บอกได้เลยว่า การปรากฎ “งูเห่า”ในการโหวตลงมติรับร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ครั้งนี้เป็นเพียงแค่ การเปิดหน้าเล่นสำหรับ “พรรคอนาคตใหม่” เท่านั้น เพราะเกมการเมืองที่ดุเดือด และเข้มข้น กำลังรออยู่เบื้องหน้า ! ก่อนหน้านี้ หลายคนพากันจับจ้องไปยัง “พรรคเพื่อไทย” ว่าจะมีงูเห่าปรากฎตัว ลงมติสนับสนุน ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2563 ให้กับรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมา มีส.ส.จากบางจังหวัดไปต้อนรับ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อคราวที่ยกคณะลงไปตรวจราชการที่ต่างจังหวัด จน “ผู้บริหาร” ของพรรคต้องตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ แถมยังร่ำๆว่าจะเกิดความขัดแย้งบานปลาย เพราะส.ส.เพื่อไทยที่ยกคณะไปต้อนรับพล.อ.ประยุทธ์ ก็เล่นบท “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” แม้พรรคจะขู่ว่า อาจจะไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งรอบหน้า แต่ดูเหมือนว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทย บางคนที่ถูก “เพ่งเล็ง” กลับไม่แยแส ด้วยซ้ำ ในการพิจารณาร่างกฎหมายที่สำคัญ สองฉบับครั้งล่าสุด ประกอบด้วย พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) โอนอัตรากำลังและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยงานบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ.2562 และร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2563 ดูเหมือนว่า “พรรคอนาคตใหม่” กำลังอยู่ในสภาพที่เรียกว่า “ตกที่นั่งลำบาก” มากกว่าใครเพื่อน ! เพราะพ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพลฯ ซึ่งที่ประชุมสภาฯ มีมติ376 ต่อ 70 ให้ความเห็นชอบ นั้นมีความชัดเจนว่า พรรคอนาคตใหม่ ประกาศชัดเจนว่า “ไม่เห็นชอบ” โดยเฉพาะ “ปิยบุตร แสงกนกกุล”ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค ที่อภิปรายซัดรัฐบาลว่ากำลังเสนอร่างพ.ร.ก.ที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน เข้ามาให้สภาฯเห็นชอบ โดยผลในการโหวต รอบนี้ 70 เสียงที่ไม่เห็นชอบคือ ส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่ แต่ทว่าปัญหาที่ตามมาคือการที่ รอบนี้ พรรคเพื่อไทยปล่อยให้พรรคอนาคตใหม่ “ตายเดี่ยว” เพราะดันไปโหวตให้ผ่านพ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพลฯ สวนทางกับพรรคอนาคตใหม่ อันเป็น “พันธมิตรแนวร่วม” ของพรรคฝ่ายค้านด้วยกัน มิหนำซ้ำ ยังมีรายชื่อ “3ส.ส.” ของพรรคอนาคตใหม่ที่ยกมือโหวตให้กับรัฐบาล คือ กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี ,จารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี,พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี และ ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ งดออกเสียง ต่อมา ในการลงมติของ “7พรรคฝ่ายค้าน” ต่อร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ซึ่งต่างใช้วิธี “งดออกเสียง” แต่กลับมีชื่อ กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี คนเดิมไปลงมติ สวนทางทั้งกับพรรคอนาคตใหม่ และ “7 พรรคฝ่ายค้าน” อย่างสิ้นเชิง จนทำให้ “แกนนำ” ของอนาคตใหม่ ต่างพากัน “ควันออกหู” ประกาศว่าเตรียม “ลงดาบ” เมื่อเสร็จจากการเลือกตั้งซ่อม เขต5 นครปฐม ในวันที่ 23 ต.ค.นี้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคอนาคตใหม่ ผ่านการลงมติในร่างกฎหมายสำคัญของฝ่ายรัฐบาลเช่นนี้ ย่อมไม่ใช่ เรื่องเล็ก โดยเฉพาะในจังหวะพรรคอนาคตใหม่ กำลังเผชิญกับ “วิกฤต” รอบทิศรอบทาง ทั้งจากตัว “หัวหน้าพรรค” ที่ชื่อ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่กำลังรอการชี้ชะตาจาก “ศาลรัฐธรรมนูญ” ในคดีถือหุ้นวี ลัค วันที่ 20 พ.ย.นี้ ก็จะได้รู้ว่า ธนาธร จะได้ “ไปต่อ” หรือมีอันต้อง “ปิดฉาก” ทางการเมือง หลังสิ้นคำพิพากษาจากศาลรัฐธรรมนูญ ขณะที่แกนนำของพรรคคนสำคัญอย่างปิยบุตร เองบัดนี้เหมือนกับว่าเขาเองถือธงนำทัพแทน ธนาธร ในจังหวะที่หัวหน้าพรรคกำลังติดบ่วงคดี แต่ตัวปิยบุตร เองก็มีคดีความติดตัวไม่ต่างกัน นอกจากนี้ภายในพรรคเอง ยังมีปัญหา “รอยร้าว” อันเกิดจาก “แนวคิด” ที่สวนทางกันอย่างสิ้นเชิง ระหว่าง “แกนนำพรรค” กับ สมาชิกในพรรคเองที่รู้สึกอึดอัด กับการอยู่ร่วมกับ “นักคิด” อย่าง “ธนาธร-ปิยบุตร” ที่เลือกเดินตามแนวทาง “นักกิจกรรม”โดยที่ขาดความเชี่ยวชาญ เชิงการเมือง จนทำให้พรรคตกอยู่ในความสุ่มเสี่ยง ปัญหางูเห่าสีส้ม ในพรรคอนาคตใหม่ แท้จริงแล้วอาจจะไม่ใช่เรื่องของการทรยศ หรือหักหลังพรรคเท่านั้