เหตุการณ์ 14 ตุลาฯ ในประเทศไทย เป็นก68 หนังม้วนเดิม ไม่จบแบบเดิมารลุกฮือของพลังนักศึกษาและประชาชนเพื่อโค่นล้มระบอบเผด็จการทหาร เพื่อเรียกร้องรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย โดยมีเป้าหมายที่การเปลี่ยนผ่านจากอำนาจทหารสู่การเมืองระบบรัฐสภา แต่ไม่ได้มุ่งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหลักของสถาบันสำคัญของรัฐอย่างสิ้นเชิง หัวใจสำคัญของ 14 ตุลาฯ คือการเปิดพื้นที่ให้แก่ระบอบประชาธิปไตยภายใต้การปกครองในขณะนั้น ซึ่งเป็นการต่อสู้เพื่อเสรีภาพและความเป็นธรรม โดยเฉพาะชนชั้นกลางและคนหนุ่มสาวที่ต้องการอนาคตที่ก้าวหน้า
การเมืองไทยในปัจจุบัน (ต.ค. 2568) มีความต้องการการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการเรียกร้องเรื่องความเท่าเทียมที่ใกล้เคียงกับความทะเยอทะยานของเนปาลโมเดล แต่กระบวนการยังคงพยายามดำเนินไปในกรอบของระบบรัฐสภาและการเลือกตั้ง ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ 14 ตุลาฯ มากกว่า
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยยังคงมีเสถียรภาพระดับหนึ่ง คือการที่กลไกอำนาจและสถาบันหลักยังคงมีความเข้มแข็ง และสังคมไทยยังคงแบ่งขั้วในประเด็นเหล่านี้อย่างชัดเจน ทำให้การรวมพลังของมวลชนเพื่อล้มโครงสร้างเดิมอย่างเบ็ดเสร็จทำได้ยาก
ดังนั้น แม้แรงกดดันทางเศรษฐกิจและความไม่พอใจต่อระบบยุติธรรมจะสูง แต่โอกาสที่จะเกิดการลุกฮือครั้งเดียวที่นำไปสู่การล่มสลายและเปลี่ยนผ่านสู่สาธารณรัฐแบบเนปาลโมเดลนั้นต่ำมาก
การเมืองไทยมีแนวโน้มที่จะวนเวียนอยู่ในวิกฤตการณ์ทางการเมืองแบบเป็นระยะ โดยมีการใช้การชุมนุมเป็นเครื่องมือกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงย่อย ๆ ภายในกรอบเดิม มากกว่าการปฏิวัติโครงสร้างอำนาจอย่างถาวร
#14ตุลาฯ #การเมืองไทย #ประชาธิปไตย #การเมือง #เนปาลโมเดล #การเปลี่ยนแปลง