เสือตัวที่ 6
ท่ามกลางความชุลมุนทางการเมืองระดับชาติที่ล้มลุกคลุกคลานมาโดยตลอดในห้วงที่ผ่านมา นับเป็นโอกาสทองของบรรดากลุ่มคนในขบวนการแย่งยึดอำนาจรัฐในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ในการยึดครองอำนาจการปกครองทั้งคนและทรัพยากรผ่านระบบโครงสร้างที่ขบวนการร้ายแห่งนี้ออกแบบมาเพื่อปกครองกันเองในนามรัฐเอกราชปาตานีที่ประกาศชัดถึงเป้าหมายสุดท้ายอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาให้รัฐและสาธารณะได้รับรู้ถึงเจตนารมณ์ในการต่อสู้ของพวกเขากับรัฐไทย ที่ยึดครองดินแดนแห่งนี้มานานนับศตวรรษ ความเป็นเอกราชรัฐปาตานีที่พวกเขาใฝ่ฝันก็คืออิสรภาพ เสรีภาพในการกำหยดรูปแบบการปกครองในพื้นที่แห่งนี้ และชัดเจนตลอดมาว่ารัฐปาตานีก็คือพื้นที่ จ.ยะลา จ.ปัตตานี จ.นราธิวาส และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ซึ่งขบวนการร้ายแห่งนี้ได้บ่มเพาะแนวคิดแปลกแยกสุดโต่งผ่านวาทกรรมอันบิดเบือนว่าชาวมลายูมุสลิมในพื้นที่แห่งนี้ถูกแย่งยึดเอกราช อธิปไตยของปาตานี ทำลายอิสรภาพและเสรีภาพในการดำรงชีวิตของพี่น้องมลายูโดยผ่านการแย่งยึดอำนาจการปกครองอันเป็นของคนในพื้นที่ที่มีแต่เดิมโดยรัฐสยามในอดีตสู่รัฐไทยในปัจจุบัน
วาทกรรมอันบิดเบือนของบรรดากลุ่มแกนนำขบวนการร้ายแห่งนี้ได้หล่อหลอมความคิดสุดโต่งในการแยกตัวออกจากส่วนอื่นของสังคมประเทศ วาทกรรมอันบิดเบือนเหล่านี้ส่งผ่านไปสู่พฤติกรรมการต่อต้านรัฐอย่างต่อเนื่องผ่านการแสดงออกในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการจัดกิจกรรมการรวมกลุ่มของเยาวชน นักเรียน นักศึกษาในสถาบันการศึกษาระดับค้นจนถึงระดับอุดมศึกษาที่มุ่งแสดงให้เห็นถึงความต้องการเอกราชปาตานี เรียกร้องปกป้องสิทธิเสรีภาพ อิสรภาพในการแสดงออกจนลุกลามสู่การลงประชามติของคนในพื้นที่ที่ต้องการแยกตัวเป็นอิสระ ผ่านกระบวนการสิทธิการกำหนดอนาคตและความต้องการของตนเอง อันเป็นแนวทางสากล ทั้งยังส่งผ่านไปสู่พฤติกรรมการต่อสู้ด้วยอาวุธในรูปแบบสงครามกองโจรที่เริ่มต้นการเข้าสู่เส้นทางกองกำลังติดอาวุธด้วยการเป็นกลุ่มผู้สนับสนุนการก่อเหตุร้ายในหลายรูปแบบตั้งแต่การเฝ้าดูเป้าหมาย การส่งข่าว การช่วยส่งอาวุธ การช่วยผู้ก่อเหตุร้ายหลบหนี การให้ที่หลบซ่อน และการสนับสนุนด้านอาหาร และเมื่อกลุ่มผู้สนับสนุนนี้กล้าแข็งและชินชากับความรุนแรงพอ แกนนำขบวนการก็จะส่งเข้าสู่กระบวนการหล่อหลอมให้เป็นกองกำลังติดอาวุธที่สามารถก่อเหตุร้ายได้ด้วยตนเอง และสานต่ออุดมการณ์การต่อสู้เพื่อเอกราชปาตานีต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย
การต่อสู้และสานต่ออุดมการณ์เอกราชปาตานีที่ทอดยาวมาหลายศตวรรษนับวันยิ่งมีความกล้าแข็งมากขึ้น อุดมการณ์ที่ทอดยาวถูกสานต่อจากรุ่นสู่รุ่นอย่างแนบแน่นคงเส้นคงวาในเป้าหมายเอกราช หากแต่กลยุทธ์ในการต่อสู้กลับพลิกพลิ้วไปตามสถานการณ์และห้วงเวลา การต่อสู้ที่ต่อเนื่องอย่างไม่มีวาระ ได้ถูกสานต่อความชัดเจนและเพิ่มความกล้าแข็งในอุดมการณ์และพลังในการต่อสู้กับรัฐมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ การสานต่ออุดมการณ์เอกราชปาตานีที่นับวันจะซึมลึกเข้าไปสู่ทุกอณูของสังคมชุมชนในพื้นที่ปลายด้ามขวานอย่างเข้มแข็ง ทั้งยังซึมลึกเข้าไปสู่คนในสังคมของภาคส่วนต่างๆ ในสังคมของรัฐไทยในทุกระดับอย่างไม่รู้ตัว กลายเป็นแนวร่วมมุมกลับในการหนุนเสริมให้ขบวนการร้ายแห่งนี้ใกล้บรรลุเป้าหมายแห่งความเป็นเอกราชปาตานีเข้าไปทุกที
