ดูเหมือน “คำขู่” จาก “นายกฯหนู” จะทำอะไร “พรรคเพื่อไทย” ไม่ได้เลย เพราะนอกจากจะไม่หวั่นไหวแล้ว ล่าสุด “หัวหน้าพรรค” อย่าง “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” ออกมาตอบโต้ สวนกลับว่า “นายกฯอนุทิน” กลัวอะไร และวันนี้ พรรคเพื่อไทย “ร่างญัตติซักฟอก” เสร็จแล้วอีกด้วย !
“วันที่ตั้งรัฐบาลไม่มีเครื่องคิดเลขหรือเปล่า รู้อยู่แล้วว่าเสียงไม่พอที่จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก พวกตนชี้ประเด็นที่ในสภาหลายครั้ง ว่าขัดต่อหลักการประชาธิปไตย ในการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่ท่านเลือกเดินทางนี้” จุลพันธ์ ระบุ
น่าสนใจว่าปฏิกริยา จากพรรคเพื่อไทย ที่มีต่อ “คำขู่” ของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกฯและรมว.มหาดไทย ต้องเรียกว่า “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” เมื่อค่านแดงไม่กลัวการยุบสภาฯ แม้ยามนี้พรรคจะตกอยู่ในที่นั่งลำบาก
จุลพันธ์ ยังถามกลับว่า นายกฯอนุทิน กลัวการตรวจสอบหรือไม่ ?
ยังขู่กลับด้วยว่าตอนนี้ พรรคเพื่อไทยเพียงแค่ “เคาะวัน” ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เท่านั้น จะเลือกวันไหน ห้วงเวลาใด
แน่นอนว่าการออกมาเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย เช่นนี้ คือการดำเนินบทบาทของ “การเมือง3ขั้ว” อย่างแท้จริง นั่นคือ แม้เพื่อไทยจะอยู่ในสถานะ “ฝ่ายค้าน” เช่นเดียวกับ “พรรคประชาชน” แต่กลับ “ต่างคน ต่างเดิน” เพราะในสนามเลือกตั้งพรรคส้ม ก็คือ “คู่แข่ง” คนสำคัญ สำหรับพรรคเพื่อไทย
นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังประเมินได้ว่า หากมีการยุบสภาฯขึ้นมาจริงๆแล้ว พรรคประชาชน น่าจะเป็นตกอยู่สถานการณ์ที่ ยากลำบากมากกว่า พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย ที่วันนี้กำลัง “สยายอำนาจ” เปิดพรรคต้อนรับ “บ้านใหญ่” จากทั่วทุกทิศ
อย่าลืมว่า พรรคเพื่อไทย แม้จะไร้อำนาจรัฐ แต่ “ฐานเสียง” ยังมี และที่สำคัญยังไม่ได้เปิดตัว “แคนดิเดตนายกฯ” ของพรรค ขณะที่พรรคประชาชน จนถึงวันนี้ ยังไม่มีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯออกมาสู้ และยังไม่สามารถการันตีได้ว่า หาก “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ไม่ได้ “ไปต่อ” สืบเนื่องจาก “คดี 44 อดีตสส.ก้าวไกล” คนที่จะขึ้นมาแทน เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค คนใหม่ จะปลุกกระแสส้ม ได้เหมือนกับที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล เคยทำเอาไว้ได้หรือไม่
ยังไม่นับรวมปัญหาภายในพรรคด้วยกันเอง ทั้งเรื่องเลือดที่รอ “ไหลออก” จากพรรค ซึ่งมาจากการถูกล้อมจากการเมืองฝั่งตรงข้ามแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องการจัดตัว “ผู้สมัครสส.” ลงเขตเลือกตั้ง ในพื้นที่ ที่เคยเป็น “เป้าหมาย” และ “ฐานเสียงหลัก” พบว่ามีการเปลี่ยนตัว กันชุลมุน และหลายเขตมีรายงานว่า “ตัวแข็ง” ถูกเปลี่ยนออกจากตำแหน่งเดิม
นอกจากนี้ หากการยุบสภาฯ มีขึ้นจริง โอกาสที่การแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหมุดหมายของพรรคประชาชน จะปิดฉากลงทันที !
เพราะวันนี้ นายกฯอนุทิน กำลังใช้ “เกมแก้รัฐธรรมนูญ” เป็นเหมือน “ตัวประกัน” บีบทั้งพรรคเพื่อไทย และโดยเฉพาะพรรคประชาชน เพื่อแลกกับการไม่ยื่นซักฟอก ตามมาตรา 151 และดูเหมือนว่าเกมนี้ อาจใช้ได้ผลกับพรรคประชาชน ด้วยเหตุที่ 1. ยังไม่ต้องการให้ยุบสภา เร็วกว่าไทม์ไลน์ที่เคยกำหนดกันเอาไว้ที่ 31 ม.ค.2569 และ 2. พรรคประชาชน ต้องการให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ ก่อน
เกมขู่ยุบสภาฯ จากนายกฯอนุทิน คือความจงใจ ทั้งบีบ พรรคส้ม และแยกพรรคประชาชน ให้ออกจาก พรรคเพื่อไทย เพราะแม้พรรคเพื่อไทย จะยื่นญัตติซักฟอก แต่ถ้าพรรคประชาชน ยังโหวต “ไว้วางใจ” ให้รัฐบาล เพื่อแลกกับการแก้รัฐธรรมนูญ ก็จะเป็นปัญหาของพรรคประชาชน เองอยู่ดี เพราะจะกระทบต่อ “คะแนนนิยม” ของพรรคเอง
ไม่ว่าจะมองทางไหน ก็ดูเหมือนว่า เกมขู่ยุบสภาฯ จาก นายกฯอนุทิน ครั้งนี้ คือการต่อสู้กันระหว่าง “3ขั้วการเมือง” ที่ พรรคส้มตกอยู่ในอาการเพลี่ยงพล้ำ และเสียหายมากกว่าใคร !







