เปิดตัวอย่างเป็นทางการ หลังจากที่มีข่าวสะพัดมาพักใหญ่ก่อนหน้านี้ว่า “หมอวรงค์” น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เจ้าของฉายา “มือปราบจำนำข้าว” เตรียมย้ายค่าย เปลี่ยนขั้วไปซบ “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย โดยเมื่อวันที่ 23 พ.ย.62 ที่ผ่านมา สุเทพ พร้อมด้วย “หม่อมเต่า” ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรค และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงงาน ได้เปิดที่ทำการพรรค ห้องประชุม Pacific Club ชั้น 28 อาคารทูแปซิฟิกเพลส ถนนสุขุมวิท ท่ามกลางบรรยากาศการต้อนรับอย่างอบอุ่นระหว่าง “เจ้าของบ้าน”กับ “สมาชิกพรรคคนใหม่” ภาพเหตุการณ์ ที่ทำการพรรครวมพลังประชาชาติไทย ในครั้งนี้คือการตอกย้ำว่า “ข่าวลือ” คือ “ข่าวจริง” แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ “เหนือความคาดหมาย” เพราะในความเป็นจริง อันเป็นรับรู้ กันดีว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง “หมอวรงค์” กับ “ลุงกำนัน” นั้นไม่มีอะไรเป็นเรื่องลึกลับ หมอวรงค์ มีความสนิทสนมกับสายของสุเทพ มาก่อนหน้าอยู่แล้ว และเมื่อหมอวรงค์ ไม่สะดวกใจที่จะพำนักอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ ต่อไป จะด้วยเพราะ “ความขัดแย้ง” ระหว่างขั้วอำนาจภายในนั้นรุนแรง หรือจะเป็นเพราะ “อาการร้าวลึก” ที่กินใจกันมาตั้งแต่เมื่อคราวที่หมอวรงค์ เปิดตัวชิงเก้าอี้ “หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์” กับ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เมื่อราวเดือนต.ค.2561 พร้อมทั้งเปิดตัว “กลุ่มเพื่อนหมอวรงค์” แต่แล้วฝ่าย “ทีมหมอวรงค์” ก็ต้องพ่ายแพ้ โดยในการเปิดตัวลงชิงเก้าอี้กับอภิสิทธิ์ รอบหน้า ดูเหมือนว่า หมอวรงค์เองก็ถูกโจมตีอย่างหนัก ว่าไม่ต่างไปจากการเป็น “ร่างทรง”ให้กับ “คนนอก” คือกลุ่มของสุเทพ เป็นการจับมือกันระหว่าง “คนใน-คนนอก” ชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรค อย่างไรก็ดี ปัญหาในวันวาน กลับไม่ได้จบลงไปด้วย เพราะแม้ท้ายที่สุดแล้วศึกชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรค จะจบลงที่อภิสิทธิ์ สามารถรักษาที่นั่งเอาไว้ได้ก็ตาม แต่ขณะเดียวกัน ยังเป็นการแสดงให้คนภายนอกเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้น” ภายในพรรค ฉะนั้นการย้ายพรรคของหมอวรงค์ ในครั้งนี้ ย่อมจะเกิดเอฟเฟกซ์ตามมาอย่างไม่ต้องสงสัย ! ว่าจากนี้ไป “กลุ่มเพื่อนหมอวรงค์” ซึ่งนอกเหนือไปจาก “ถาวร เสนเนียม” แกนนำพรรคที่มีความสนิทสนมกับสุเทพ แล้วยังมี ศุภชัย ศรีหล้า อดีต ส.ส.อุบลราชธานี, สมบัติ ยะสินธุ์ อดีต ส.ส.แม่ฮ่องสอน, วิรัตน์ กัลยาศิริ, เจือ ราชสีห์, ชัยวุฒิ ผ่องแผ้วและพล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ อดีตส.ส.สงขลา จะขยับตามออกไปหรือไม่ และ เมื่อใด ? ต่างหาก เพราะการไปอยู่กับพรรคลุงกำนัน ภายใต้เงื่อนไขและข้อเสนอที่ หมอวรงค์ ได้รับนั้นย่อมไม่ใช่แค่การไปดูแลจัดการเรื่องการทำสาขาพรรค หรือการ “ปราบพวกชังชาติ” เท่านั้น แต่เป็นเพราะการย้ายขั้ว เปลี่ยนค่ายรอบนี้ทั้งหมอวรงค์ และ “กลุ่มเพื่อน” ต้องดูว่าเมื่อย้ายไปแล้ว มีโอกาสได้ “เติบโต” มากน้อยแค่ไหน ส่วนข้อเสนอที่ว่า หมอวรงค์ อาจจะได้ทั้งเก้าอี้ “หัวหน้าพรรค” และ “รมว.แรงงาน” แทนที่ “หม่อมเต่า” นั้นจะเกิดขึ้นจริงได้มากน้อยแค่ไหน ก็ต้องไม่ลืมว่า แม้พรรครวมพลังประชาชาติไทย จะมีโลโก้ของ ลุงกำนันชัดเจน โดดเด่นเหนือใคร แต่อย่าลืมว่า ก่อนหน้านี้ก็มีอดีตส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะ “สายใต้” ได้ย้ายเข้ามาอยู่กันก่อนหน้านี้ตั้งแต่ก่อนวันเลือกตั้ง ส.ส. 24 มี.ค.62 ดังนั้น “แรงกระเพื่อม” หรือแรงเสียดทาน ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้นกับหมอวรงค์ เสียทีเดียว !