย