เมื่อมีความชัดเจนจากปาก "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ต่อประเด็นเรื่องการเคลื่อนไหวให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560 ในท่วงทำนอง"ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง" ทั้งไม่ถือธงนำ ไปจนถึงการ "ตอกกลับ" ว่า "สังคมไหน"ที่ออกมาเรียกร้องเรื่องนี้ ย่อมเป็นทั้ง วิกฤติและโอกาสสำหรับ "7 พรรคฝ่ายค้าน" ไปโดยปริยายโดยเฉพาะพรรคอนาคตใหม่ ที่ต้องเร่งเคลื่อนไหว เดินหน้าให้เกมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีความคืบหน้าให้มากที่สุด ก่อนที่ "สถานการณ์" ของพรรคเอง จะเดินไปถึงจุด "วิกฤติ" แทน หากมีอันจะต้องถูก "ยุบพรรค"กันขึ้นมาจริง ! ในท่ามกลางการต่อสู้ของ "7พรรคฝ่ายค้าน" ไม่ว่าจะเป็นทั้งใน และนอกสภาผู้แทนราษฎร ยังไม่มีผลมากพอหากที่สุดแล้ว "กับดัก" ที่พวกเขาเชื่อว่าได้ถูกวางเอาไว้ใน "รัฐธรรมนูญฉบับคสช." ยังไม่ถูก "รื้อโละ" ลงไป เพราะไม่ว่าจะเลือกตั้งกลับมารอบใหม่ หรือต่อให้พรรคฝ่ายค้านกวาดที่นั่งส.ส.ในสภาฯ ได้เหนือกว่า "พรรคพลังประชารัฐ" สักกี่เท่าตัว ก็ดูจะไม่มีความหมาย หากการเลือกตั้งยังคงต้องอยู่ภายใต้ "กติกา" ที่ คสช. เขียนขึ้นมาโดยผ่านรัฐธรรมนูญ 2560 ด้วยเหตุนี้จึงไม่ต้องแปลกใจหากจะพบว่า การเดินสายเคลื่อนไหว ปลุกระดมโจมตีรัฐบาล ไปจนถึง "มาตรการ"ต่างๆที่ทยอยเทกระจาดกันมาลง หวังกวาดคะแนนนิยมจากประชาชน ย่อมต้องเชื่อมโยงเพื่อนำไปสู่การเปิดแผลของรัฐบาล เพื่อสร้างน้ำหนัก ให้ประชาชนและสังคมทุกภาคส่วน ออกมาร่วมกดดันให้การแก้รัฐธรรมนูญเกิดขึ้นจาก"นอกสภาฯ" ให้ได้มากที่สุด แม้ล่าสุด "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ"ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จะใช้วิธีการหาแนวร่วม ยิงคำถามไปยัง "พรรคร่วมรัฐบาล" ทวงสัญญาที่เคยให้ไว้ก่อนการเลือกตั้งที่ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญคือ1ในสัญญาที่เคยประกาศเอาไว้ โดยเฉพาะการส่งเสียงทวงถามไปยัง "พรรคประชาธิปัตย์" และ "พรรคภูมิใจไทย" "การให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ไม่เอาด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ 2560 ดังนั้น จึงอยากถามไปถึงพรรคการเมืองที่เข้าร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคที่ชูนโยบายหาเสียงให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งสามารถผลักดันให้เรื่องนี้เข้าเป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลได้จะว่าอย่างไร จะมีท่าทีอย่างไรต่อไปอย่างไร เมื่อชัดเจนแล้วว่าผู้นำของฝ่ายรัฐบาลที่ท่านเข้าร่วมด้วยนั้น ไม่เอาด้วยกับการแก้ไข" ธนาธร ระบุ (2 ต.ค.62) อย่างไรก็ดี แรงกดดันที่ธนาธร และพรรคฝ่ายค้านกำลังช่วยกันกระแทกไปยังพรรคร่วมรัฐบาลนั้น มีความเป็นไปได้ว่า ลึกๆแล้วฝ่ายค้านเองต่างรู้ดีว่า"เป็นไปได้ยาก" นาทีนี้ หากจับตาและติดตามทุกความเคลื่อนไหวใน ครม.กันให้ดีๆ จะพบว่า "รัฐมนตรี" ของแต่ละพรรคร่วมต่างเร่งมือ ขมีขมันทำงานแข่งกัน เพื่อสร้างผลงานแทบทุกกระทรวง ด้วยไม่มีใครยอมเป็น "รัฐมนตรีโลกลืม"เหมือนเช่น5 ปีที่ผ่านมา เมื่อ "ผลงาน" ซึ่งจะนำมาซึ่ง"คะแนนนิยม" ของรัฐบาลและยังเป็น"เกราะป้องกัน" ไม่ให้ตัวเองตกอยู่ในความเสี่ยง ในวันข้างหน้าเมื่อมีการ "ปรับครม." เพื่อรองรับ "งูเห่า" จากฝั่งตรงข้าม เข้าร่วมรัฐบาล สถานการณ์เช่นนี้ เชื่อเถอะว่าแม้แต่ตัวธนาธรเอง ก็รู้ดีว่า เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ส่งสัญญาณแรงชัด เบรกเกมแก้รัฐธรรมนูญกันซึ่งๆหน้าแล้ว ความเงียบสงัดจะบังเกิดตามมา ได้ไม่ยาก !