ในขณะที่รัฐบาลซึ่งเป็นศูนย์สั่งการการบริหารจัดการระดับชาติกลับไม่มีความต่อเนื่องในการบริหารอำนาจรัฐ ไม่มีการสานต่ออุดมการณ์การต่อสู้กับขบวนการร้ายแห่งนี้ที่ชัดเจนและกล้าแข็ง การขับเคลื่อนการต่อสู้ที่ล้มเหลวรื่นไหลอย่างไม่เป็นชิ้นเป็นอันไปกับนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาของรัฐที่ไม่เป็นรูปธรรมโดยเฉพาะในช่วงปี 2566 จวบจนปัจจุบันที่รัฐบาลยังไม่มีคณะพูดคุยสันติสุข ยังไม่มีนโยบายและยุทธศาสตร์ในการต่อสู้ที่เป็นรูปธรรมและไม่จัดองคาพยพที่มีประสิทธิภาพมากพอในการขับเคลื่อนการต่อสู้กับขบวนการร้ายแห่งนี้ รวมทั้งการปรับเปลี่ยนผู้นำหน่วยงานราชการที่ผันแปรไปมาตามฤดูกาล และที่สำคัญยิ่งคือเสถียรภาพการดำรงอยู่ของรัฐบาลเฉพาะกาลที่อยู่ได้ในห้วงเวลาอันสั้นก็ยิ่งส่งผลให้ผู้นำหน่วยงานราชการต้องประคับประคองตัวไปวันๆ เพื่อรอรัฐบาลตัวจริงที่มีเสถียรภาพมากกว่าปัจจุบัน นั่นคือการชะลอตัวของพลังการต่อสู้ของรัฐที่ควรมีต่อขบวนการแย่งยึดอำนาจรัฐปลายด้ามขวาน สภาวการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ขบวนการร้ายแห่งนี้มีโอกาสมากขึ้นในการเสริมสร้างพลังความเข้มแข็งในการต่อสู้กับรัฐ มีโอกาสมากขึ้นในการตอกย้ำอุดมการณ์เอกราชปาตานีที่เป็นรูปธรรม ทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ปาตานีแห่งนี้อยู่ในการยึดครองของขบวนการแบ่งแยกการปกครองจากรัฐอย่างเป็นรูปธรรม แม้โลกภายนอกจะดูเสมือนว่าสถานการณ์ปลายด้ามขวานอยู่ในความสงบเรียบร้อย หากแต่ในความเป็นจริงแล้ว ในความสงบเรียบร้อยที่เห็นอยู่นั้น เป็นภาพลวงตาที่ซ่อนเร้นอำนาจรัฐที่ตกอยู่ในการครอบครองของขบวนการร้ายแห่งนี้เกือบทั้งหมด
แม้ในแง่ของกฎหมายแล้ว พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ของรัฐจะยังเป็นเขตอธิปไตยของรัฐ ด้วยการปกครองก็มีคนที่เป็นข้าราชของรัฐทำหน้าที่อยู่ กฎหมายก็ยังคงใช้กฎหมายบ้านเมืองเป็นเครื่องมือในการปกครอง การศึกษาและการพัฒนาพื้นที่ก็ยังใช้เงินจากงบประมาณแผ่นดินที่จัดสรรจากส่วนกลางไปให้ การสาธารณสุขที่ใช้เวชภัณฑ์ตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์ที่ใช้งบประมาณของรัฐ การรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ก็ยังใช้เจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครองในการทำหน้าที่อยู่ทั้งหมด หากแต่ในความเป็นจริงแล้วจิตวิญญาณแห่งการดำรงอยู่ทั้งหมดของรัฐดังที่กล่าวมาข้างต้น ได้ถูกกลืนกินไปตามแนวทางของขบวนการแย่งยึดอำนาจรัฐตามอุดมการณ์เอกราชปาตานี ในทางปฏิบัติทุกองคาพยพในพื้นที่ปาตานีได้ตกอยู่ในอำนาจของขบวนการร้ายแห่งนี้แล้ว ขาดเพียงการประกาศเอกราชตามกฎหมายระหว่างประเทศเพียงประการเดียวก็จะเป็นผลให้พื้นที่แห่งนี้เป็นเอกราชอย่างสมบูรณ์