ความเชื่อ พระเครื่อง

พระหลวงพ่อโต กรุวัดป่ามะม่วง สุโขทัย

แชร์ข่าว

สัปดาห์พระเครื่อง / อ.ราม วัชรประดิษฐ์

พระหลวงพ่อโต กรุวัดป่ามะม่วง สุโขทัย เป็นพระเนื้อดิน แบบครึ่งซีก มีทั้งเนื้อหยาบและเนื้อละเอียด เนื้อมวลสารมีส่วนผสมของเนื้อว่านและส่วนใหญ่เป็นสีแดงและเหลือง

พระวัดป่ามะม่วง เป็นพระพิมพ์เก่าแก่ของจังหวัดสุโขทัย ซึ่งนับว่ามีชื่อเสียงเป็นที่นิยมสะสมและหวงแหนของชาวสุโขทัยและจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งแวดวงนักนิยมสะสมพระเครื่อง เนื่องด้วยกิตติศัพท์ปรากฏในด้านคงกระพันชาตรีเป็นเลิศ กอปรกับถิ่นกำเนิดคือ "วัดป่ามะม่วง" นั้น นับเป็นวัดที่เก่าแก่มาก สร้างมาตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช แห่งกรุงสุโขทัย

เรื่องราวตามประวัติศาสตร์ปรากฏความว่า ในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่และทรงไว้ซึ่งทศพิธราชธรรม พระองค์ทรงขยายอาณาเขตอย่างกว้างไกลจนถึงเมืองนครศรีธรรมราช

ณ เมืองนครศรีธรรมราชนี้เอง พระองค์ทรงอาราธนาพระมหาเถระที่ได้ไปบวชเรียนตามพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์แบบหินยานจากประเทศลังกามายังกรุงสุโขทัย โปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช และสร้าง "วัดป่ามะม่วง" ซึ่งเป็นบริเวณที่เงียบสงบเหมาะแก่การเจริญภาวนาและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอันเป็นกิจของสงฆ์ฝ่ายอรัญวาสี ให้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช และโปรดให้เป็นที่แสดงธรรมเทศนาแก่ประชาชนในวันพระ

ส่วนวันธรรมดาจัดให้เป็นที่ว่าราชการงานเมืองแก่ข้าราชบริพาร จึงนับได้ว่า "วัดป่ามะม่วง" นี้ เป็นวัดที่มีความสำคัญทั้งทางศาสนประวัติและประวัติศาสตร์ชาติไทยยิ่งนัก นอกจากนี้ พระองค์ทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศลังกา และได้รับมอบ "พระพุทธสิหิงค์" พระพุทธรูปศิลปะแบบลังกาองค์แรก มาเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองและเป็นต้นแบบในการสร้างถาวรวัตถุทางพุทธศาสนาสืบต่อมาอีกด้วย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาพุทธศาสนาลัทธิมหายานที่เคยเป็นศาสนาประจำกรุงสุโขทัยจึงเริ่มเสื่อมลงและสูญสิ้นไปในที่สุด หันมานับถือพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์แบบหินยานสืบมา

"พระวัดป่ามะม่วง" เป็นพระเนื้อดิน แบบครึ่งซีก มีทั้งเนื้อหยาบและเนื้อละเอียด เนื้อมวลสารมีส่วนผสมของเนื้อว่านและเกสร จึงแลดูนุ่มและปรากฏคราบรารักอยู่โดยทั่วไป สีส่วนใหญ่เป็นสีแดงและเหลือง และเนื่องจากเป็นพระที่บรรจุกรุจึงปรากฏคราบนวลกรุอยู่ทั่วองค์พระ

พุทธลักษณะ เป็นพระรูปทรงกลีบบัว ทรงพิมพ์ติดคมชัดเจน องค์พระประธานมีพุทธลักษณะคล้ายพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสน ประทับนั่ง แสดงปางมารวิชัยแบบขัดสมาธิราบ บนฐานหมอน 2 ชั้น ภายในซุ้มเรือนแก้วเส้นคู่ขนาน ปลายด้านล่างสุดงอนขึ้นคล้ายเศียรพญานาค พระเกศแบบเกศบัวตูมอยู่บนมุ่นเมาลี พระศกนูนเด่นชัดเจน เชื่อมต่อลงมาเป็นพระกรรณ หรือที่เรียกกันว่า "ชฎาเลื้อย" พระพักตร์กลมป้อม ปรากฏพระเนตร พระนาสิก และพระโอษฐ์อย่างชัดเจน ปรากฏเส้นวาดแสดงลำพระศอต่อจากพระพักตร์ถึงพระอังสา ในองค์ที่ติดชัดเจนจะเห็น "เส้นพระศอ" ด้วย พระอุระอวบอูม และลาดเว้าลงมาเป็นพระอุทร กลมกลืนสง่างาม เส้นสังฆาฏิเป็นเส้นคู่ขนาน ลากยาวลงมาจนถึงพระนาภีซึ่งเป็นหลุมลึกชัดเจน และประการสำคัญที่นับเป็นเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะคือ พระพักตร์ช่วงหน้าจะมีลักษณะหักลงมา ส่วนพิมพ์ด้านหลัง มีลักษณะโค้งมน ซึ่งพระวัดป่ามะม่วงที่พบในกรุวัดอื่นๆ อาทิ วัดมหาธาตุ และวัดสระศรี ที่มีพุทธลักษณะเหมือนกันทุกประการ ยกเว้น พระพักตร์จะไม่หัก และพิมพ์ด้านหลังจะเป็นพิมพ์หลังแบน ครับผม