ทุกคนลองคิดดูนะ ความเครียดของคนเมืองอาจจะเป็นเรื่องรถติด หรือต้องรีบส่งงาน เครียดต้องเผชิญฝ่นพิษ แต่ความเครียดของคนชายแดน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ คือเรื่อง "วันนี้บ้านจะโดนระเบิดไหม จะมีการปะทะรึเปล่า?" ล่าสุดที่ทหารเหยียบทุ่นระเบิดไปรายที่ 7 คือสัญญาณชัดเจนว่า สถานการณ์ยังคงตึงเครียด ไม่ใช่แค่เรื่องการรบ แต่เป็นเรื่องของจิตใจพลเรือนที่พังไปแล้ว!
ชาวบ้านหลายครอบครัวต้องเผชิญกับความกลัวที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันพรุ่งนี้ ความไม่มั่นคงในพื้นที่ทำให้เสียงเตือนภัยและข่าวเหตุการณ์ใกล้แนวปะทะกลายเป็นเรื่องคุ้นเคยในชีวิตประจำวัน จนชาวนาต้องตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่มีใครอยากทำ คือรีบเกี่ยวข้าวแม้เมล็ดยังเขียวและไม่พร้อมเก็บเกี่ยว
ใจสลาย! เมื่อต้องรีบเก็บ "ข้าวเขียว" ทิ้งเงินเพื่อรอด
นี่คือภาพสะท้อนที่เศร้าที่สุด พอมีข่าวตึงเครียดขึ้นมา ชาวบ้านต้องรีบวิ่งไปที่นาแล้ว รีบเก็บเกี่ยวผลผลิตทั้งที่มันยังสุกไม่เต็มที่เลย การเก็บ "ข้าวเขียว" คือการยอมขาดทุนมหาศาล เพื่อแลกกับการได้ขนอะไรออกมาได้บ้างก่อนจะต้องหนีตาย อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
ภัย PTSD ระเบิดเวลาที่ไม่มีใครเห็น
พอเจอแบบนี้ซ้ำซาก มันไม่ได้จบแค่ความกลัว แต่กลายเป็น โรคเครียดเรื้อรัง และเสี่ยงเป็น PTSD สูงมาก กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุขต้องออกโรงเตือน! เพราะความกลัวความเครียดเหล่านี้ กลายเป็น "ทุ่นระเบิดที่มองไม่เห็น" ที่พร้อมจะคร่าชีวิตหรือทำให้พิการทำลายความมั่นคงทางใจอย่างร้ายแรง เด็กๆ ในพื้นที่ก็ต้องเติบโตมาพร้อมกับความไม่แน่นอน ทำให้ ความฝันและโอกาสทางการศึกษาพังไปด้วย นี่แหละคือ ระเบิดเวลาทางสุขภาพจิต ที่เราต้องรีบแก้!
เสียงวอนจากบ้านกรวด "ขอเก็บข้าวเสร็จก่อน แล้วขอความปลอดภัยคืนมา!"
สิ่งที่ทำให้ใจสลายที่สุดคือเสียงเรียกร้องจากชาวนาที่บ้านกรวดเองที่ไม่ได้อยากให้มีการปะทะเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ที่ต้องรีบเก็บเกี่ยวก็เพราะ ไม่มั่นใจในความปลอดภัย ในอนาคตอันใกล้
เสียงนี้สะท้อนว่า พวกเขาเหนื่อยและทนกับความไม่แน่นอนไม่ไหวแล้ว พวกเขาขอให้ผู้มีอำนาจทุกฝ่าย รับประกันความปลอดภัย และหยุดยั้งความตึงเครียดไว้ชั่วคราว เพื่อให้ได้ "ความปกติ" ในช่วงเวลาวิกฤตนี้คืนมา พวกเขาขอแค่ความมั่นใจว่า ข้าวจะสุกเต็มที่ โดยที่ไม่ต้องเสี่ยงชีวิตในพื้นที่ทำกิน
ปัญหานี้มันเป็นเรื่องของเราทุกคน! เราจะปล่อยให้คนแนวหน้าแบกความเครียดระดับนี้ไว้คนเดียวไม่ได้ นี่คือภาระของคนทั้งชาติ รัฐต้องรีบสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัย เคลียร์ทุ่นระเบิดและประกาศพื้นที่ปลอดภัยให้ชัดเจนโดยเร็วที่สุด เพราะตราบใดที่ชาวนาชายแดนต้องรีบเก็บ "ข้าวเขียว" เพื่อความอยู่รอด ความมั่นคงที่แท้จริงของประเทศไหรเลยจะเกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืน








