มติ IPU ปราบอาชญากรรมไซเบอร์ที่ไทยเสนอผ่านฉลุย “ณัฏฐ์”นักกฎหมายมหาชน ชี้ “ทฤษฎีโลกล้อมไทย" มัดรวมแก๊งสแกมเมอร์ที่มีฐานประเทศเพื่อนบ้าน แต่กลับพ่นพิษใส่การเมืองไทย! เมื่อ "วรภัค" ถูกสื่อสากลพาดพิงเชื่อมโยง "ทุนเทา" แต่ปมนี้ไม่จบแค่ลาออก แต่ลุกลาม "สั่นคลอนคะแนนนิยมรัฐบาล" แน่
วันที่ 24 ต.ค.2568 นายณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชนคนดัง ได้ให้ความเห็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ สืบเนื่องจากสมัชชาสหภาพรัฐสภาหรือ IPU มีมติ 2 ใน 3 บรรจุวาระเร่งด่วนต่อร่างข้อมติว่าต่อต้านอาชญากรรมองค์กรข้ามชาติ อาชญากรรมไซเบอร์ และภัยคุกคามแบบผสมผสานต่อประชาธิปไตย และความมั่นคงของมนุษย์ เสนอโดยรัฐสภาไทย และประเทศพันธมิตร ต่อมาได้ขยายผลเปิดปมรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีส่วนพัวพันก่อนดำรงตำแหน่ง ต่อมานายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง ได้แถลงโต้แย้งข้อเท็จจริงต่อสาธารณะและได้ลาออกจากตำแหน่ง ว่า ผลมติที่ประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา Inter-Parliamentary Union หรือ IPU ต่อร่างข้อมติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมองค์กรข้ามชาติ อาชญากรรมไซเบอร์ และภัยคุกคามแบบผสมผสานต่อประชาธิปไตย และความมั่นคงของมนุษย์ นำเสนอโดยรัฐสภาไทย และประเทศพันธมิตร ถือเป็นการผลักดันยกระดับที่ฝ่ายนิติบัญญัติหยิบยกนำเสนอต่อปัญหาภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ ต่อสมัชชาสหภาพรัฐสภา เป็นวาระจำเป็นเร่งด่วน มติเห็นชอบถล่มทลาย ถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่รับสภาไทยนำเสนอร่างดังกล่าวได้รับการบรรจุจากสมัชชาสหภาพรัฐสภา แม้กัมพูชาจะไม่ได้เข้าร่วมก็ตาม เพื่อให้ทั่วโลกให้ความสนใจต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ ที่มีฐานองค์กรอาชญากรรมที่ตั้งถิ่นฐานในประเทศต่างๆ แต่สำหรับประเทศไทยได้รับผลกระทบต่อแก๊งสแกมเมอร์ที่มีฐานจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้ทฤษฎีโลกล้อมไทยปราบแก๊งค์สแกมเมอร์
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สมัชชาสหภาพรัฐสภา หรือ Inter-Parliamentary Union หรือ IPU มีวัตถุประสงค์รวมตัวของฝ่ายนิติบัญญัติทั่วโลกเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกรัฐสภา และส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และสันติภาพ เป็นองค์กรระหว่างประเทศของรัฐสภาแห่งชาติ การจัดตั้งสหภาพรัฐสภาโดยใช้พระธรรมนูญของสหภาพรัฐสภา ในมติแง่กฎหมายมหาชน ไม่มีสภาพบังคับเป็นกฎหมายระหว่างประเทศ แต่เป็นการสร้างความร่วมมือของฝ่ายนิติบัญญัติระหว่างรัฐสภาทั่วโลก พูดภาษาชาวบ้าน คือ แม้ระเบียบร่างการปราบปรามสแกมเมอร์ในการประชุมของสหภาพรัฐสภาหรือ IPU ไม่มีสภาพบังคับเป็นกฎหมายระหว่างประเทศ แต่สมัชชาสหภาพรัฐสภารับบรรจุเป็นวาระเร่งด่วน ส่งผลให้ประเทศสมาชิกให้ความสำคัญต่อการปัญหาที่เป็นภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ ทำส่งผลให้ประเทศต่างๆ หันมาสนใจต่อภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ที่มีผลต่อประชาชนในประเทศ
