“กองทัพ”สรุปแนวรบไทย-กัมพูชา “เนิน 350–ปราสาทตาควาย”ยังเดือด! พบคลังทุ่นระเบิดดัดแปลง บ้าน 3 หลัง
วันนี้ (18 ธันวาคม พ.ศ. 2568) เวลา 10.00 น. เพจเฟซบุ๊ก NBT ได้มีการไลพ์จาก ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา พลเรือตรีสุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ทำหน้าที่เป็นผู้บรรยาสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาในวันนี้ว่า จุดยืนของฝ่ายไทย ในการปกป้องอธิปไตยภายใต้หลักมนุษยธรรม มี 7 ข้อที่ยึดและปฏิบัติตามมาโดยตลอด
1.ไทยไม่ใช่ผู้เริ่มต้นเหตุความขัดแย้ง
2.ยึดหลักกติกาสากลในการปฏิบัติ
3.หลีกเลี่ยงการโจมตีที่กระทบพลเรือน
4.ปฏิบัติการเฉพาะจุดที่เป็นภัยคุกคาม
5.การอพยพประชาชน เป็นการตัดสินใจของฝ่ายกัมพูชา ไม่ใช่ผลจากการปฏิบัติของฝ่ายไทย
6.ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมสูงสุด
7.พร้อมมุ่งสู่สันติภาพที่ยั่งยืน
ซึ่ง แนวรบ 4 จังหวัด ยังคงปะทะเดือด ปราสาทตาควาย-ภูมะเขือ กัมพูชายังคงระมโจมตีอย่างหนักหน่วงเล็งเป้าพื้นที่พลเรือนและที่ตั้งทหาร โดยมีศูนย์กลางความรุนแรงในพื้นที่ตาควาย จ.สุรินทร์ และพื้นที่ห้วยตามาเรียและภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ
ทหารกัมพูชายังคงดำเนินการปฏิบัติการทางยุทธวิธีต่อเนื่อง โดยมุ่งเข้าตียึดคืนที่หมายสำคัญในพื้นที่ดังกล่าว ด้วยการใช้จรวดหลายลำกล้อง BM-21 , เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 100 ม.ม. และโดรนโจมตี ระดมยิงเข้าสู่พื้นที่การปะทะ และพื้นที่ส่วนหลังอย่างหนาแน่น ส่งผลกระทบความเสียหายต่อพื้นที่พลเรือน และยังพบการการใช้โดรน เพื่อการโจมตีและการหาพิกัด GPS สำหรับเป้าหมายทางทหารในพื้นที่ตอนในอีกด้วย
สำหรับฝ่ายเราคุมอากาศยานไร้คนขับได้ดีขึ้น และมีการตอบโต้เชิงระบบทำให้สามารถควบคุมพื้นที่สำคัญได้หลายจุดและยังคงขยายการควบคุมตามแผนปฏิบัติการ ทำให้ภาพรวมกำลังพลฝ่ายเราขวัญกำลังใจดี และการควบคุมสถานการณ์ยังมั่นคงดี
ส่วนเหตุการณ์สำคัญในพื้นที่ ได้แก่ ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี
พื้นที่ช่องบก กำลังทั้งสองฝ่ายมีการปะทะอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีปรากฏข่าวสารทางกัมพูชาเพิ่มเติมกำลังทหารเข้ามาในพื้นที่เพิ่มเติม
พื้นที่ช่องอานม้า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติการเชิงรุกที่หมายตามแผน , ทำการเสริมความมั่นคงและจัดระเบียบใหม่ ในที่หมายซึ่งกัมพูชาไม่สามารถตอบโต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฝ่ายไทยสามารถควบคุมสถานการณ์ได้เด็ดขาด
ชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ พื้นที่ซำแต – โดนตรวล - ภูผี - สัตตะโสม - พนมประสิทธิโส - ช่องตาเฒ่า ได้มีกระสุนปืนใหญ่ของทหารกัมพูชา ตกบริเวณฐานทหารไทยหลายครั้ง ฝ่ายไทยได้ยิงตอบโต้ไปในทิศทางที่ตรวจพบจากเครื่องมือค้นหาเป้าหมาย นอกจากนี้ยังตรวจพบโดรนข้าศึกจำนวนมาก โดยมีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย จากสะเก็ดจรวด RPG ในพื้นที่ซำแต
