ท่ามกลางความไม่แน่นอนและความผันผวนของการค้าโลก การประสานนโยบายการค้ากับหลักการงานที่มีคุณค่า (Decent Work) เป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในระยะยาว โดยประเด็นดังกล่าวเป็นข้อสรุปจากเวทีเสวนานโยบายระดับชาติที่จัดขึ้น ณ กรุงเทพมหานคร
เวทีเสวนาดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ภายใต้หัวข้อ “งานที่มีคุณค่า และความพร้อมด้านการค้า: การเสริมศักยภาพของประเทศไทยสู่ความสามารถในการแข่งขันในยุคที่การค้ากำลังเปลี่ยนแปลง” โดยกิจกรรมดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย องค์การแรงงานระหว่างประเทศ และสหภาพยุโรป (EU) และมีผู้เข้าร่วมจากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรฝ่ายนายจ้าง องค์กรฝ่ายลูกจ้าง คณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย นักวิชาการ และภาคประชาสังคมรวมกว่า 60 คน เข้าร่วมกิจกรรม
การเสวนามุ่งเน้นประเด็นสำคัญ ได้แก่ การเชื่อมโยงการค้า มาตรฐานแรงงานและความยั่งยืน การบูรณาการหลักการเปลี่ยนผ่านที่ยุติธรรมให้เข้ากับโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) ของไทย และแนวโน้มของข้อบทเกี่ยวกับแรงงานในการตกลงการค้าเสรี (FTAs)
นายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถในการปรับตัวต่อความไม่แน่นอนของการค้าโลก และพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาการค้าของไทยให้เติบโตพร้อมแข่งขันได้และมีความเป็นธรรม โดยจำเป็นต้องบูรณาการนโยบายการค้า การจ้างงาน นโยบายทางสังคม และมาตรฐานแรงงานให้สอดประสานกัน เวทีเสวนาครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญสู่ความสอดคล้องด้านนโยบายและความมั่งคั่งร่วมกัน
นางเสี่ยวเหยียน เฉียน ผู้อำนวยการสำนักงานประจำเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสำนักงานประจำประเทศไทย กัมพูชา และสปป.ลาว องค์การแรงงานระหว่างประเทศ กล่าวว่า ประเทศไทยได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่กับงานที่มีคุณค่าและความเป็นธรรมทางสังคม องค์การแรงงานระหว่างประเทศขอชื่นชมบทบาทของกระทรวงแรงงาน รวมถึงการสนับสนุนจากสหภาพยุโรปที่ช่วยผลักดันเวทีเสวนาในครั้งนี้ร่วมกัน เรากำลังวางรากฐานเพื่อให้ขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าของไทยขับเคลื่อนด้วยงานที่มีคุณค่าและการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง
ขณะที่นายอันเดรียส โรทเกอร์ หัวหน้าทีมปฏิบัติการด้านเครื่องมือทางนโยบายต่างประเทศ (FPI) ประจำเอเชียและแปซิฟิก ของสหภาพยุโรป กล่าวว่า เวทีการเสวนาครั้งนี้สะท้อนความร่วมมือระหว่างสหภาพยุโรป องค์การแรงงานระหว่างประเทศ และรัฐบาลไทย โดยสหภาพยุโรปภูมิใจที่ได้สนับสนุนความพยายามของไทยสู่การเติบโตที่ครอบคลุมและยั่งยืน เราเชื่อว่าประโยชน์ของการค้าเสรีจะมีพลวัตจริงเมื่อมีการเคารพสิทธิแรงงาน มีความครอบคลุม และการคุ้มครองความเป็นอยู่ที่ดีของทั้งนายจ้างและลูกจ้าง
นอกจากนี้ภายในงานมีการจัดประชุมเชิงลึกรายหัวข้อ อาทิ การลดอุปสรรคในการสร้างความสามารถในการแข่งขันทางการค้า การเปลี่ยนผ่านอย่างยุติธรรม แนวโน้มในมิติด้านเศรษฐกิจ และตลาดแรงงานที่เชื่อมโยงกับความสามารถในการแข่งขัน โดยผู้เชี่ยวชาญจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ หน่วยงานรัฐ และองค์กรพันธมิตรจากภาคประชาสังคมได้ร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติตามหลักการงานที่มีคุณค่า ซึ่งจะมีส่วนช่วยเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีโลกและดึงดูดการลงทุนที่มีคุณภาพ
ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมการเสวนาแสดงความมุ่งมั่นร่วมกันในการเสริมสร้างความสอดคล้องของนโยบายการค้าและนโยบายแรงงาน โดยองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ร่วมกับสหภาพยุโรปจะสานต่อความร่วมมือกับรัฐบาลไทย องค์กรฝ่ายนายจ้าง และองค์กรฝ่ายลูกจ้าง เพื่อติดตามข้อเสนอแนะ รวมถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาความร่วมมือทางเทคนิค และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิก







