บันเทิง

RAUL MALO & The end of the Mavericks

แชร์ข่าว

ดนตรี/ทิวา สาระจูฑะ

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2025 ราอูล มาโล (Raul Malo) นักร้องนำและผู้แต่งเพลงหลักของวง เดอะ มาเวอริคส์ (The Mavericks) ได้อำลาโลกไปในวัย 60 ปี

มาโล เกิดในปี 1965 จากพ่อแม่ชาวคิวบาอพยพที่มาอาศัยอยู่ในไมอามี แต่หลังจากปี 1993 เขาก็โยกย้ายไปลงหลักปักฐานในแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี เพื่อความคล่องตัวมากขึ้นสำหรับอาชีพศิลปินบันทึกเสียง

ช่วงอายุ 20 ต้น ๆ มาโลพบกับมือเบส โรเบิร์ต เรย์โนลด์ส (Robert Reynolds) ตอนนั้นทั้งคู่เป็นนักดนตรีคนละวง ต่างก็เล่นอยู่ในไมอามี แต่ด้วยรสนิยมดนตรีที่เหมือนกัน คือหลงใหลดนตรีร็อกและป็อปจากทศวรรษ 1950 โดยเฉพาะศิลปินจากค่าย ซัน เรคอร์ดส์ (Sun Records) อย่าง เอลวิส เพรสลีย์, รอย ออร์ไบสัน และ จอห์นนี แคช

ความสัมพันธ์ฉันเพื่อนที่พัฒนาขึ้น และความต้องการจะสร้างผลงานของตนเอง นำมาสู่การตัดสินใจก่อตั้งวงดนตรีขึ้นมาใหม่ โดยดึงมือกลอง พอล ดีกิน (Paul Deakin) และมือกีตาร์ เบน พีเลอร์ (Ben Peeler) เข้ามาร่วมทีม กลายเป็นวงดนตรี 4 ชิ้นในชื่อ เดอะ มาเวอริคส์

พวกเขาเริ่มตระเวนเล่นในพื้นที่ไมอามี โดยเลือกสถานที่ที่เปิดรับวงร็อก เพราะเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงผลงานที่แต่งเองด้วย ขณะที่คลับบาร์ที่เน้นแนวคันทรี่มักจะให้วงดนตรีเล่นเพียงเพลงคัฟเวอร์ดัง ๆ เท่านั้น

หลังสะสมเพลงได้จำนวนหนึ่ง ช่วงปลายปี 1990 เดอะ มาเวอริคส์ ก็ออกอัลบั้มชื่อเดียวกับวงผ่าน วาย แอนด์ ที มิวสิก (Y&T Music) สังกัดอิสระเล็ก ๆ ในท้องถิ่นไมอามี โดยอัลบั้มชุดนี้มาโลเป็นผู้แต่งเพลงทั้งหมด

ความสามารถของวงไปเข้าตาบริษัทดนตรีใหญ่หลายแห่ง จนในที่สุดพวกเขาลงเอยเซ็นสัญญากับสังกัดยักษ์ใหญ่อย่าง เอ็มซีเอ แนชวิลล์ (MCA Nashville) ส่วนความเปลี่ยนแปลงภายในวงคือ เดวิด ลี โฮลต์ (David Lee Holt) เข้ามาแทนพีเลอร์ในตำแหน่งกีตาร์นำ และหลังจากออกอัลบั้มที่ 3 กับเอ็มซีเอ ชุด What a Crying Shame ในปี 1994 ซึ่งถือเป็นมาสเตอร์พีซของพวกเขา โฮลต์ก็ถูกแทนที่โดย นิก เคน (Nick Kane)

เดอะ มาเวอริคส์ ออกอัลบั้มกับเอ็มซีเอ 4 ชุด และอีก 1 ชุดผ่าน เมอร์คิวรี เรคอร์ดส์ (Mercury Records) ก่อนจะยุบวงในปี 1999 ซึ่งครบหนึ่งทศวรรษพอดีนับจากการก่อตั้งวง

