เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 3 ธ.ค.2568 ที่โรงแรมอวานี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงาน "World Ikat Textiles Symposium 2025" โดยมีนายยุทธพร พิรุณสาร รอง ผวจ.ขอนแก่น หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาคเอกชน องค์การมหาชน เข้าร่วมงาน ภายใต้แนวคิดหัวข้อหลักของงาน TIES for TOMORROW : Weaving Heritage into Sustainable Futures " ทอภูมิปัญญา ผูกสายใยแห่งความยั่งยืน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสมาคมการค้าส่งเสริมหัตถกรรมไทย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ และจังหวัดขอนแก่น
น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า สภาหัตถกรรมโลกได้ประกาศให้ จ.ขอนแก่น เป็นเมืองหัตถกรรมโลก แห่งผ้ามัดหมี่ World Craft City for lkat (Mudmee) ซึ่งส่งผลให้จังหวัดขอนแก่น เป็นศูนย์กลางงานผ้าหัตถกรรมของอีสาน เกิดการเชื่อมโยงเครือข่าย และเป็นการขยายโอกาสทางการตลาดให้กับกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการผ้ามัดหมี่ในพื้นที่จ.ขอนแก่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดขอนแก่น ให้สอดคล้องกับการเป็นเมืองแห่งการประชุมสัมมนาและแสดงนิทรรศการ หรือ MICE CITY และสมาคมการค้าส่งเสริมหัตถกรรมไทยในฐานะหน่วยงานสมาชิกประจำประเทศไทยของสภาหัตถกรรมโลก
"เรามีเป้าหมายหลักเพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาผ้ามัดหมี่ ส่งเสริมและเผยแพร่ชื่อเสียงผ้ามัดหมี่ให้เป็นที่รู้จักและนิยมใช้ พร้อมทั้งยกระดับผ้าทอมือ ผ้ามัดหมี่ นำมาซึ่งการสร้างรายได้และส่งเสริมอาชีพการผลิตผ้ามัดหมี่ให้กับชุมชนอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน อีกทั้งเป็นการเผยแพร่และส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ จากผู้เชี่ยวชาญด้านผ้ามัดหมี่จากประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายผ้ามัดหมี่ให้แข็งแกร่งในระดับโลก"
นายภพพล เกษมสันต์ ณ อยุธยา ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.ขอนแก่น กล่าวว่า งานดังกล่าวจัดขึ้นในระหว่าง 3 - 5 ธ.ค.ธันวาคม โดยมีการแสดงนิทรรศการนานาชาติ (Exhibition), การสาธิตเทคนิค (Workshop), การแสดงแฟชั่นโชว์ (Fashion Show) ,การจำหน่ายสินค้า (Craft Market) นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมภายในงาน การเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการด้านผ้า และผู้เกี่ยวข้องด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอเข้ามาร่วมงานประมาณ 200-300 คน เพื่อเพิ่มโอกาสเข้ามาทำงานร่วมกัน ติดต่อซื้อขาย คาดหวังว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น กับเศรษฐกิจจังหวัดขอนแก่นในฐานะขอนแก่นไมซ์ซิตี้ และเกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจภูมิภาค โดยคาดว่าจะเกิดเม็ดเงินหมุนเวียนจากการเจรจาธุรกิจในครั้งแรกนี้ ต่อระบบเศรษฐกิจประมาณ 200-300 ล้านบาท
#ภูมิภาค-48







