นางเอกลูกครึ่งชื่อดังแห่งยุค เดียร์น่า ฟลีโป ที่ล่าสุดโด่งดังไปถึงต่างประเทศ จากละคร ผาแดงนางไอ่ พร้อมเผยจุดเริ่มต้นความสนิทกับนักร้องระดับโลก ลิซ่า Blackpink แถมงานนี้สาวเดียร์น่ายังเปิดสถานะหัวใจกับหนุ่มนอกวงการที่คบกันมา 5 ปี แต่ทำไม่ไม่ยอมเปิดตัว ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี หนิง ปณิตา และ ชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
ละคร ผาแดงนางไอ่ จบไปสักพักแล้ว แต่กระแสยังอยู่ ดีใจไหม?
เดียร์น่า : ดีใจมากค่ะ ไม่คิดว่าในยุคนี้ที่ละครน้อยลง แต่พอละครที่เราเล่นยังมีคนดู และได้เรตติ้งดี รู้สึกชื่นใจ แล้วก็หายเหนื่อย
ไม่ใช่ดังแค่ในประเทศอย่างเดียว ประเทศเพื่อนบ้านต่างประเทศ ก็ดังไกลไปถึงตรงนั้นเลย?
เดียร์น่า : ล่าสุดเดียร์ไปเที่ยวลาวมา ตกใจมากคนลาวดูละครผาแดงนางไอ่กันเยอะมาก เขาเดินเข้ามาทัก เขาตื่นเต้น ดีใจ ตัวสั่น น้ำตาใหล พอเราเห็นแล้วรู้สึกดีใจจังเลย ที่เขาชอบเราขนาดนี้ คือพวกเขามารวมตัวกันเพื่อดูละครเรื่องนี้ทุกวันเลย คือเขาดูละครบ้านเราแทบทุกเรื่อง
เขาเรียกชื่อเราในตัวละครหรือว่าเรียกชื่อจริง?
เดียร์น่า : เรียกทั้งในตัวละครและเรียกชื่อจริง คือเขาเรียกชื่อเดียร์ถูกด้วย ปกติคนจะเรียกผิดว่า นาเดีย บ่อยมาก แต่เขาเรียกไม่ผิดเลย เหมือนเขารู้จักเราจริงๆ มันทำให้เราประทับใจมาก ไปที่ไหนรู้จักหมด แม้กระทั่งแม่ค้าที่ขายน้ำเต้าหู้อยู่ เราเดินผ่านเขาพูดว่า ใช่ไหม ใช่เจ้าหญิง ไอคำ ไหม คือบ้านเขาดูจริงๆ รู้สึกอบอุ่นมาก เป็นการไปเที่ยวที่สนุกมากๆ
กว่าจะเป็นเดียร์น่าในวันนี้ ย้อนไปในสมัยเด็กกล้าพูดกล้าทำแบบนี้ไหม?
เดียร์น่า : ตอนเป็นเด็กก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนกล้าแสดงออก ชอบเต้น แต่พอช่วงมัธยมปลายเริ่มรู้สึกว่าเขินแล้ว จะไม่กล้า ตอนมัธยมปลายอย่างมากที่ทำคือถือป้ายโรงเรียน คือจะไม่กล้าเต้นเป็นลีดเดอร์คือไม่เอาเลย เพราะรู้สึกว่าเราไม่ค่อยถนัดกับร่างกาย แล้วรู้สึกว่าไม่ใช่ทางแล้ว
พ่อแม่เคยพูดไว้ หน้าตาแบบนี้เดี๋ยววันนึงจะไปฝากกับพี่เอ ศุภชัย ?
เดียร์น่า : เคยคุยกันขำๆ เพราะช่วงนั้นมีโมเดลลิ่งติดต่อเข้ามาเยอะ แบบอยากดูแลน้อง อยากให้น้องมาแคสงานด้วย แต่เราก็กลัว เพราะสมัยก่อนโดนหลอกบ้าง ไม่จริงบ้าง ก็เลยคุยกันเล่นๆ ว่าถ้าเราเจอพี่เอ เดี๋ยวเราค่อยเข้าวงการ เพราะเขาดูเป็นของจริง เป็นตัวแม่ในการปั้นนักแสดง
แต่โอกาสเจอพี่เอมันก็ไม่ง่าย?
