การเมืองทั่วไป

‘ดร.เอ้’ เสนอ 6 มาตรการเร่งด่วน ’24 ชั่วโมงแรก’ ช่วยหาดใหญ่พ้นวิกฤตน้ำท่วม

แชร์ข่าว

วันที่ 25 พ.ย.68 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เอ้ สุชัชวีร์ ระบุข้อความว่า 6 ข้อเสนอเร่งด่วน ต้องทำ “24 ชั่วโมงจากนี้” เพื่อช่วย “คนหาดใหญ่” ให้พ้นวิกฤต

น้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งนี้รุนแรงและสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง สิ่งสำคัญที่สุดใน 24 ชั่วโมงต่อจากนี้ คือการบริหารสถานการณ์อย่างมีระบบ เพื่อ “ช่วยชีวิตคน” ให้เร็วที่สุด ในช่วงที่ “ภัยมาถึงตัวแล้ว” และหลายพื้นที่ “อพยพไม่ทันการณ์”

นี่คือ "แผนปฏิบัติการระยะที่ 1 ภายใน 24 ชั่วโมงแรก" ที่ต้องทำทันที

1. จัดตั้ง “ศูนย์บัญชาการสูงสุดหนึ่งเดียว” ยุติความโกลาหล

บทเรียนจาก “น้ำท่วมแม่สาย” และ “เหตุสตง.ถล่ม” ชี้ชัดว่า การช่วยชีวิตผู้ประสบภัยไม่ทันการณ์ เกิดจากการ “แย่งชิงงานกัน” ทำให้การช่วยเหลือล่าช้า ทั้งที่ควรทำได้ดีกว่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดซ้ำอีก ต้องมี "ศูนย์บัญชาการหนึ่งเดียว" ที่สั่งการได้ครบวงจร

ล่าสุด ที่คณะรัฐมนตรี มีมติประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ทั้งจังหวัดสงขลา โดยมี พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในพื้นที่ รวมถึงมีรัฐมนตรีร่วมเป็นผู้บัญชาการ จะช่วยเรื่องการรวมศูนย์สั่งการแก้ปัญหาได้ดีขึ้น

“ค่ายเสนาณรงค์” (กองทัพภาคที่ 4) คือสถานที่เหมาะสมที่สุด เพราะมี กำลังพลพร้อม ทั้งยุทโธปกรณ์ทางบก ทางเรือ ทางอากาศ เป็นศูนย์พักพิงรองรับผู้อพยพ และเป็น"จุดรวมกำลังกู้ภัย" แบบเบ็ดเสร็จ

เมื่อศูนย์บัญชาการเป็นหนึ่งเดียว การช่วยชีวิตจะเร็วขึ้น ประสิทธิภาพสูงสุด

2. ระบุ “เส้นทางปลอดภัย” ด้วยข้อมูลดาวเทียมธีออส ลดความเสี่ยงทันที

การกู้ภัยแบบ “ไร้ข้อมูล” คือความเสี่ยงสูงสุด เพราะไม่รู้ว่าข้างหน้าเป็นน้ำเชี่ยว บ่อสะพานไฟรั่ว หรือทางที่รถผ่านไม่ได้

การตัดสินใจผิดเพียงครั้งเดียว = ความสูญเสียเพิ่มขึ้น

รัฐต้องรีบกำหนดเส้นทางแบ่งสี อย่างเป็น "มาตรฐานสากล"

สีแดง: ห้ามผ่านเด็ดขาด เพราะน้ำเชี่ยว สะพานขาด บ่อลึก ไฟฟ้ารั่ว

สีส้ม: ผ่านได้เฉพาะรถยกสูง 6 ล้อ ด้วยความระมัดระวัง

สีเหลือง: รถกระบะผ่านได้

สีเขียว: ยานพาหนะทุกชนิดผ่านได้

โดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียม ธีออส (GISTDA) เพื่อประมวลระดับน้ำ ความเร็วกระแสน้ำ สภาพภูมิประเทศ และจุดเสี่ยงถนน สะพาน ข้อมูลนี้สำคัญมากที่สุด เพราะ “คาราวานความช่วยเหลือ” กำลังหลั่งไหลสู่หาดใหญ่

ต้องให้ทุกคันเดินทางถึงปลายทางได้อย่างปลอดภัย

3. ตั้ง “โฆษกหนึ่งเสียง” ให้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตัวจริง

บทเรียนจากปฏิบัติการช่วย “13 หมูป่า” ชัดเจนที่สุด เมื่อผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ “พูดคนเดียว” ไม่มีเสียงซ้อน ประชาชนไม่สับสน และทุกหน่วยเดินในทิศเดียวกัน

วันนี้เช่นกัน

ต้องมี “ผู้นำที่คนเชื่อฟัง” แถลงสถานการณ์ทุก 3–6 ชั่วโมง อาจเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือ ผู้บัญชาการกองทัพภาคที่ 4 หรือ ผู้บัญชาการที่รัฐมอบหมาย ที่สื่อสารได้ชัดเจน

เพราะการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง จาก "ผู้นำที่น่าเชื่อถือ" คือ "หัวใจ" ของการแก้ทุกวิกฤต

4. ทำให้ “สาธารณูปโภคสำคัญ” ใช้งานได้ทันที

ห้ามปล่อยให้มืดทั้งเมือง ไฟฟ้าดับ อินเทอร์เน็ตล่ม น้ำประปาไม่ไหล ทั้งหมดนี้คือ “จุดตาย” ของการกู้ภัย เพราะผู้ประสบภัยจะติดต่อไม่ได้ ขอความช่วยเหลือไม่ได้ และดำรงชีวิตไม่ได้

ที่ต้องทำทันที คือ การกระจายเครื่องปั่นไฟ ตามชุมชม เสริมเสาสัญญาณอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ ตั้งจุดน้ำดื่มสำรอง ในทุกตำบลและวัด

5. "อพยพตามลำดับเร่งด่วน ลดการสูญเสียซ้ำซ้อน"

ยอมรับตรงๆว่า “เราช่วยอพยพช้าเกินไป” ทำให้วันนี้ประชาชนจำนวนมากติดอยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูง

จากนี้ต้องช่วยตามลำดับ มาตรฐานสากล คือ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หญิงตั้งครรภ์ ก่อนจะ “สายเกินไป”

วินาทีนี้ "คนกู้ภัย" พร้อมแต่ยังขาดอุปกรณ์ และพิกัดละเอียดของผู้ประสบภัย

6. ระดม “กองกำลังแพทย์พยาบาล” พร้อมยาและอุปกรณ์ฉุกเฉิน

ทีมแพทย์ต้องลงพื้นที่ทันที พร้อมยาฉุกเฉิน อุปกรณ์รักษา ชุดปฐมพยาบาล รถพยาบาลลุยน้ำ หน่วยแพทย์ฉุกเฉินเคลื่อนที่เร็ว และต้องมี "คลินิกแพทย์ภาคสนาม"

ในทุกจุดพักพิง เพื่อรักษาผู้อพยพ ผู้บาดเจ็บ ผู้ป่วยเรื้อรัง เด็กและผู้สูงอายุ

6 ข้อเสนอนี้ คือ สำคัญที่สุดในชั่วโมงวิกฤต ต้องทำทันทีใน 24 ชั่วโมงแรก เพื่อ “ช่วยชีวิต” ลดความสูญเสียได้อย่างมหาศาล

ขอช่วยหาดใหญ่ให้ก้าวผ่าน "วันที่ยากที่สุด" นี้ไปให้ได้ อย่างปลอดภัย และขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่หน้างาน ทุกคนครับ

ข่าวแนะนำ