ข่าวภูมิภาค

บุกจับพ่อค้ายาคาบ้านพัก ยึดยาเค 9 ถุง หนักกว่า 750 กรัม สารภาพซื้อผ่านวิดีโอคอลจากเรือนจำกัมพูชา

แชร์ข่าว

ขอนแก่นบุกจับพ่อค้ายา คาบ้านพัก ตรวจยึดของกลางยาเค 9 ถุง น้ำหนักรวมกว่า 750 กรัม สารภาพสิ้น ซื้อจาก "บอสเต๋า" ผ่านระบบ วีดีโอคอลมาจากเรือนจำกัมพูชา ขีดละ 18,000 บาท ก่อนนำมาขายเป็นกรัมละ 400 บาท

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ธ.ค.68 พ.ต.อ.วงศกร วันชัย ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น เปิดเผยว่า พ.ต.ท.ธนากร พาเบ้า  สว.กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม บุกเข้าทำการจับกุมตัว นายกีรติ หรือป๋อม อายุ 26 ปี ภายในบ้านแห่งหนึ่ง ม.23 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา (23 ธ.ค.68) ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากสายลับ ว่านายป๋อม มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเคในพื้นที่ โดยใช้บ้านหลังดังกล่าวเป็นสถานที่ซื้อขายและมั่วสุมเสพยาเสพติด ซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นเข้าออกเป็นประจำ

"กำลังเจ้าหน้าที่จึงวางแผนจับกุมและเข้าตรวจสอบซึ่ง จากการตรวจสอบตามเบาะแสเมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าวพบนายป๋อม กำลังนั่งเสพยาเคอยู่ภายในห้องนอนที่อยู่นอกตัวบ้าน โดยเจ้าหน้าที่สามารถมองเห็นผ่านกระจำจากนอกตัวบ้านได้อย่างชัดเจน ก่อนทำการแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและทำการตรวจค้นจับกุม ซึ่งพบยาเค 1 ถุงอยู่ภายในมือขวาของนายป๋อม และพบาเคอีกจำนวนหลายถุงซุกซ่อนอยู่ภายในห้องนอน"

พ.ต.อ.วงศกร กล่าวต่อว่า  เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดยาเคได้จำนวน 9 ถุง น้ำหนักรวม 750.7 กรัม พร้อมตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ พบมีข้อความติดต่อซื้อขายกับลูกค้าหลายราย และมีการติดต่อซื้อยาเสพติดดังกล่าวจาก บอสเต๋า เอเย่นต์รายใหญ่ที่ส่งยาเคให้นายป๋อมนำมาขายในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันบอสเต๋า ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำประเทศกัมพูชา โดยเรือนจำในประเทศกัมพูชานั้นสามารถใช้โทรศัพท์ได้ 

"บอสเต๋าได้ทำการวีดีโอคอลมาหานายป๋อม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการจับกุม ก่อนที่บอสเต๋าจะรู้ว่าเป็นตำรวจรับสายจึงรีบตัดสายไป จึงควบคุมตัวมาสอบสวน ซึ่ง นายป๋อม ให้การรับสารภาพว่า ได้ติดต่อซื้อยาเคดังกล่าวมาจาก บอสเต๋า ผ่านทางเฟซบุ๊ก และทางแอปพลเคชันไลน์โดยรับยาเคมาในราคาขีดละ 18,000 บาท จำนวน 8 ขีด เป็นเงินทั้งสิ้น 144,000 บาท โดยจะผ่อนจ่ายภายหลัง ก่อนจะนำมาแบ่งขายให้กับลูกค้าเป็นกรัม กรัมละ 400 บาท ซึ่ง 1 ขีดก็จะสามารถขายได้ทั้งสิ้น 40,000 บาท 8 ขีดก็จะเป็นเงิน 320,000 บาท และยาเคที่สั่งซื้อมาจำหน่ายนั้นก็นำมาเสพเองด้วย"

พ.ต.อ.วงศกร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสอบสวนขยายผลพบว่า บอสเต๋า เป็นคนสั่งงานจากในเรือนจำประเทศกัมพูชา ซึ่งในเรือนจำนั้นสามารถใช้โทรศัพท์ได้ โดยมีการติดต่อสั่งงานซื้อขายยาเคกับนายป๋อม มาอย่างต่อเนื่อง และจากการตรวจสอบประวัติของ บอสเต๋า ทราบชื่อ คือนายปิติ อายุ 30 ปี มีภูมิลำเนาอยู่เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ผู้ต้องหามีหมายจับข้อหาสมคบกันค้ายาเสพติด ยาบ้า 200,000 เม็ด ในท้องที่กรุงเทพฯ และหลบหนีไปที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งไทยได้ประสานส่งหมายจับดังกล่าวไปกระทั่งบอสเต๋าถูกจับ และถูกควบคุมตัวอยู่ในประเทศกัมพูชา ซึ่งทางตำรวจก็จะได้ออกหมายจับเพิ่มเติมตามขั้นตอนต่อไป

#ภูมิภาค-48