พื้นที่บริเวณผามออีแดง - ห้วยตามาเรีย ทั้งสองฝ่ายยังมีการปะทะเป็นระยะ ด้วยปืนเล็กยาว และเครื่องยิงลูกระเบิดกันต่อเนื่อง ซึ่งพื้นที่นี้ถือว่าสงครามโดรน และการใช้อาวุธยิงระยะไกลอย่างเข้มข้น
พื้นที่ภูมะเขือ - ช่องโดนเอาว์ - พลาญยาว - พลาญหินแปดก้อน ฝ่ายกัมพูชา ได้ใช้โดรนบินทิ้งระเบิด ในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฝ่ายไทยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ โดยยังมีการปะทะกันอย่างหนาแน่น จากการพยายามเข้าตียึดคืนพื้นที่ของทหารกัมพูชาทหารไทยสามารถตรวจพบ UAV 1 ลำ และโดรน 4 ลำ บริเวณภูมะเขือ และยังคงมีกระสุนปืนใหญ่กัมพูชาตกบริเวณทางขึ้นภูมะเขือ
ชายแดนจังหวัดสุรินทร์
พื้นที่ช่องจอม - ช่องเปรอ - ช่องระยี กัมพูชา มีการยิง จรวดหลายลำกล้องBM-21 เข้ามายังประเทศเป็นห้วงๆ ฝ่ายไทยจึงได้เปิดปฏิบัติการเชิงรุกเข้าตีฐานเคลียงเมือง(ปีกขวาช่องจอม) และสามารถเข้าควบคุมและเคลียร์ที่หมายได้สมบูรณ์ โดยมีการปักธงชาติไทยตามแนวคูเลต
ฝ่ายไทยเราควบคุมพื้นที่และสถาปนาความมั่นคงได้สำเร็จ
พื้นที่คนา ฝ่ายไทยสถานปนาพื้นที่ความมั่นคงในที่หมาย และตรึงกำลังตลอดแนวการวางกำลัง
พื้นที่ปราสาทตาควาย ทหารกัมพูชา มีการยิงเครื่องยิงลูกระเบิด , ปืนใหญ่ , และ BM-21 เข้ามาเป็นระยะ รวมทั้งทหารกัมพูชายังคงมีการเพิ่มเติมกำลัง
ฝ่ายไทยพยายามดำเนินกลยุทธ์ต่อเนิน 350 แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
ทั้งนี้มีกำลังพลเสียชีวิต 2 นาย จากการปะทะบริเวณพื้นที่ตาควายภาพรวมเป็นพื้นที่ปะทะหนัก แต่ฝ่ายเรายังยึดพื้นที่หลักไว้ได้
พื้นที่ช่องกร่าง ตรวจพบรถถังของทหารกัมพูชาทำการยิงมายังแนวการวางกำลังของฝ่ายไทย
พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ทหารไทยยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่ตลอดแนวการวางกำลัง โดยทหารกัมพูชา ได้ยิงปืนใหญ่ และ BM-21 เป็นระยะ และตรวจพบ UAV จำนวนมาก นอกจากนี้ยังตรวจพบทหารกัมพูชาเพิ่มกำลังเข้ามาในพื้นที่ และยังคงตรวจพบรถถังทหารกัมพูชาบริเวณหน้าแนว ส่วนในช่วงเย็นมีกำลังพลบาดเจ็บและสถานการณ์เริ่มตึงเครียดและมีแนวโน้มยกระดับ
ชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์
พื้นที่ช่องสายตะกู ฝ่ายไทยใช้ปืนใหญ่และรถถังยิงตึกอาคารที่ถูกใช้เป็นฐานทหาร จุดปล่อยโดรนของกัมพูชา และสถานที่ตั้งสแกมเมอร์ อาคาร/ตึก และพื้นที่โดยรอบได้รับความเสียหายอย่างมาก
สำหรับผลกระทบในพื้นที่พลเรือน จำนวน 1 พื้นที่ ได้แก่. อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ในพื้นที่ชุมชนยังตรวจพบกระสุน BM-21 ตก 2 จุด สะเก็ดระเบิดโดนหลังคาบ้าน บ.สกลพัฒนา บ้านเรือนเสียหาย นอกจากนี่ยังมีกระสุนตกไร่มัน บ้านใหม่ดงเย็น ไม่มีผู้บาดเจ็บ ทรัพย์เสียหาย
พันเอก ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวอัปเดตสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในภาพรวมยังคงมีการโจมตีฝ่ายกัมพูชาในทุกพื้นที่มีหนักเบา โดยฝ่ายไทยได้ควบคุมพื้นที่ได้หลายจุดและสถาปนาความมั่นคง เพื่อป้องกันการตีโต้ตอบจากฝ่ายกัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี ช่องอานม้า ซัมแต จังหวัดสุรินทร์ ช่องจอม ช่องเปลอ ช่องระยี ปราสาทคนา แต่ยังมีความพยายามโจมตีเข้ามาของฝ่ายกัมพูชาเพื่อช่วงชิงพื้นที่ แต่พื้นที่นี้ฝ่ายไทยยังได้เปรียบอยู่
