วันนี้ (23 พ.ย. 68) นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เผยเมื่อวานนี้ตนได้ติดตามคณะท่านอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งได้สั่งการด่วนให้หน่วยปฏิบัติของ ปภ.ที่ดูแลพื้นที่ภาคใต้อยู่ในขณะนี้ เร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบสถานการณ์อุทกภัย โดยกำชับเจ้าหน้าที่ให้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแจ้งเตือนภัยได้ทันเวลา เน้นย้ำการช่วยเหลืออพยพประชาชนโดยเร็ว พร้อมระดมสรรพกำลังเครื่องจักรกลสาธารณภัยของศูนย์ ปภ. เขตต่างๆ ขณะนี้อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมดแล้วรวมกว่า.... รายการ ซึ่ง ปภ.พร้อมประสานและเร่งดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบหลักเกณฑ์ฯ โดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ข้อสั่งการเร่งด่วน 7 ประเด็น ของนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สอดรับกับข้อสั่งการของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ต้องการให้พี่น้องประชาชนที่ประสบอุกทภัยภาคใต้ได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด โดยอธิบดี ปภ. ได้เน้นย้ำประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. จัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังปริมาณฝน ระดับน้ำ และสภาพอากาศ ในพื้นที่อย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง ตลอด 24 ชั่วโมง และให้พื้นที่ที่พบข้อมูลความเสี่ยงประสานข้อมูลกับหน่วยงานส่วนกลางอย่างเรียลไทม์เพื่อวางแผนการแจ้งเตือนประชาชนให้รวดเร็ว ตรงจุด
2. แจ้งเตือนภัยผ่านระบบ Cell Broadcast อย่างรวดเร็ว ให้ครอบคลุมพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ให้ประชาชนรับทราบล่วงหน้าเพื่อเพิ่มความพร้อมในการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน และสามารถปฏิบัติตนได้ถูกต้อง ลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น
3. เร่งอพยพและช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยจัดรถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประบภัย เรือพร้อมเสื้อชูชีพ และรถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว สำหรับช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะจุดที่ยากแก่การเข้าถึง และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในกรณีที่ต้องได้รับการบริการทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ และผู้ป่วยติดเตียง
4. ประสานการสนับสนุนศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยจัดเตรียมรถประกอบอาหารเคลื่อนที่ และรถผลิตน้ำดื่ม ผลิตอาหาร น้ำดื่ม บริการประชาชน และอำนวความสะดวกและความปลอดภัยให้ผู้ประสบภัยที่อาศัยภายในศูนย์พักพิงชั่วคราว
5. บริหารจัดการทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกระจายเครื่องจักรกลสาธารณภัยไปประจำพื้นที่เสี่ยง และสนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้กับจังหวัดที่ประสบภัยตามความจำเป็นที่ร้องขอเพื่อให้การช่วยเหลือรวดเร็วที่สุด
6.สื่อสารประชาชนสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ ของหน่วยงาน ทั้งสื่อออนไลน์ และเครือข่ายในพื้นที่ และแจ้งช่องทางการแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
7. ประสานจังหวัดเร่งดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัย ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 และมติคณะรัฐมนตรีในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยช่วงฤดูฝน ปี 2568 ให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว คล่องตัว และโปร่งใส
ทั้งนี้ นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดี ปภ. ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติงานด้วยความรวดเร็ว รอบคอบ และคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ พร้อมยืนยันว่ากรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและให้การสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยทุกด้านจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย







