แม้จะประกาศว่า รัฐบาลสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่าจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งประธานคณะกรรมาธิการกมธ.)วิสามัญศึกษาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นกลไกของรัฐสภา แต่ก็ยังมีเงื่อนไขว่า ต้องตอบคำถาม ประชาชนให้ได้ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น แก้เพื่อใครและเพื่ออะไร
“จะเป็นการแก้ไขในมาตราใดก็ตาม ถือเป็นความเห็นชอบร่วมกัน ซึ่งก็ต้องเป็นไปตามความต้องการของประชาชน เห็นว่า มีบางเรื่องจะต้องทำประชาพิจารณ์ด้วย ก็ต้องไปว่ากันมา ผมไม่ได้ขัดข้องอะไรทั้งสิ้น ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับประชาชนด้วย”
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการจับตาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการโยนชื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นมาเป็นแคนดิเดตในโควต้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่ทันทีที่ปรากฎชื่อออกมาก็ปรากฎว่า ถูกรุมสกัดจากซีกของพรรคพลังประชารัฐ
ด้วยตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการฯ ถือว่ามีความสำคัญ เนื่องจากเป็นผู้กำหนดทิศทางและเนื้อหาของการแก้ไขรัฐธรรมนูญในเบื้องแรก แม้จะเป็นขั้นของการศึกษาก็ตาม แต่ก็มีผลต่อการกำหนดประเด็นการแก้ไขในอนาคตได้
ขณะที่อีกฟากก็มีข่าวออกมาว่าจะมีการเสนอชื่อของนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่เจ้าตัวก็ได้ออกมายอมรับว่าได้รับการทาบทามจริง แต่ได้ปฏิเสธไปเนื่องจาก ภาระหน้าที่ของรองประธานสภาฯค่อนข้างหนักอยู่แล้วในขณะนี้ หากจะไปทำหน้าที่ประธาน กมธ.ศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เป็นเรื่องสำคัญ และมีรายละเอียดมาก อาจทำได้ไม่เต็มที่
กระทั่งมีชื่อของ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เข้ามาถือหางเสือ แม้ล่าสุดจะมีข่าวว่าถอนตัวไปแล้วก็ตาม
ทำให้มีการพูดถึงคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการฯขึ้นมา ว่าจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง โดยพูดถึงกันมากในเรื่องของความเป็นกลาง และไม่มีทศนคติเป็นบวก หรือลบ กับรัฐธรรมนูญ
กระนั้น ผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะมาถือหางเสือในการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ สิ่งที่พึงมีอย่างยิ่งก็คือ ความเชี่ยวชาญด้านรัฐธรรมนูญ ไม่ได้เข้ามาแสวงหาตำแหน่งในคณะกรรมาธิการ หรือวางตำแหน่งเพื่อสร้างดุลการเมือง
ดังนั้น บุคคลที่จะมาเป็นประธานคณะกรรมาธิการฯ ต้องเกิดจากการตกลงร่วมกัน โดยมองที่เป้าหมายของการศึกษาในครั้งนี้เป็นหลัก
แต่หากยังคำนึงถึงเงื่อนไข เรื่องของความได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง การตั้งไข่แก้ไขรัฐธรรมนูญก็คงจะเกิดขึ้นได้ยาก เพราะมีแต่ความขัดแย้ง ขัดแข้งขากัน
หากจะมองว่า เป็นเกมที่ต้องการให้เกิดความขัดแย้ง เพื่อที่จะเดินไปไม่ถึงฝั่ง ก็อาจมองได้เป็นเช่นนั้น แต่กระนั้น ก็ต้องไม่ลืมว่าประชาชนจับจ้องมองอยู่