ประชาสัมพันธ์

การพบจิตแพทย์ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่คือจุดเริ่มต้นของการดูแลตัวเอง

แชร์ข่าว

ในโลกยุคปัจจุบันทเราเปิดรับเรื่องของสุขภาพใจมากขึ้น เมื่อเที่ยบกับเมื่อ 10 ปีก่อน แต่ต้องยอมรับว่า ยังมีคนอีกหลายๆคนที่มองว่า การไปพบจิตแพทย์ยังฟังดูน่ากลัว หรือรู้สึกว่าเป็นเรื่องหนักหนา

หลายๆครั้งอยากให้ทุกคนมองว่า เราไม่จำเป็นต้องป่วยถึงพบจิตแพทย์  ถ้าเรารู้สึกว่า ใจเราเหนื่อยจัง อยากหาคนปรึกษา อยากหาคนช่วยดูแลใจ ก็สามารถมาพบจิตแพทย์ ที่มายด์ดีคลินิกได้

หรือบางคนมาหาเพราะอยาก “เข้าใจตัวเองให้มากขึ้น” อยาก “ปรับสมดุลชีวิต”หรือบางคนแค่อยากมี “พื้นที่ปลอดภัยในการพูด โดยไม่ถูกตัดสิน”จิตแพทย์คือผู้ฟังที่พร้อมเข้าใจและช่วยให้คุณมองเห็นสิ่งดีๆ ในตัวเอง ช่วยให้คุณเติบโตจากความเครียด ความกลัว และความเหนื่อยล้า ไปสู่ความเข้มแข็งที่อบอุ่นจากข้างในเพราะสุขภาพใจดี ไม่ได้แปลว่า “ไม่มีปัญหา” แต่มันหมายถึง…คุณกล้าที่จะเผชิญกับสิ่งต่างๆ ด้วยหัวใจที่อ่อนโยนและเข้าใจตัวเอง

หลายคนอาจเคยได้ยินคำพูดที่บอกว่า “ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว” นั่นหมายถึง ใจ กับ กายนั่น มีความสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่น ถ้าใจป่วย ร่างกายก็อ่อนเพลีย มีโอกาสเป็นโรคต่างๆมากขึ้น และถ้ากายป่วย ร่วมกับมีโรคทางใจที่ไม่แข็งแรงโอกาสที่จะหายจากโรคทางกายก็ยากขึ้น

การที่เราฟังเสียงข้างในของเราเอง ยอมรับว่าเรากำลังเหนื่อย ล้า หรือมีบางอย่างที่รบกวนชีวิตและอยากดูแลใจของเรา ถือเป็นการใจดีกับตัวเราเอง และฟังเสียงข้างในของเราจริงๆ ลองให้โอกาสตัวเองได้ดูแล “ใจ” เหมือนที่คุณดูแล “กาย” ไม่ต้องรอให้ป่วยก่อน คุณก็สามารถมาพบจิตแพทย์ ที่มายด์ดีคลินิกได้

สัญญาณที่บอกว่า ถึงเวลา ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

●     อารมณ์เศร้า เบื่อหน่าย  วิตกกังวล เพลีย ไม่มีแรง ย้ำคิดย้ำทำ
●     การนอนผิดปกติ นอนไม่หลับ หลับไม่สนิท หรือหลับมากเกินไป หรือ หลับๆตื่นๆ

●     สมาธิสั้นลง ไม่มีสมาธิในการทำงาน คิดงานไม่ออกเหม่อลอย หลงลืม หมดไฟ burn out

●     มีอาการทางกาย เช่น ใจสั่น แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ปวดหัว  เวียนหัว โดยตรวจร่างกายแล้วปกติ    

●     หงุดหงิดง่าย อารมณ์รุนแรง ร่าเริงผิดปกติ ใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย  

●     ไม่อยากคุยกับใคร บุคลิคภาพเปลี่ยนไป ไม่อยากเข้าสังคม  

●     หูแว่ว ประสาทหลอน หวาดระแวง กลัวคนคิดไม่ดีกับตนเอง

●     ใช้สุรา สารเสพติด บุหรี่ หรือเกม/โซเชียล ติดการพนัน เพื่อหนีความรู้สึกจนกระทบชีวิต

●     มีความคิดทำร้ายตนเอง รู้สึกอยากหายไป ชีวิตไม่มีค่า ไม่มีความหมาย สิ้นหวัง หมดหวัง

หากมีหลายข้อพร้อมกัน หรือรู้สึกว่าพฤติกรรมเปลี่ยนจนชีวิตประจำวันเสียสมดุล นั่นคือสัญญาณชัดเจนว่าควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การตรวจเร็วคือการป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลาม

เตรียมตัวก่อนเข้าพบจิตแพทย์

จริงๆ ไม่อยากให้รู้สึกว่าการมาพบจิตแพทย์ ต้องเตรียมตัวอะไรมากมาย แค่คุณรู้สึกอยากดูแล‘ใจ‘ ก็สามารถมาที่มายด์ดีคลินิกได้

ตั้งเป้าหมายง่ายๆ สำหรับการนัดครั้งแรก

อยากให้ทำใจสบายๆ ในการคุยกับจิตแพทย์ หรือลองคิดทบทวนว่า สิ่งไหน ที่ทำให้ใจและกายเราทรมาณที่สุดในช่วงที่ผ่านมา เช่น อยากนอนหลับได้ อยากกลับมาทำงานได้เต็มที่ หรืออยากเข้าใจอารมณ์ตัวเองมากขึ้น เพื่อจะได้มีเป้าหมาย (Goal) ในการคุยจะช่วยทำให้การคุยมีทิศทางและทำให้แผนการรักษาชัดเจน

เขียนบันทึกอาการและเหตุการณ์สำคัญ

จดช่วงเวลาที่มีอาการ สิ่งกระตุ้น และสิ่งที่ช่วยให้อาการดีขึ้น พร้อมประวัติการรักษา การใช้ยา อาการทางกาย และโรคประจำตัว เพื่อความปลอดภัยและความแม่นยำในการวินิจฉัย

เตรียมคำถามที่อยากรู้

เช่น อาการของเราเรียกว่าอะไร มีทางเลือกการรักษาแบบใด ผลข้างเคียงของยา การบำบัดใช้เวลาประมาณเท่าไร และควรดูแลตัวเองอย่างไรระหว่างทาง

ขั้นตอนการดูแลทั่วไปเมื่อไปพบจิตแพทย์

ประเมินอาการและบริบทชีวิต

แพทย์จะซักประวัติ พฤติกรรมการนอน การกิน ภาระงาน ความสัมพันธ์ และเหตุการณ์ที่เป็นตัวกระตุ้น เพื่อให้เห็นภาพรวม ไม่ใช่แค่ชื่อโรค

วางแผนการรักษาแบบผสมผสาน

แนวทางอาจเป็นจิตบำบัดล้วน การใช้ยาในช่วงที่จำเป็น หรือผสมกัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและเป้าหมายชีวิต ไม่ใช่ทุกคนต้องใช้ยา และไม่ใช่ทุกคนเหมาะกับการบำบัดรูปแบบเดียว

ติดตามผลและปรับแผน

การรักษาสุขภาพใจเป็นกระบวนการที่มีการปรับเปลี่ยน แพทย์จะนัดติดตามเพื่อดูความคืบหน้าและผลข้างเคียง และอาจปรับยา เทคนิคบำบัด หรือเป้าหมายให้สอดคล้องกับความเป็นจริง

ทำอย่างไรให้การรักษา “เห็นผล” และยั่งยืน

ดูแลรากฐานร่างกาย

นอนให้พอ ออกกำลังกายเบา อาหารสมดุล และแสงแดดยามเช้า ล้วนเป็นฐานสำคัญที่ช่วยให้สมองทำงานสมดุล การใช้คาเฟอีนและแอลกอฮอล์ควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม

สร้างกิจวัตรที่เป็นมิตรกับใจ

กำหนดเวลานอนตื่นใกล้เคียงกัน ทำกิจกรรมเล็กๆ ที่ให้ความหมาย เช่น เดินสั้นๆ อ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือทำงานฝีมือ การค่อยๆ เพิ่มกิจกรรมช่วยให้สมองเรียนรู้ว่าชีวิตยังไปต่อได้

บันทึกความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอ

จดระดับอารมณ์ คุณภาพการนอน เหตุการณ์ที่กระตุ้น และสิ่งที่ช่วยได้ เพื่อเห็นรูปแบบและปรับได้เร็วขึ้น

ความสัมพันธ์ การสื่อสาร และการบอกคนรอบตัว

หลายคนกังวลว่าจะอธิบายอย่างไรให้คนใกล้ชิดเข้าใจ ลองเริ่มจากการบอกความรู้สึกและความต้องการที่เป็นรูปธรรม เช่น ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยและสับสน อยากลองไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อดูวิธีดูแลตัวเอง ขอให้ช่วยรับฟังและช่วยเตือนนัดก็พอ ไม่จำเป็นต้องเล่าลึกจนไม่สบายใจ การขอความช่วยเหลือเล็กๆ เช่น ชวนเดินออกกำลังกาย หรือช่วยจัดบ้านให้เรียบร้อย ก็ช่วยให้การฟื้นตัวเดินต่อได้ง่ายขึ้น

ความเข้าใจเรื่องยา: คำถามที่พบบ่อยและแนวคิดสำคัญ

ต้องกินยานานไหม

ระยะเวลาแตกต่างกันตามอาการ บางเคสใช้ระยะสั้นเพื่อข้ามช่วงหนัก บางเคสใช้ระยะยาวเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ สิ่งสำคัญคือไม่หยุดยาเอง และพูดคุยกับแพทย์เมื่อมีผลข้างเคียง

กลัวผลข้างเคียงทำอย่างไร

แจ้งแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการไม่สบาย การปรับขนาดยา เปลี่ยนชนิด หรือปรับเวลาใช้ยามักช่วยได้ อย่าปรับเองโดยไม่ปรึกษา

ถ้าไม่อยากใช้ยาเลยได้ไหม

บางอาการตอบสนองต่อจิตบำบัดและการดูแลพื้นฐานได้ดี แต่ในช่วงอาการหนัก การใช้ยาช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้นเพื่อกลับไปใช้เครื่องมืออื่นต่อ คุยกับแพทย์เพื่อหาทางเลือกที่เหมาะกับคุณที่สุด

เข้าใจการบำบัด: เลือกรูปแบบที่เข้ากับเรา

จิตบำบัดมีหลายแนว เช่น CBT ที่ช่วยจัดการความคิดและพฤติกรรม ACT ที่เน้นยอมรับความรู้สึกและเดินตามคุณค่าชีวิต Mindfulness ที่ช่วยฝึกสังเกตอย่างไม่ตัดสิน หรือบำบัดเชิงความสัมพันธ์ที่ช่วยปรับการสื่อสาร เลือกแนวทางจากเป้าหมาย ช่วงเวลา และความเข้ากันได้กับนักบำบัด สำคัญที่สุดคือความรู้สึกปลอดภัยและไว้ใจได้

บริหารความคาดหวัง: เส้นทางการฟื้นตัวไม่ได้เป็นเส้นตรง

บางวันดีขึ้น บางวันเหมือนถอยหลัง นี่เป็นธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลง อย่าตัดสินตัวเองจากวันที่ยาก ให้มองภาพรวมรายสัปดาห์มากกว่าวันต่อวัน การมีเครื่องมือรับมือ เช่น การหายใจช้า การพักสายตา การเขียนบันทึก และการติดต่อคนที่ไว้ใจได้ จะช่วยพยุงเราขณะรอให้การรักษาออกผล

เมื่อต้องทำงานและเรียนไปด้วย: เคล็ดลับประคองสมดุล

●     จัดลำดับงานสำคัญพอทำได้ในแต่ละวัน ไม่ต้องทำทั้งหมด

●     แจ้งหัวหน้างานหรืออาจารย์เท่าที่จำเป็นเพื่อขอปรับเวลา ส่งงาน หรือรูปแบบประเมิน