สำหรับพื้นที่ที่มีการรบอย่างหนักหน่วง ปราสาทตาควาย อำเภอพนมงรักษ์ จังหวัดสุรินทร์ ที่มียุทธภูมิสำคัญก็คือเนิน 350 ซึ่งปัจจุบันมีทหารพลีชีพจำนวนมาก และมี 2 นายที่ยังไม่สามารถนำร่างออกมาได้ ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ยังอยู่ในความพยายาม และกัมพูชายังรุกคืบโจมตีอย่างหนัก
ในส่วนของกองทัพภาคที่ 1 กองกำลังบูรพา จุดหลักที่เราพยายามผลักดันการรุกล้ำอธิปไตยของฝ่ายกัมพูชามีอยู่ 3 จุด บ้านคลองแผง บ้านหนองหญ้าแก้ว บ้านหนองจาน ซึ่งสถานการณ์ทั้งไทยและกัมพูชาพยายามควบคุมพื้นที่แต่ด้วยสภาพพื้นที่ราบและมีชุมชน การใช้กำลังในจุดนั้น เรียกว่าระดมยิงด้วยอาวุธวิถีโค้งทั้งปืนใหญ่และจรวดเข้าหากัน เพื่อช่วงชิงพื้นที่ แต่สิ่งที่พบ มีการใช้ BM-21 ยิงใส่พื้นที่เกษตร และพื้นที่พลเรือนหลายร้อยลูก ซึ่งเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เราจะต้องตอบโต้แน่นอน ซึ่งถือเป็นพื้นที่หนึ่งเรากําลังช่วงชิง สำหรับในบางจุดมีสถานการณ์หนัก เบา สลับไปมา แต่ถ้าเป็นพื้นที่ช่วงชิงจะหนักหน่วงเหมือนเดิม ฝ่ายไทยต้องยับยั้งการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่รุกเข้ามายึดคืนแผ่นดินไทย
ควบคู่รุกยึดคืนพื้นที่อธิปไตยไทย และทําลายอาวุธยิงสนับสนุนรวมถึงที่ตั้งทางทหารที่เพ่งเล็งเป้ามาที่ประชาชนคนไทย ที่ได้รับความเดือดร้อนมากขึ้น กองทัพบกยืนยันว่าเราจะโจมตีกัมพูชาให้สิ้นสภาพทางทหารไม่ให้เกิดความสูญเสียต่อพี่น้องประชาชนไปมากกว่านี้
เรือโทหญิงนภัสกร ทิพย์โส ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ ยังกล่าวถึง สถานกานณ์ บ้าน 3 หลัง บ้านหนองรี จังหวัดตราด ภายหลังยึดคืนพื้นที่ได้ ซึ่งจากสถานการณ์เมื่อวานนี้ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี'ตราด(กปจ.ชต.) ได้ลงพื้นที่ควบคุมพื้นที่ที่หมาย ตรวจค้นพื้นที่ พบคลังทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งดัดแปลงมาจากทุ่นระเบิดดักรถถัง จํานวน 16 ลูก และอีกหลายลูกบริเวณโดยรอบการกระทําครั้งนี้เป็นการแสดงออกถึงการจงใจสร้างอันตรายแบบไม่ระบุเป้าหมาย
ทั้งนี้กองทัพเรือขอย้ําว่า การกระทําเช่นนี้เป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและขัดต่อพันธกิจระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาออตตาวา ทั้งนี้กองทัพไทยพร้อมปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของรัฐและความปลอดภัยประชาชนภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด
พลเรือตรีสุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ได้พูดเสริมถึงกรณที่ ประธานสมาคมผู้สื่อข่าวกัมพูชาให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศเจ้าหนึ่งว่า ไทยใช้อาวุธเคมีนั้นเป็นข่าวปลอมและหมดความน่าเชื่อถือ
ขอขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊ก ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา







