นายวรวุฒน์ โตเจริญธนาผล (ที่ 3 จากขวา) President และนายวิเชียร อมรพูนชัย (ที่ 4 จากขวา) กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (LHFG) รับมอบรางวัลเกียรติคุณ ESG100 Decade Award ในฐานะองค์กรที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าอยู่ใน Universe ของกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 เป็นระยะเวลา 10 ปี จากนายพิพัฒน์ ยอดพฤติการ (ที่ 2 จากขวา) ประธานสถาบันไทยพัฒน์ ณ อาคารคิวเฮ้าส์ ลุมพินี เขตสาทร กรุงเทพมหานคร
นายวรวุฒน์ โตเจริญธนาผล President บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีความยินดีที่สถาบันไทยพัฒน์ได้มอบรางวัลเกียรติคุณ ESG100 Decade Award ในฐานะองค์กรที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าอยู่ใน Universe ของกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 เป็นระยะเวลา 10 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) มาอย่างต่อเนื่อง”
นายพิพัฒน์ ยอดพฤติการ ประธานแ กล่าวว่า “รางวัลเกียรติคุณ ESG100 Decade Award ถือเป็นรางวัลระดับทศวรรษ และเป็นรางวัลแรกด้าน ESG ในประเทศไทย ซึ่งเป็นรางวัลพิเศษที่สถาบันไทยพัฒน์จัดทำขึ้น เพื่อมอบเป็นขวัญกำลังใจให้แก่องค์กรที่ดำเนินงานด้าน ESG มาอย่างต่อเนื่อง องค์กรที่ได้รับรางวัลต้องผ่านการสะสมผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ไม่ต่ำกว่า 10 ปี และได้รับคัดเลือกให้อยู่ใน 100 อันดับหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้าน ESG ตามเกณฑ์ประเมินที่เป็นสากล ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ถึงการดำเนินกิจการสู่ความยั่งยืนที่เป็นรูปธรรมในสายตาของบุคคลภายนอก”
สถาบันไทยพัฒน์ ได้จัดตั้งหน่วยงาน ESG Rating เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2557 เพื่อพัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจ และเริ่มจัดทำรายชื่อหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้าน ESG จำนวน 100 ราย หรือที่เรียกว่ากลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 จนถึงปัจจุบันนับเป็นเวลา 11 ปี เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนที่ให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่คำนึงถึงประเด็นด้าน ESG เพื่อตอบโจทย์การลงทุนที่ยั่งยืน
การประเมินหลักทรัพย์ ESG100 ประกอบด้วยเกณฑ์เบื้องต้นสำหรับการคัดกรอง (Screening) และเกณฑ์หลักสำหรับการประเมิน (Rating) โดยมีกระบวนการประเมินที่เป็นไปตามหลักการ ESG Code of Conduct ของสมาคมตลาดทุนระหว่างประเทศ (ICMA) และใช้การวิเคราะห์ข้อมูล ESG แบบบูรณาการ (Integrated ESG Assessment) ผนวกเข้ากับข้อมูลทางการเงิน เพื่อให้คะแนนประเมินสะท้อนสาระสำคัญของการดำเนินงานด้าน ESG ที่สัมพันธ์กับสาระสำคัญทางการเงิน ซึ่งเป็นการยกระดับการวิเคราะห์ข้อมูลด้าน ESG แบบเอกเทศ มาสู่การวิเคราะห์ข้อมูลด้าน ESG ที่เชื่อมโยงกับผลการดำเนินงานของกิจการ