พวกเขากลับมารวมตัวกันอีกครั้งในปี 2003 พร้อมสมาชิกใหม่ 2 คน คือ เอ็ดดี้ เปเรซ (Eddie Perez) มือกีตาร์ และ เจอร์รี่ เดล แม็คแฟดเดน (Jerry Dale McFadden) มือคีย์บอร์ด สมาชิกชุดนี้ออกอัลบั้ม 1 ชุดกับ แซงชัวรี เรคอร์ดส์ (Sanctuary Records) ก่อนจะหยุดพักวงอีกครั้ง และกลับมารวมตัวกันใหม่อย่างยั่งยืนในปี 2012

การกลับมาครั้งล่าสุดนี้ พวกเขาออกอัลบั้มมาอีก 7 ชุด แต่ในปี 2014 เรย์โนลด์สได้แยกทางออกจากวงที่เขาร่วมก่อตั้ง แต่วงไม่ได้ตั้งใครเป็นสมาชิกถาวรในตำแหน่งเบส โดยหันไปใช้นักดนตรีรับจ้างทั้งในการบันทึกเสียงและทัวร์คอนเสิร์ต บางครั้งมาโลก็รับหน้าที่เล่นเบสเอง

เดอะ มาเวอริคส์ มีเพลงติดอันดับบนตาราง Billboard Hot Country Songs ถึง 15 เพลง เพลงที่ติดอันดับสูงสุดคือ "All You Ever Do Is Bring Me Down" ที่ร่วมงานกับมือแอ็คคอร์เดียน ฟลาโก ฮิเมเนซ (Flaco Jiménez) ในปี 1996 โดยติดอันดับ 13 นอกจากนี้ยังมี 3 ซิงเกิลที่ติดท็อป 10 ในแคนาดา และเพลง "Dance the Night Away" ก็กลายเป็นเพลงฮิตในอังกฤษเมื่อปี 1998

ช่วงกลางถึงปลายทศวรรษ 1990 ถือเป็นยุครุ่งโรจน์ที่สุด อัลบั้มอย่าง What a Crying Shame (1994), Music for All Occasions (1995) และ Trampoline (1998) ประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งในแง่ยอดขายและคำวิจารณ์ รวมถึงคว้ารางวัลมากมาย เช่น 1 รางวัลแกรมมี่, 2 รางวัลจากสมาคมดนตรีคันทรี่ (CMA) และ 3 รางวัลจากสถาบันดนตรีคันทรี่ (ACM)

แม้จะถูกจัดประเภทเป็นวงคันทรี่ แต่ดนตรีของพวกเขามีความหลากหลายเกินกว่าขอบเขตนั้น มีทั้งส่วนผสมของ เท็กซ์-เม็กซ์ (Tex-Mex), ละติน, อเมริกานา และป็อป-ร็อก กลิ่นอายทศวรรษ 1950-1960 ซึ่งทำให้สุ้มเสียงของ เดอะ มาเวอริคส์ มีความพิเศษแตกต่างจากวงอื่น และในความพิเศษนั้น มีเสียงร้องที่ยอดเยี่ยมของมาโลเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุด เสียงของเขาได้รับยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน "เสียงแห่งยุคสมัย" ของช่วงปี 1990

เดอะ มาเวอริคส์ ออกอัลบั้มล่าสุดคือ Moon & Stars เมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา และเริ่มออกทัวร์สนับสนุนผลงาน แต่แล้วในเดือนกันยายน 2025 ทางวงประกาศยกเลิกตารางทัวร์ที่เหลือทั้งหมดเนื่องจากปัญหาสุขภาพของมาโล

ต่อมา มาโลได้เปิดเผยผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่า เขากำลังเผชิญกับภาวะเซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปยังเยื่อหุ้มสมองและน้ำไขสันหลัง (Leptomeningeal Carcinomatosis) ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงของมะเร็งขั้นสูง และในที่สุด การเยียวยารักษาก็ไม่สามารถเหนี่ยวรั้งชีวิตของ ราอูล มาโล เอาไว้ได้

และการจากไปของเขาก็หมายถึงบทอวสานของ เดอะ มาเวอริคส์ อย่างเป็นทางการด้วย

ข่าวแนะนำ