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ในแง่มิติทางการเมือง การยกระดับปราบปรามแก๊งค์สแกมเมอร์มีผลต่อการเมือง เพราะมีนักการเมืองบางคนนำเงินทีได้วิธีการหลอกลวงพี่น้องประชาชนในประเทศ โดยใช้ฐานประเทศเพื่อนบ้านผ่านบัญชีม้ามาเป็น “ทุนเทา”นำไปผันแปรเป็น “ทุนการเมือง” เพื่อสะสมทุนไว้ใช้ในการเลือกตั้ง เพื่อขยายฐานอำนาจโดยใช้เงินในการซื้อเสียงเข้ามากุมอำนาจฝ่ายบริหาร โดยพุ่งเป้ามาที่รัฐบาล โดยภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ ที่ฝังรากในรูปแบบอาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยพุ่งเป้าที่ “ทุนเทา”และ “ทุนการเมือง” ทำให้ผู้สื่อข่าวสหรัฐอเมริกาได้ออกมาเปิดเผยรายชื่อนักการเมืองไทยที่พัวพัน โดยมีนายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย ทำให้พ่นพิษชิงลาออกจาก รมช.คลัง ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ตั้งคำถามว่า หากนายวรภัคฯ ไม่ได้พัวพันจะลาออกไปเพื่ออะไร เพราะคุณสมบัติของรัฐมนตรีอื่นในรัฐบาลนี้ กลับมีสีเทา ปนเปื้อนสีดำยิ่งกว่า ยังหน้าด้าน หน้าหนา หน้าทน บริหารประเทศ ให้พี่น้องประชาชนไปสืบหาเอาเอง
"การลาออกของ นายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง ที่ดำรงตำแหน่งเพียง 34 วัน มิใช่ เพื่อให้รัฐบาลเดินหน้าต่อไปได้ เพราะรัฐบาลนี้ มีระยะสั้น 4 เดือน เป็นการจำนนต่อพยานหลักฐานหรือไม่ อย่างไร ไม่ต่างจาก กรณีนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” ที่ถูกจับไต๋ได้ว่า ปกปิดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ ที่มาของมูลนิธิ ทำให้สังคมตั้งคำถามว่า ความโปร่งใสของเงินบริจาค เป็นมูลนิธิม้าหรือไม่ อย่างไร เหตุที่นายอนุทินฯ ไม่กล้าปลดออกรัฐมนตรีอื่น เพราะรัฐบาลเสียงข้างน้อย จำต้องพึ่งพาเสียง สส.พรรคร่วมรัฐบาล มาค้ำยัน แต่นายวรภัคฯ เป็นเพียงบุคคลภายนอก ไม่มีฐานเสียง สส.รองรับ การลาออกของนายวรภัคฯ ไม่มีผลเสียงสนับสนุนรัฐบาล แต่ปมประเด็นสั่นสะเทือนและพ่นพิษรัฐบาล"นายณัฐวุฒิ กล่าว
ส่วนการลาออกของนายวรภัค ฯ รมช.คลัง พ่นพิษ มาจากการบรรจุวาระของสมัชชาสหภาพรัฐสภา หรือ IPU หรือไม่ นายณัฐวุฒิ มองว่า ต้องแยกกันระหว่างการทำหน้าที่รัฐสภาไทยไปสู่สหภาพรัฐสภาต่อชาติสมาชิก กับการพัวพันของนายวรภัคฯในธนาคารแห่งหนึ่งของกัมพูชากลุ่มนายยิม เลียก คนละส่วนกัน ยังมีนักการเมืองไทยอีกหลายคนที่พัวพัน การลาออกของนายวรภัค รมช.คลัง ยังไม่จบ มีผลพ่นพิษรัฐบาล มีผลต่อคะแนนนิยมของรัฐบาล ส่วนที่รัฐบาลตั้งคณะทำงานมาปราบปรามแก๊งค์สแกมเมอร์เป็นวาระแห่งชาติ เป็นเรื่องที่ดี ที่หลายฝ่ายต้องช่วยกันในการปราบปรามให้สิ้นซาก เพราะมีผลกระทบต่อภัยความมั่นคง กระทบต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนที่ถูกหลอกเกี่ยวกับทรัพย์สิน ควรแก้ไขเพิ่มเติมโทษอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เพิ่มโทษให้หนักขึ้นเพื่อให้เข็ดหลาบ








