ดูเหมือนว่า บนกระดานในเกมแก้รัฐธรรมนูญ เวลานี้ จะมี “ผู้เล่น” ที่เปิดหน้าชนกันอยู่เพียง “2พรรคใหญ่” อีกทั้งต่างฝ่าย ยังเป็น “พรรคร่วมรัฐบาล” ด้วยกันทั้งคู่ หนึ่งคือ “พลังประชารัฐ” พรรคแกนนำรัฐบาล และอีกหนึ่งคือ “ประชาธิปัตย์” พรรคร่วมรัฐบาลอันดับที่ 2 โดยเฉพาะการที่ต่างฝ่าย ต่างส่งสัญญาณ ขอตีตราจองเก้าอี้ “ประธาน” ในคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ2560 เพื่อหวังที่จะเป็นผู้ “คุมเกมแก้รัฐธรรมนูญ” ให้ดำเนินไปตามทิศทางของฝ่ายตนเองให้มากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ ! แนวรบทางการเมืองยามนี้ ได้เปลี่ยนทิศ เปลี่ยนทาง พลิกจาก “ฝ่ายค้าน” กับ “รัฐบาล” แปรมาสู่การเผชิญหน้าระหว่าง “คนกันเอง”เมื่อ พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคพลังประชารัฐ ต่างต้องการที่จะครอบครองเก้าอี้สำคัญในคณะกรรมาธิการฯ ชุดดังกล่าวด้วยกันทั้งสองพรรค ทำให้ “7 พรรคฝ่ายค้าน” โดยเฉพาะ พรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่ ที่ต้องการ “รื้อโละ” รัฐธรรมนูญฉบับ 2560 มาตั้งแต่ต้น น่าจะพึงพอใจกับปัญหาระหว่าง สองพรรคร่วมรัฐบาลมากกว่าใครเพื่อน เพราะจากความขัดแย้งดังกล่าวนั้น อาจส่งผลในทาง “บวก” ที่ทั้งเพื่อไทยและอนาคตใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพรรคอนาคตใหม่ ที่ได้เดินสายรณรงค์ให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ อย่างจริงจัง มาก่อนหน้านี้ ในหลายต่อหลายจังหวัด ตั้งแต่ช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ จนมาถึงวันที่สภาฯ เปิดสมัยประชุม แต่อาจจะอึดอัด ขัดข้องอยู่บ้างก็ตรงที่ บัดนี้วาระการแก้รัฐธรรมนูญ ได้ถูกดึงเข้าสู่ “เกมในสภาฯ” ซึ่งอาจกลายเป็นการ “ตัดทาง” ที่พรรคอนาคตใหม่ และพรรคฝ่ายค้าน ต้องการดึงเกมลง “ท้องถนน” เพราะหากทำได้เช่นนั้นจริง โอกาสที่จะเพิ่ม “แนวร่วม” จาก “กลุ่มการเมืองภาคประชาชน” อันเป็น “พันธมิตร” ของอนาคตใหม่เองยิ่งมีความเป็นไปได้มากขึ้นเท่านั้น ! อย่างไรก็ดี เมื่อหันกลับมามองที่พรรคพลังประชารัฐ กับประชาธิปัตย์ กำลังพบว่า บรรยากาศทางการเมือง เริ่มคุกรุ่น โดยไม่ต้องนัดหมาย เมื่อแม้ “แกนนำ” จากพลังประชารัฐ จะออกมา “ตีกัน” แสดงออกชัดเจนว่า ตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการฯ นั้นไม่ควรจะเป็นของ พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีมติเสนอชื่อ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่ล่าสุด สุ้มเสียงจากฝั่งพรรคพลังประชารัฐเอง ก็ยังไม่ยอมถอย ประกาศจับจองเก้าอี้ ประธานคณะกรรมาธิการฯ ไม่เปลี่ยนแปลง บรรยากาศจากนี้ไป ดูเหมือนว่าจะมีแต่ร้อนระอุ ระหว่าง “พรรคร่วมรัฐบาล”ด้วยกันเอง เพราะเกมลำดับต่อไปจะอยู่ที่ต่างฝ่าย ต่างจะต้องเดินสาย เพื่อ “ล็อบบี้” บรรดา “พรรคร่วมรัฐบาล” พรรคอื่นใน ครม. ด้วยกันเองว่าที่สุดแล้ว จะยกเก้าอี้ตัวสำคัญ ตัวนี้ให้กับใคร และแม้ทางฟากพรรคพลังประชารัฐ จะยังไม่มีการ โยนชื่อ ว่าจะส่งใครลงมาชนกับ อภิสิทธิ์ แต่ทั้งนี้มีรายงานว่า ที่สุดแล้ว อาจจะต้องใช้บริการจาก “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี มือกฎหมายของรัฐบาล ให้ลงมาคุมเกมแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อไม่ให้อะไรผิดพลาด จนผิดแผนนั่นเอง !