เดียร์น่า : ใช่ค่ะ
แต่สุดท้ายก็มีโอกาสไปเจอพี่เอ ศุภชัย ซึ่งเป็นการเจอที่เรียกว่าพรหมลิขิตก็ว่าได้ ?
เดียร์น่า : จริงค่ะ มันงงมาก มันเหมือนดวงจริงๆ วันนั้นเราแค่จะไปสอบลองสนามที่ธรรมศาสตร์ พอหลังเสร็จทุกอย่างรุ่นพี่ก็พาไปกินข้าวหลัง ม.ธรรมศาสตร์ ก็คือเจอพี่เอ ศุภชัย ที่ร้านอาหาร เป็นร้านของเขาเอง และเป็นโต๊ะเดียวที่ว่าง คือเป็นโต๊ะข้างๆ เขา เราก็ไปนั่ง เราจะเห็นว่าพี่เอหันมามองบ่อยมาก แล้วเขาก็เดินเข้ามาหาเรา
แล้วรู้ไหมว่าเป็นร้านพี่เอ ไปกินร้านนี้เดี๋ยวจะได้เจอพี่เอ?
เดียร์น่า : ไม่คิดว่าจะได้เจอ แต่รุ่นพี่บอกว่าร้านนี้ดังที่สุด ณ ตอนนั้น เป็นร้านของพี่เอ เราก็บอก อ่าว..เหรอ
ตอนที่พี่เอเดินเข้ามาเขาพูดอะไรกับเรา?
เดียร์น่า : เขาบอกว่านี่พี่เอ ศุภชัย นะคะ อยากจะขอเบอร์คุณแม่ได้ไหม เผื่อติดต่องาน เราก็รู้สึกว่าแม่ต้องตกใจแน่เลย บังเอิญจังเลยที่ได้เจอ เพราะหนูไปแค่วันเดียว วันต่อมาหนูกลับอุดรเลยนะ แล้วเขาก็ติดต่อมาจริงๆ ว่าให้ลองมาแคสละครไหม
ตอนที่เขาได้เบอร์เราไปเว้นช่วงนานไหมกว่าจะติดต่อมา?
เดียร์น่า : 1 อาทิตย์เองค่ะ เร็วมาก ทุกอย่างมันเป็นจังหวะชีวิตมาก มันไม่ได้คิดว่าจะเจอพี่เอ แล้วไม่ได้คิดว่าเขาจะติดต่อมาจริงๆ แล้วมีละครที่เหมาะจะให้เราไปแคส
คุณแม่ว่ายังไงบ้าง?
เดียร์น่า : คุณแม่บอกว่าพี่เอโทรมาแล้วนะ เดี๋ยวเราลองไปดูแล้วกัน เพราะเขาบอกว่ามีงานที่แบบน่าจะเหมาะกับเรา คือเรารู้สึกไว้ใจเขาแบบ 100% เลย มันไม่มีอะไรที่ต้องมานั่งกลัวเลย
ตอนนั้นมาแคสละครเรื่องอะไร?
เดียร์น่า : สามีตีตราเลยค่ะ เรื่องแรกที่เราได้เล่นละครเลย จริงๆ ตอนที่มาแคสสเดียร์ไม่ได้มีประสบการณ์อะไรเลย เดียร์มาเพราะอยากเจอพี่แอน ทองประสม เพราะพี่แอนเป็นผู้จัด คิดแค่อยากเจอดารา คิดว่าคงไม่ได้หรอก มันยากเกินไปสำหรับเรา แต่แค่อยากเจอพี่แอนสักครั้งในชีวิต พอผ่านไปซักสองอาทิตย์เขาก็โทรมาบอกว่าได้แล้ว เดี๋ยวช่วงปิดเทอมน้องไปอยู่ที่บ้านพี่เอเลย ถือว่าเขารับเข้าสังกัดโดยปริยายเลย เพราะได้งานแล้ว แล้วก็ได้เซ็นช่อง3 โดยอัตโนมัติด้วย
ตอนนั้นได้ประกบพี่โป๊ป พี่พลอย เฌอมาลย์ พี่จุ๋ยด้วย เป็นไงบ้างได้เจอตัวจริง?
