ข่าววาไรตี้

เปิดโลก “Bangkok Beads Show 2025” รวมลูกปัดโบราณหาชมยากจากทั่วโลก สะท้อนเส้นทางอารยธรรมโบราณหลายพันปี

แชร์ข่าว

เมื่อวันที่ 22 พ.ย.68 ที่ริเวอร์ซิตี้ แบงค็อก (River City Bangkok) นายประภัตร โพธสุธน​ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์​เป็นประธานในพิธีเปิดงาน Bangkok Beads Show 2025 งานแสดงลูกปัดโบราณอันทรงคุณค่า จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22–23 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2568 ณ ริเวอร์ซิตี้ แบงค็อก (River City Bangkok) โดยมี​Mr. Lui Wei Chun (ไต้หวัน), คุณวรงค์ ศิริวานิชกุล,คุณปิยพร หุตานนท์, คุณชัยรัตน์ คงคา,​คุณนิมิต ดลโสภณ, คุณธีรพงษ์ สงตนดี​และ คุณอภิญญา คำนวน ซึ่งร่วมกันผลักดันให้เกิดงานแสดงระดับนานาชาติครั้งสำคัญนี้

นายวรงค์ กล่าวว่าการ จัดแสดงลูกปัดโบราณจากหลากหลายประเทศทั่วโลก นอกจากประเทศไทยแล้ว ยังมีผู้ร่วมแสดงจากประเทศต่าง ๆ อาทิ​ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม เมียนมาร์ สหรัฐอเมริกา เนปาล อินเดีย ปากีสถาน อัฟกานิสถาน ตุรกี ดูไบ ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น​เป็นการรวมลูกปัดโบราณจากนานาอารยธรรมในงานเดียว สะท้อนให้เห็นถึง ความรุ่งเรืองของเส้นทางการค้าโบราณ​ และ การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่สืบเนื่องยาวนานหลายพันปี

เพื่อพัฒนาการของศิลปะลูกปัด ตั้งแต่อายุราว 2,500 ปี จนถึงลูกปัดที่มีอายุเก่าแก่​ นอกจากนี้ ยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างอารยธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปอร์เซีย–อิหร่านโบราณ จนถึงประวัติศาสตร์ในดินแดนสุวรรณภูมิ เช่น​วัฒนธรรมทวารวดี ศรีวิชัย และแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง​ และภายในงานยังมีการจัดเสวนาความรู้ หัวข้อ ดำเนินการโดย​คุณฐานันดร รัตนสุข และ คุณชัยรัตน์ คงคา (รัตนะตึกแดง) บรรยายถึงวิวัฒนาการของลูกปัดตั้งแต่ยุคอารยธรรมแรกเริ่ม จนถึงโลกของนักสะสมในยุคปัจจุบัน ภายในงายยังมี น้องมิ้วส์ มิสแกรนด์ชลบุรี มาสร้างสีสันและมอบความสุขให้กับผู้ร่วมงานด้วย

นายวรงค์ กล่าวว่าการ จัดแสดงลูกปัดโบราณ​ มาจากหินมีค่าและอัญมณีในประเทศไทยเพื่อนำมาทำเครื่องประดับนั้นมีความเป็นมายาวนาน​ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของธรณีวิทยา, ประวัติศาสตร์, และการค้าขายครับ​ สำหรับความเป็นมาของหินมีค่าในประเทศไทย กำเนิดทางธรณีวิทยา​หินมีค่า (อัญมณี) ที่พบในประเทศไทยส่วนใหญ่เกิดจากกระบวนการทางธรณีวิทยาใต้พื้นโลกที่ใช้เวลานานนับล้านปี โดยเฉพาะในบริเวณที่มี หินบะซอลต์ หรือ หินภูเขาไฟ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ก่อตัวเป็นอัญมณี​ ส่วน ชนิดของอัญมณีที่สำคัญในไทย​ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในฐานะ "ศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลก" มาอย่างยาวนาน และมีอัญมณีสำคัญที่พบในประเทศหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม แร่คอรันดัม (Corundum) ​ทับทิม (Ruby) เป็นที่รู้จักกันในชื่อ "ทับทิมสยาม" ซึ่งเคยมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก แหล่งสำคัญในอดีตคือ จันทบุรี และตราด​ ​แซปไฟร์ (Sapphire): หรือที่คนไทยเรียกว่า ไพลิน (สีน้ำเงิน) และ บุษราคัม (สีเหลือง) แหล่งที่มีชื่อเสียงมากคือ กาญจนบุรี จันทบุรี และแพร่ (ไพลินและบุษราคัม) ​นิล (Black Spinel): หรือนิลกาฬ พบมากที่ กาญจนบุรี และตราด​ ​หินควอตซ์ (Quartz) และกลุ่มอื่น ๆ​ เช่น เพทาย (Zircon), โกเมน (Garnet), มุกดาหาร (Moonstone), เทคไทต์ (Tektite) (พบมากทางภาคอีสาน และเคยใช้เป็นสิ่งสักการะในอดีต) และ หินสี/หินมงคล ต่างๆ ก็ได้รับความนิยมนำมาทำกำไลและสร้อยคอในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา

ประวัติศาสตร์จาก หลักฐานทางโบราณคดีแสดงให้เห็นว่ามีการใช้ ลูกปัดและเครื่องประดับโบราณ ที่ทำจากหินและอัญมณีในประเทศไทยมานานกว่า 2,000 ปี แสดงให้เห็นถึงความสนใจในอัญมณีมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ

ยุคนพรัตน์: คนไทยโบราณมีความเชื่อและค่านิยมในเรื่อง นพรัตน์ หรือ แก้วเก้าประการ ซึ่งเป็นอัญมณี 9 ชนิด ที่เชื่อว่าเป็นสิริมงคลตามตำรา เช่น เพชร ทับทิม มรกต บุษราคัม ไพลิน โกเมน นิล มุกดาหาร และไพฑูรย์ แม้ว่าบางชนิด เช่น มรกต จะยังไม่พบแหล่งในไทย แต่ก็มีการนำเข้าและเป็นที่รู้จัก​ยุคแห่งการค้า (ศตวรรษที่ 19-20): โดยเฉพาะจังหวัด จันทบุรี และ ตราด ได้กลายเป็นแหล่งขุดค้นทับทิมและไพลินขนาดใหญ่ จนเกิดการเข้ามาของกลุ่มพ่อค้าชาวต่างชาติ เช่น ชาวกุลา (ชนชาติจากพม่า) ทำให้เกิดชุมชนการค้าอัญมณีที่คึกคักและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก การเจียระไนและแปรรูป อัญมณีก็พัฒนาขึ้นในไทยจนมีชื่อเสียงด้านฝีมือระดับสากล​ ด้วย การแปรรูปสู่กำไลและสร้อยคอ

หินและอัญมณีเหล่านี้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างสูง​การทำกำไลและสร้อยคอแบบหินมงคล: ในปัจจุบันหินกึ่งมีค่าและหินสีต่าง ๆ (เช่น หยก, โรสควอตซ์, ซิทริน, ลาพิส ลาซูลี, ไทเกอร์อาย) ได้รับความนิยมอย่างมากในรูปแบบ กำไลหินสี เนื่องจากมีความเชื่อเรื่องการเสริมดวง, พลังงานบวก, และความสวยงามของสีสันที่แปลกตา​​เครื่องประดับชั้นสูง อัญมณีที่มีราคาสูง เช่น ทับทิม, ไพลิน, และเพชร มักถูกนำไปเจียระไนอย่างประณีตและนำไปขึ้นตัวเรือนกับโลหะมีค่า เช่น ทองคำหรือเงิน เพื่อทำเป็น สร้อยคอ จี้ ต่างหู และแหวน สำหรับตลาดเครื่องประดับชั้นสูงทั้งในและต่างประเทศ​ ที่สำคัญ ประเทศไทยมีแหล่งกำเนิดหินและแร่อัญมณีที่หลากหลาย โดยเฉพาะตระกูลคอรันดัม (ทับทิม, แซปไฟร์) และได้พัฒนาให้เป็น ศูนย์กลางการผลิตและส่งออก เครื่องประดับอัญมณีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน

ข่าวแนะนำ