สำนักงานกฎหมาย ตัวแทน “นายและ ยิมจ์-ภรรยา” ออกแถลงการณ์ ปฏิเสธข้อกล่าวหาเอี่ยว สแกมเมอร์ข้ามชาติ” ยืนยันไม่รู้จัก “แตงไทย” ปัดหลบหนีออกนอกประเทศ ยอมรับเคยถูกอายัดทรัพย์ก่อนชี้แจงจน ป.ป.ง. สั่งคืนทรัพย์ทั้งหมด ยันพร้อมชี้แจงในชั้นสอบสวน
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 นายและ ยิมจ์-ภรรยา”ได้มอบหมายให้ทีมทนายความจากบริษัท พิสุทธิ์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด ออกแถลงการณ์ ชี้แจงกรณีถูกเจ้าหน้าที่นำหมายค้นของศาลอาญาเข้าตรวจค้นที่พักอาศัยของนายและ ยิมจ์ (Mr Leak Yim) และนางวิรินยา ยิมจ์ ในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมถึงสถานที่ที่ครอบครัวใช้ประโยชน์เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา ระบุความว่าการแถลงข่าวผลปฏิบัติการ “ถอนรากสแกมเมอร์ข้ามชาติ” ต่อสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา มีคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริงอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ลูกความจะทำการชี้แจงในชั้นสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมาย และจะไม่ใช้วิธีการตอบโต้หรือแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางสาธารณะแต่อย่างใด โดยนาย และ ยิมจ์ ยอมรับว่าตนเองเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในแวดวงสังคมและธุรกิจ ทั้งประเทศกัมพูชาและในประเทศไทย ซึ่งในขณะนี้มีความอ่อนไหวด้านการเมืองระหว่างประเทศกัมพูชาและประเทศไทย ทำให้ชื่อของเขาถูกพาดพิงทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงในร่างกฎหมาย H.R. 5490 หรือ “Dismantle Foreign Scam Syndicates Act” ของประเทศสหรัฐอเมริกา แต่อย่างไรก็ดี ในขณะนี้ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ถอดชื่อนายและ ยิมจ์ ออกจากร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ที่ https://docs.house.gov/meetings/FA/FA00/20251203/118670/BILLS-119-5490-S001229-Amdt-1.pdf
ทั้งนี้ นายและ ยิมจ์ ไม่เคยถือสัญชาติไทยหรือหนังสือเดินทางของประเทศไทย ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ที่ราชกิจจานุเบกษาในส่วนของประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการได้สัญชาติไทย สำนักงานใคร่ขอเรียนชี้แจงว่า ลูกความไม่ได้ “หลบหนี” แต่อย่างใด โดยนายและ ยิมจ์ ได้เดินทางออกไปจากประเทศไทยครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 ส่วนนางวิรินยา ยิมจ์ ได้เดินทางออกจากประเทศไทยครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2568
นอกจากนี้นายและ ยิมจ์ ได้ยืนยันว่า ตนเองไม่เคยรู้จักหรือมีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับบุคคลชื่อ “แตงไทย” ที่สื่อมวลชนไทยอ้างถึงแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อปี 2567 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ใช้ความพยายามเชื่อมโยงบุคคลดังกล่าวกับลูกความเพื่อทำการยึดหรืออายัดทรัพย์ไว้ตรวจสอบมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งในขณะนั้น ปปง. ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ทรัพย์สินดังกล่าวมิใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จึงได้มีคำสั่งให้เพิกถอนการยึดและอายัดทรัพย์สินทุกรายการ ซึ่งลูกความยังคงยืนยันในข้อเท็จจริงดังกล่าวและพร้อมให้ข้อมูลที่จำเป็น เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถเข้าใจข้อเท็จจริงได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน
ทั้งนี้ ลูกความใคร่ขอแสดงความเคารพและยอมรับต่อบทบาทอันสำคัญของหน่วยงานของรัฐในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์และมีความประสงค์ที่จะเห็นการผลักดันเรื่องดังกล่าวนี้ให้ประสบความสำเร็จและมีความเชื่อมั่นว่า กระบวนการทางกฎหมายจะดำเนินไปด้วยความเป็นธรรมและสอดคล้องกับหลักการสำคัญทางกฎหมายที่สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ เพื่อที่จะได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานและกฎหมายที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมดังกล่าวต่อไป หากมีความคืบหน้าเป็นประการใด สำนักงานฯ จะทำการชี้แจงผ่านช่องทางที่เหมาะสมอย่างเป็นทางการต่อไป