เดียร์น่า : ตื่นเต้นมาก เดียร์จำได้เลยวันที่ฟิตติ้งเจอพี่พลอยร้องไห้ เพราะเขาเป็นนางเอกที่เราเห็นตั้งแต่เด็ก ชอบ เขาสวย แล้วเขาก็ทำดีกับเรา เดียร์จะเป็นคนเซนซิทีฟ ร้องไห้ง่าย ห้ามทำอะไรดีด้วยมากๆ ห้ามพูดอะไรดีด้วยมากๆ เพราะเราจะซึ้งแล้วน้ำตาไหล แล้วพี่พลอยพูดดีมาก เข้ามาดูแลเรา เราน้ำตาไหล พี่พลอยก็ตกใจ พี่พลอยไม่ได้ทำอะไรนะคะ เขาก็คิดว่าเรากลัวเขา เรียกได้ว่าแฮปปี้มากๆ
จริงๆ ความรู้สึกเราคือดูเขามาตั้งแต่เด็กแล้วชอบเขา แต่คิดว่าเขาดุ ถูกไหม?
เดียร์น่า : ใช่ แต่ไม่เชิงคิดว่าเขาดุ แต่เกร็งจังเลย เขาจะนิ่งๆ ไหม แต่พอเจอเขา เขาเฟรนลี่มากๆ แล้วเขาก็ดํเอ็นดูเรามากๆ มันเลยซึ้งใจที่ทุกคนน่ารักกับเรา แล้วทุกคนในเรื่องก็พยายามสอน ช่วยบอกบล็อกกิ้ง แอคติ้งทำอย่างนี้นะ เพราะเด็กใหม่มากๆ บางทีก็ยืนบังกล้องพี่ๆ ไม่ค่อยรู้เรื่อง เรื่องแรก ใหม่จริงๆ ประสบการณ์น้อยมากๆ
อย่างพี่พลอยสอนเรายังไง?
เดียร์น่า : พี่พลอยสอนในเรื่องแอคติ้ง จับอย่างนี้นะมันถึงจะสวย ในเรื่องเดียร์ต้องเข้าไปห้ามเขาเยอะมาก เป็นละครที่ทะเลาะกันตลอดเวลา ต้องเข้าไปจับ แล้วก็ทำยังไงให้ภาพสวยที่สุด เขาไม่อยากให้เราโดนว่าเขาก็จะช่วยปกป้องเรา เดียร์ซึ้งใจมาก เคยมีครั้งนึงที่แบบตากล้องบอก น้องบังกล้อง เข้าใจแหละเราทำไม่ดีด้วย แล้วเราก็ไม่รู้เรื่อง พี่พลอยก็หันไปว่าตากล้องว่าพูดดีๆ กับน้องสิ เขาปกป้องเรา ประทับใจ
พี่พลอยเล่นละครกับเดียร์น่าเป็นยังไงบ้าง?
พลอย : จะบอกว่าเพิ่งไลน์คุยกับเดียร์น่าเมื่อวาน เราแกล้งไม่ตอบดีกว่าเดี๋ยวจะเซอร์ไพรส์วันนี้
ตอนนั้นพี่พลอยเข้าฉากกับน้องเดียร์น่าเป็นยังไงบ้าง?
พลอย : เอาก่อนเข้าฉากเลย คือวันฟิตติ้งเป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับน้องเดียร์น่า แล้วน้องเดียร์น่าดีใจที่ได้เจอพลอย เขาร้องไห้จริงจัง น้องแบบใสมาก ดีใจที่ได้เจอพี่พลอย เราก็รู้สึกโอ้ย..น้องใสมาก น่ารักมาก แล้วครั้งแรกที่เข้าฉากน้องเขาตั้งใจมากเลย แล้วก็ทำได้ดี แต่เข้าใจว่าการเล่นละครมันไม่ใช่ศาสตร์อะไรที่ง่าย แต่เดียร์น่ามีความตั้งใจ มีความพยายาม ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี น้องเขาเก่งมาก ทุกวันนี้คงไม่ต้องพูดถึงแล้วเก่งมากๆ สุดๆ แล้ว
เดียร์น่า : ขอบคุณค่ะ
พอได้รู้จักกันจริงๆ ทำไมถึงเอ็นดูเด็กคนนี้?
พลอย : เดียร์น่าเป็นเด็กที่ใสซื่อบริสุทธิ์และจริงใจ เป็นน้องสาวที่น่ารัก มันสัมผัสด้วยใจได้ว่าเขามีจิตใจที่ดีมากๆ ที่ผ่านมาไม่ได้เล่นละคร ไม่ได้เจอกันแต่น้องก็ส่งความคิดถึง ความหวังดีมาหาพลอยตลอด
ตอนนี้น้องเดียร์น่าไม่ได้ดังแค่ในประเทศ แต่ดังไปต่างประเทศด้วย รู้สึกยังไงกับน้องบ้าง?
พลอย : ดีใจกับน้อง น้องเก่ง ดีใจที่น้องเดินทางมาถึงวันนี้ได้
ขออนุญาตถามถึงสุขภาพของพลอยนิดนึงได้ไหม ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
พลอย : ตอนนี้สุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้วค่ะ น้ำำหนักขึ้นมา 9 โลกว่าๆ แล้ว ตอนนี้ไม่มีเชื้อมะเร็งอยู่ในร่างกาย แต่ยังไงก็ต้องตรวจ มอนิเตอร์ไปเรื่อยๆ ปีละ 1 ครั้ง ตอนนี้โอเค ไม่มีเชื้อมะเร็ง แต่ยังไงก็ต้องเฝ้าระวัง เพราะว่ามันอาจจะกลับมาอีกได้ ก็ทานยาไป
หลังจากนี้คุณหมอแนะนำยังไงบ้าง?
พลอย : จริงๆ คุณหมอไม่ได้ห้ามอะไรเลยนะคะ ตอนนี้ใช้ชีวิตให้เต็มที่ ให้มีความสุข เพราะมะเร็งกลัวความสุข แล้วพลอยก็ทานยาต้านฮอร์โมน เท่ากับว่าตอนนี้พลอยเป็นผู้หญิงวัยทองโดยยา ทีนี้ต้องทานพวกอาหารเสริม ออกกำลังกาย ดูแลตัวเองมากเป็นพิเศษ โดยทั่วไปเราสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ แต่เราต้องมีสติในการใช้ชีวิตนิดนึง อาหารการกินก็ต้องระวังมากขึ้น แล้วเรื่องการนอน ความเครียด สำคัญมากที่คุณหมอเขาห่วง แต่ตอนนี้ไม่เครียด น้องเดียร์น่าให้กำลังใจพี่พลอยตลอด ช่วงพีคๆ ก็เจอน้องเดียร์น่า น้องพาไปกินข้าว ให้กำลังใจ น้องน่ารักมากจริงๆ
พลอยฝากบอกแฟนคลับหน่อยที่เป็นห่วงพลอย?
พลอย : ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจที่ส่งมาให้พลอย พลอยทราบซึ้งใจมากๆ กำลังใจมันเป็นสิ่งที่เยียวยาจิตใจเรา ให้เราสู้ต่อได้ ในฐานะที่พลอยเป็นมะเร็งเต้านมมา พลอยก็อยากส่งต่อกำลังใจให้กับทุกคน เราต้องสู้มัน อยู่กับมันให้ได้ อย่าไปกลัว ถ้ารู้เร็ว รักษาเร็ว ไม่มีอะไรที่มันน่ากลัวเลย อยากให้ทุกคนไปตรวจ
เดียร์น่าฝากอะไรถึงพี่พลอยบ้าง?
เดียร์น่า : เดียร์คิดถึงพี่พลอยตลอด เป็นห่วงพี่พลอยเสมอ ตั้งแต่วันที่รู้ว่าพี่พลอยมีปัญหาเรื่องสุขภาพก็ให้กำลังใจ อยากให้พี่พลอยแข็งแรงๆ แล้วส่งกำลังใจให้เขาผ่านอุปสรรคทุกอย่างในชีวิตไปได้ พี่พลอยเป็นคนน่ารักมากๆ เขาเป็นคนที่ดีและจริงใจกับเรามากๆ เดียร์อยากให้พี่พลอยเจอคนที่ดี ที่คู่ควรกับเขา
อีกหนึ่งคนที่สนิท และไม่ได้อยู่ในประเทศไทยเหมือนกัน ระดับโลกเลย นั่นคือน้องลิซ่า?
