อาจารย์พิไลพรรณ นวานุช รองอธิการบดีสายงานทรัพยากรบุคคล นำคณะบุคลากรมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เข้าร่วมโครงการ “วิปัสสนา สุขใจ ได้บุญ” โดยสถานที่ในการปฏิบัติธรรมครั้งนี้เป็นการจัดภายในโรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ นนทบุรี เมื่อวันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งทางโรงแรมได้เปิดโครงการปฏิบัติธรรมขึ้น และได้นิมนต์พระมหาสมัคร โกวิโล ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดชลประทานรังสฤษดิ์ มาเป็นพระอาจารย์ผู้นำการเจริญวิปัสสนาในครั้งนี้ โดยรายได้ทั้งหมดจากการร่วมสมทบทุนของผู้เข้าโครงการได้โอนบริจาคให้กับโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เพื่อนำไปปรับปรุงหออภิบาลทารกแรกเกิดวิกฤติต่อไป ตามแนวคิดของโครงการครั้งนี้คือ “วิปัสสนา สุขใจ ได้บุญ เกื้อหนุนสังคมไทยให้ยั่งยืน”
อาจารย์พิไลพรรณ กล่าวว่า “การจัดโครงการปฏิบัติธรรมถือเป็นครั้งที่ 2 ในรอบปี 2568 นี้ โดยครั้งแรกนำบุคลากรกว่า 30 คน เดินทางไปปฏิบัติธรรมแบบไปเช้าเย็นกลับ ณ วัดมเหยงคณ์ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้ผลการตอบรับที่ดีจากผู้เข้าร่วมโครงการในครั้งนั้น ทำให้ทางสายงานทรัพยากรบุคคล มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) มีแผนที่จะทำครั้งที่ 2 ขึ้น เมื่อเห็นว่าทางโรงแรมริชมอนด์ จัดโครงการปฏิบัติธรรม โดยนิมนต์ผู้ช่วยเจ้าอาวาสจากวัดชลประทานฯ มาเป็นพระอาจารย์สอนในการทำวิปัสสนา และเงินที่มหาวิทยาลัยสนับสนุนโครงการนี้ก็จะถูกนำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าโดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ จึงนำโครงการนี้เสนอผู้บริหารมหาวิทยาลัยเพื่อขออนุมัติให้เกิดขึ้นในครั้งนี้”
รองศาสตราจารย์ ดร.สิริพัชร์ เจษฎาวิโรจน์ อาจารย์จากวิทยาลัยครุศาสตร์ ผู้เข้าร่วมโครงการปฏิบัติธรรม ได้กล่าวถึงสิ่งที่ได้รับและความรู้สึกจากการเข้าร่วมโครงการนี้ว่า “การสวดมนต์และการทำสมาธิจะช่วยทำให้จิตใจสงบลง ได้พัฒนาบุคลิกภาพและจิตใจ ทำให้เกิดการเรียนรู้ การระลึก และทำให้รู้ตัวเองได้ตลอดเวลา เป็นกิจกรรมที่ดีมากทำให้รู้จักการเคารพกติกาและร่วมกิจกรรมกับผู้อื่นอย่างสงบ น่านำไปฝึกกับเด็กๆ จะทำให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวกัน เป็นเพื่อนกัน เกิดความรู้สึกเป็นกัลยาณมิตร และช่วยเหลือกัน เปิดใจฟังความคิดเห็นผู้อื่นมากขึ้น พระอาจารย์ท่านได้บรรยายหลักธรรมที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น”
และอีกหนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการปฏิบัติธรรม จากศูนย์เรียนรู้และหอสมุด สายงานวิชาการ คุณวิมลรัตน์ ทองปลาด ได้กล่าวว่า “ต้องขอขอบคุณโครงการดีๆที่ สายงานทรัพยากรบุคล DPU จัดขึ้นครั้งนี้ ได้ปฏิบัติธรรมสติในเวลาสั้นๆ แต่ก็เป็นเรื่องที่ดี ทำให้มีสมาธิ มีเวลาที่ทำให้สมองเราว่างเปล่า เพราะที่ผ่านมาแต่ละวันเราต้องทำงาน เรื่องครอบครัว ต้องคิดอยู่ตลอด แต่พอได้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ทำให้สมองเราได้พัก เพื่อเริ่มต้นรับสิ่งใหม่ๆ เข้าไป ก็ขอให้มหาวิทยาลัยจัดโครงการปฏิบัติธรรมในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนี้อีก”
สำหรับกิจกรรมภายใน 1 วัน ของการเจริญวิปัสสนาและปฏิบัติธรรม ประกอบด้วยกิจกรรมสวดมนต์ทำวัตรเช้าและเย็น ฟังพระธรรมเทศนา นั่งสมาธิ-เดินจงกรมอย่างถูกวิธี ส่งผลให้จิตใจสงบ เบิกบาน และมีสติในการดำเนินชีวิตทุกย่างก้าว ซึ่งจะช่วยให้การทำงานมีความรอบคอบ ถูกต้อง และทำให้สมองเปิดรับสิ่งใหม่ๆ และการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา








