เขื่อนลำปาว ปิดประตูอาคารระบายน้ำล้น เพื่อลดปริมาณระบายน้ำลงลำน้ำเดิม ด้านผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว เผยเป็นการช่วยลดผลกระทบในพื้นที่ด้านท้าย ทั้งลำน้ำปาว และลำน้ำชี รวมทั้งช่วยจัดการจราจรน้ำในลำน้ำชี ที่จะต้องรับน้ำไหลมาจาก จ.ชัยภูมิ เพื่อให้มีประสิทธิภาพและไหลสะดวกมากขึ้น
วันที่ 9 ตุลาคม 2568 นายสำรวย อินพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำลำปาว พร้อมทำการปิดประตูอาคารระบายน้ำล้น เพื่อลดปริมาณระบายน้ำลงลำน้ำเดิมช่วยลดผลกระทบในพื้นที่ด้านท้ายน้ำ ทั้งใน จ.ร้อยเอ็ด จ.ยโสธร และ จ.อุบลราชธานี และเพื่อช่วยให้มีการจัดการจราจรน้ำที่ไหลมาจาก จ.ชัยภูมิให้มีประสิทธิภาพและไหลสะดวกมากขึ้น
นายสำรวย อินพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปัจจุบันเขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,810 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้านลบ.ม.) หรือคิดเป็น 92 เปอร์เซ็นต์ จากความจุ 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร ยังสามารถรับน้ำได้อีก 170 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งประสิทธิภาพของเขื่อนลำปาวสามารถยังรับน้ำในช่วงปลายฤดูฝนนี้ได้


นายสำรวย กล่าวต่อว่า สำหรับการบริการจัดการน้ำในช่วงนี้ ทางโครงการฯได้เริ่มปรับลดการระบายน้ำลงสู่ลำน้ำเดิมมาเรื่อยๆได้ระยะหนึ่งแล้ว และล่าสุดวันนี้ได้ปิดประตูอาคารระบายน้ำล้นทั้ง 4 บาน เพื่อลดการระบายลงลำน้ำเดิมบริเวณอาคารระบายน้ำล้น เพื่อช่วยเหลือ และลดผลกระทบในพื้นที่ด้านท้าย ทั้งลำน้ำปาว จ.กาฬสินธุ์ และลำน้ำชีในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด จ.ยโสธร และ จ.อุบลราชธานี ให้มีปริมาณน้ำลดลง รวมทั้งเพื่อช่วยให้การจัดการจราจรน้ำในลำน้ำชี ที่จะต้องรับน้ำไหลมาจาก จ.ชัยภูมิ ซึ่งปัจจุบันมาถึง จ.ขอนแก่นแล้ว ให้มีประสิทธิภาพและไหลสะดวกมากขึ้นด้วย

นายสำรวย กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามปัจจุบันทางโครงการฯยังคงส่งน้ำลงลำน้ำเดิม บริเวณอาคารผันน้ำ เพื่อรักษาระบบนิเวศ และส่งน้ำเข้าระบบคลองชลประทาน เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร รวมทั้งการช่วยเหลือ ด้านอุปโภค บริโภค ประปา อุตสาหกรรม และระเหย ซึ่งจะมีปริมาณน้ำออกจากอ่างเฉลี่ยวันละ 6.39 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ยืนยันว่าปริมาณน้ำที่มีอยู่ปัจจุบันนี้มีเพียงพอ ทั้งอุปโภค บริโภค การเกษตร และประมง ในช่วงหน้าแล้งนี้ไปจนถึงต้นฤดูฝนหน้าอย่างแน่นอน
#ภูมิภาค-47