เดียร์น่า : คนไทยทุกคนเชียร์และซัพพอร์ตสาวไทย
ตั้งแต่เริ่มแรกไปสนิทกันได้ยังไง?
เดียร์น่า : ครูก้อยที่สอนร้องเพลงของเดียร์และน้อง เขาบอกว่ารู้ไหมมีเด็กไทยจะไปเดบิวที่เกาหลี ชื่อ ลิซ่า อ่าว เหรอค่ะ แล้วเขาก็ดูผลงานเราด้วยนะ เขาดูเรื่องตามรักคืนใจ ตอนนั้นเดียร์เป็นคุณน้อง แล้วน้องก็อัดคลิปมา ดูคุณน้องด้วยนะ ซึ่งเป็นจุดแรกที่ได้เห็นเขาในคลิป น่ารักมาก แล้วบอกครูว่าถ้ามีโอกาสน้องกลับมาไทย นัดเจอกันได้นะ ก็เลยมีโอกาสได้เจอกัน ตอนนั้นน้องก็เริ่มเดบิ้วต์แล้ว แต่ที่น้องกลับมาไทยคนยังไม่ได้รู้กันเยอะ
ตอนที่เจอกันครั้งแรกเป็นไงบ้าง?
เดียร์น่า : เหมือนเราเจอน้องสาวคนนึงเลยค่ะ เหมือนเจอเด็กน้อยคนหนึ่งที่น่ารัก แล้วเขาก็มีความอ่อนน้อมถ่อมตนตั้งแต่วันแรกเลย แล้วสัมผัสได้ว่าเป็นคนอยู่ง่าย กินง่าย จริงใจ ใจดี ก็ยิ่งทำให้เราเข้ากันได้ง่ายมากๆ ด้วยความที่เขาไม่มีกำแพงด้วย
จุดไหนที่ทำให้คิดว่าสนิทกันมากที่สุด?
เดียร์น่า : น่าจะเป็นเหมือนเราสามารถคุยกันได้แทบทุกเรื่อง เหมือนเราเป็นรุ่นพี่อาจจะให้คำปรึกษาเขาได้ในบางเรื่อง ตัวน้องเองตอนที่ไปที่นู้นเขาแทบไม่ได้มีใคร พอเราได้มาเจอกัน มันเหมือนกับเขามีพี่สาวเพิ่มอีกคนนึง เหมือนมีที่ปรึกษาเพิ่มอีกคนนึง ถ้าเรื่องไหนที่เขาคิดว่าเดียร์ถนัด เขาจะมาถามว่าแบบพี่เดียร์คิดว่ายังไง เรียกได้ว่าอาจจะรู้จักเขาเร็ว เขาเหมือนแบบเปิดใจให้พี่คนนี้ไปแล้ว พอมันรู้จักแล้วมันก็รู้จักเลย มันก็สนิทกันไปเลย
จุดเริ่มต้นเป็นเด็กฝึกด้วยกัน แต่ตอนนี้เขาไประดับโลกแล้ว เราด้วยความสนิทรู้สึกยังไงบ้าง?
เดียร์น่า : ดีใจ ภูมิใจมาก เดียร์รู้สึกว่าเดียร์เซอร์ไพรส์กับเขาทุกครั้งที่เขาออกงาน ทุกครั้งที่เขาลงรูป เขามีอะไรใหม่ๆ ให้เราได้เซอร์ไพรส์ตลอดเขาไปได้ทุกแขนงเลย ร้องก็ได้ แล้วยังไปทางซีรีส์อีก ก็อยากเห็นเขาเติบโตแบบนี้ แต่จริงๆ ทุกวันนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากๆ แล้ว และภูมิใจมากๆ ที่เห็นน้องประสบความสำเร็จมากๆ แล้วก็อยู่ตรงนี้เสมอ
หลายคนยังไม่รู้ว่าสนิทกันตั้งแต่น้องเองก็เพิ่งไปเกาหลี เดียร์น่าเองก็เพิ่งเรียนร้องเพลง เล่นละครไม่กี่เรื่อง คนจะไม่เห็นความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ คนจะมาโฟกัสหนักๆ ช่วงหลังที่มีโอกาสไปไหน มาไหนด้วยกัน เราต้องเข้าในวงการบันเทิง คนชื่นชมเราแต่ก็มีอีกมุมนึงหาว่าเราไปเกาะกระแสเขา อยากจะบอกอะไรกับคนเหล่านี้บ้าง?