●     ใช้เทคนิคแบ่งเวลา เช่น ทำงาน 25 นาทีพัก 5 นาที ลดการเลื่อนมือถือ

●     ใส่กิจกรรมเติมพลังสั้นๆ ระหว่างวัน เช่น ยืดตัว เดิน สูดหายใจลึก

ความปลอดภัยมาก่อน หากมีความคิดทำร้ายตนเอง

ความคิดแบบนี้อาจโผล่มาในวันที่เหนื่อยมาก วางแผนความปลอดภัยไว้ล่วงหน้า เช่น รายชื่อคนที่ติดต่อได้ทันที สถานที่ที่รู้สึกปลอดภัย และหมายเลขสายด่วนสุขภาพจิตในพื้นที่ หากความคิดแรงหรือมีแผนชัดเจน ให้ขอความช่วยเหลือทันทีและไปพบแพทย์โดยไม่ต้องรอคิวปกติ ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีช่วยชีวิตได้จริง

เริ่มวันนี้: แผนเล็กๆ 7 วัน ดูแลใจอย่างเป็นรูปธรรม

วันจันทร์ ตั้งนัดหมาย

หาเวลาที่สะดวกและจองคิวปรึกษา ไม่ต้องรอให้พร้อมสมบูรณ์ แค่เริ่มคือก้าวสำคัญ

วันอังคาร เคลียร์ตารางเล็กน้อย

กันเวลา 60–90 นาทีในวันนัด และเตรียมเอกสารที่จำเป็น

วันพุธ สำรวจอาการ

จดสิ่งที่กังวล นิสัยการนอน สิ่งที่ช่วยได้ และสถานการณ์ที่ยาก

วันพฤหัสฯ คุยกับคนที่ไว้ใจ

แจ้งสั้นๆ ว่าจะไปปรึกษา ขอให้ช่วยเตือนหรือไปด้วยหากอยากได้เพื่อนร่วมทาง

วันศุกร์ เตรียมคำถาม

เขียนคำถามที่คาใจ เพื่อไม่ลืมถามในห้องตรวจ

วันเสาร์ ทำกิจกรรมเบาๆ

เดินสั้นๆ จัดมุมห้องให้น่านั่ง หรือทำอาหารง่ายๆ เพื่อสร้างความรู้สึกสำเร็จเล็กๆ

วันอาทิตย์ ทบทวนและตั้งเป้าสัปดาห์ถัดไป

ตั้งเป้าหมายเล็กๆ เช่น เข้านอนเร็วขึ้น 15 นาทีต่อคืน หรือจำกัดคาเฟอีนช่วงบ่าย

สรุป ความกล้าคือการเริ่มดูแลตัวเองอย่างจริงจัง

การพบจิตแพทย์ไม่ใช่การยอมแพ้ แต่เป็นการยอมรับว่าคุณสำคัญพอที่จะดูแลตัวเองอย่างมืออาชีพ สุขภาพใจดีขึ้นได้เมื่อมีแผนที่เหมาะกับชีวิตจริง มีทีมผู้เชี่ยวชาญที่ไว้ใจได้ และมีความสม่ำเสมอในการดูแลพื้นฐาน

แนะนำ Mind D Clinic คลินิกสุขภาพใจ

Mind D Clinic คือคลินิกสุขภาพใจที่มุ่งเน้นการดูแลอย่างอ่อนโยนและเป็นระบบ ให้บริการปรึกษาจิตแพทย์ จิตบำบัดรายบุคคล คู่รัก และครอบครัว พร้อมแนวทางการดูแลตนเองที่นำไปใช้ได้จริง จุดเด่นคือการประเมินแบบองค์รวม การสื่อสารที่เข้าใจง่าย และแผนติดตามผลที่ยืดหยุ่นตามวิถีชีวิต ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นจากศูนย์ อยากกลับมานอนหลับดีขึ้น หรืออยากจัดการความเครียดให้สมดุล ทีมผู้เชี่ยวชาญพร้อมเดินเคียงข้างคุณ หากคุณกำลังมองหาจุดเริ่มต้นอย่างปลอดภัย ลองนัดหมายครั้งแรก แล้วให้เราเป็นทีมสนับสนุนการดูแลใจของคุณในทุกก้าวต่อไป

Tel: 088 642 4445

Website: https://minddclinic.com/

Facebook: https://www.facebook.com/MindDClinic/

Email: minddclinic@gmail.com

ข่าวแนะนำ

แชร์ข่าว