เหงวียน ซิญ เหญิต เติน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่กรุงฮานอยเมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) ว่า นับตั้งแต่สหรัฐฯ ประกาศแผนจัดเก็บภาษีตอบโต้ในช่วงปลายเดือนก.ค. ทั้งสองฝ่ายได้หารือทางเทคนิคกันอย่างต่อเนื่อง และมีการประเมินจากสหรัฐฯ ว่า ผลลัพธ์ของการเจรจามีแนวโน้มที่ดี
คณะผู้แทนจากเวียดนามมีกำหนดเดินทางไปกรุงวอชิงตันภายในเดือนนี้เพื่อสรุปข้อตกลงดังกล่าว แต่การปิดหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐฯ อาจทำให้กรอบเวลาการเจรจาล่าช้า เตินระบุว่า หากสหรัฐฯ เผชิญอุปสรรคภายในประเทศ เวียดนามจะยังคงอดทนและรักษาการเจรจาไว้ต่อไป
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อลดอัตราภาษีตอบโต้ที่เก็บจากเวียดนามจาก 46% ซึ่งประกาศไว้เมื่อเดือนเม.ย. เหลือ 20% หลังจากนั้น ทั้งสองประเทศได้จัดการเจรจาหลายรอบ ครอบคลุมประเด็นภาษี แหล่งกำเนิดสินค้า การเกษตร การค้าดิจิทัล บริการ และห่วงโซ่อุปทาน
เวียดนามได้เพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพื่อปรับดุลทางการค้า โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 การนำเข้าขยายตัว 23.6% สู่ระดับ 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้น 27.7% แตะ 1.128 แสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เวียดนามเกินดุลการค้า 1.68 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งช่วยสนับสนุนเสถียรภาพของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ตามด้วยจีน สหภาพยุโรป อาเซียน และญี่ปุ่น
#เวียดนาม #สหรัฐอเมริกา #ภาษีตอบโต้ #การค้าระหว่างประเทศ #ดุลการค้า #การเจรจาภาษี #เศรษฐกิจเวียดนาม #การค้าสหรัฐ #การค้าดิจิทัล #การส่งออก