เดียร์น่า : จริงๆ ไม่อยากบอกอะไรเลย เพราะรู้สึกว่าเราห้ามความคิดเขาไม่ได้ แต่เรารู้เจตนาเราว่าเราหวังดีอยู่แล้ว เดียร์รู้สึกว่าเดียร์แคร์คนรอบข้าง แล้วเดียร์แคร์น้องมากกว่า แล้วตัวน้องเองเขาไม่ได้รู้สึกอะไรอย่างนั้นกับเราอยู่แล้ว เพราะทุกคนต่างรู้ว่าเพื่อนแต่ละคนที่อยู่รอบตัวน้องหวังดีและอยากให้น้องแฮปปี้ ทุกคนพยายามดูแลเขา อยากให้เขามีความสุข อยากให้เขาได้ใช้ชีวิตในวัยเด็กบ้าง ให้เขาได้ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป เวลาที่เขากลับมา แน่นอนต้องมีการนัดเจออะไรกันบ้าง ช่วงแรกๆ เราไม่ได้ลงรูป เพราะว่ามันมีกฎของค่าย แต่พอ ณ วันนี้อาจจะเห็นพวกเราลงรูปกันค่อนข้างสบายมากขึ้น เพราะว่าเขาโตแล้ว ตอนนี้เขาแข็งแรงมากๆ แล้ว เดียร์ก็เคยนอยด์ รู้สึกแบบเราไม่ได้คิดอย่างนั้นเลยนะ ที่แบบคิดไม่ดี หรือคิดลบ แต่วันนี้เรามองข้ามไปแล้ว
ถ้าน้องมีโอกาสได้ดูอยู่มีอะไรจะบอกไหม?
เดียร์น่า : ภูมิใจในตัวลิซ่ามากๆ แล้วก็แฮปปี้จริงๆ ที่น้องแบบประสบความสำเร็จมากๆ แล้วอยากให้น้องรู้ว่า เราอยู่ตรงนี้ตลอด ไม่ว่าจะหันมายังไงก็เจอแน่นอน มีเรื่องอะไรก็ปรึกษาได้ตลอด จะอยู่เป็นเพื่อน เป็นพี่ คอยไปเที่ยวด้วยกันทุกครั้งที่น้องว่าง
หัวใจเป็นยังไงบ้าง?
เดียร์น่า : ก็ถือว่ามีคนคุยอยู่ค่ะ
นานหรือยัง?
เดียร์น่า : นานแล้วค่ะ 5 ปีแล้วค่ะ
คนในวงการหรือนอกวงการ?
เดียร์น่า : นอกค่ะ
ทำไมไม่เปิดตัว?
เดียร์น่า : ช่วงแรกๆ เรารู้จักกันช่วงโควิด เราเองก็ยังไม่รู้ว่าจะยังไง ดูกันไปก่อน แต่พอวันนึงโอเคเราก็คบกันมาได้สักระยะนึงแล้ว มันกลายเป็นว่า เป็นแบบที่ผ่านมา มันก็แฮปปี้ดี เดี๋ยวนี้โซเชียลก็เป็นดาบสองคม บางทีเราลงไป คอมเมนต์มันต้องมีท็อกซิกบ้างแหละ เราไม่อยากเสพตรงนั้น แล้วเราเองก็ไม่อยากให้เขาได้รับผลกระทบหรือไปอ่านอะไรที่ไม่ได้เป็นในแง่บวก เราเลยมองว่าอย่างนี้ก็แฮปปี้ดีนะ จริงๆ ใช้ชีวิตปกติมากเลยแค่ไม่ได้อัปโซเชียลแค่น้้นเลย
แล้วเขาโอเคไหมกับการไม่ต้องเปิดตัว?
เดียร์น่า : เขาโอเคนะคะ ตัวเขาเองไม่ได้เป็นคนอยู่ในโซเชียลอยู่แล้ว แล้วเขาก็ไม่ได้เล่นแพลตฟอร์มอะไรเยอะ อินสตาแกรมเขาไม่เล่นเลย เพราะฉะนั้นเขารู้สึกว่า แล้วแต่เราสะดวกเลย เขาเข้าใจ







