วันที่ 16 พ.ย.68 พล.ท.พงศกร รอดชมภู อดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุกส่วนตัว ระบุว่า
" สำหรับผู้ที่เชียร์ให้ทำสงครามใหญ่กับกัมพูชาล้างผลาญทหารและราษฎรทั้งสองฝ่ายจากความไร้สติของผู้นำชราบางรายของทั้งสองฝ่าย
คิดค่าใช้จ่ายจากการรบที่ผ่านมามีการเบิกทดแทนเฉลี่ยวันละ ๑,๐๐๐ ล้านบาท (เป็นปฏิบัติการทางทหารระดับเล็กมาก) ดังนั้นหากจะรบใหญ่ควรตั้งไว้ที่วันละ ๓,๐๐๐ ล้านบาท
การรบกันอีกรอบปกติไม่ควรเกินสิบวัน แต่ถ้าจะเอาตามกองเชียร์ยึดเข้าไปถึงเขตภายใน (พนมเปญ) คงจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ วันในกรณีที่ไม่มีการแทรกแซงให้เป็นสงครามตัวแทนของมหาอำนาจ
สงครามไทย-ฝรั่งเศสยุคนั้นได้คืนแค่มณฑลบูรพา รบกัน ๔ เดือน รอบนี้ต้องการทั้งกัมพูชา ฝ่ายบุกต้องสูญเสีย ๓ ถึง ๕ เท่าของฝ่ายรับ จะจบได้ภายใน ๑๐๐ วันแน่หรือ ? ส่วนตัวให้ ๓๐๐ วัน
แต่เพื่อให้คิดง่าย ๆ ให้ ๑๐๐ วันแล้วกระสุนหมดต้องเลิกรบต้องใช้เงินราว ๓๐๐,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อทำกิจกรรมสนองความต้องการของคนคลั่งชาติตามที่ฮุนเซนปั่นกลุ่มหนึ่ง
อย่าลืมว่าระบอบการปกครองลัทธิเผด็จการนั้นชีวิตและการสูญเสียของทหารและประชาชนนั้นไม่มีค่าอะไร แม้ว่าไทยยังไม่เป็นประชาธิปไตยและยังไม่พ้นเงาของเผด็จการรัฐประหารมาปราบโกงเต็มบ้านเต็มเมืองดังที่สยองกันตามปรากฏก็ตาม ก็ยังนับว่ามีความเป็นอารยะมาไกลกว่าเขามากแล้ว ความสูญเสียแม้เล็กน้อยก็ไม่ควรให้มี
มีคำพูดของทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ ๑ ชาวอังกฤษบอกว่า แทนที่จะสูญเสียชีวิตคนหนุ่มสาวจำนวนมากให้คนแก่ ๆ บ้าอำนาจไม่กี่คนเอาปืนไปคนละกระบอกแล้วดวลกันเองจะดีกว่า (ตามธรรมเนียมสุภาพบุรุษยุโรป)
ส่วนเราเอง เอาเงินที่จะไปผลาญกันนี้มาพัฒนาคุณภาพทรัพยากรมนุษย์จะดีกว่าไหม?
โซเวียตแตกก็เพราะไปบุกอาฟกานิสถานแล้วแพ้กลับมากับเร่งสร้างอาวุธแข่งกับสหรัฐฯ
ไตร่ตรองดูกันให้ดีนะครับ"








