จุดคุ้มทุน (Break Even Point) คืออะไร?
จุดคุ้มทุน คือ จุดที่รายได้ของธุรกิจเท่ากับค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ได้กำไรแต่ก็ไม่ขาดทุน สำหรับร้านโชห่วย การรู้จักจุดคุ้มทุนเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะช่วยให้เจ้าของร้านเข้าใจว่าต้องขายสินค้าเท่าไหร่ถึงจะไม่ขาดทุน
ลองคิดง่ายๆ ว่าถ้าร้านมีค่าใช้จ่ายรวมเดือนละ 30,000 บาท และขายสินค้าได้กำไรชิ้นละ 10 บาท นั่นหมายความว่าต้องขายสินค้าอย่างน้อย 3,000 ชิ้นต่อเดือน ถึงจะถึงจุดคุ้มทุน นี่คือหัวใจสำคัญของการคำนวณจุดคุ้มทุนที่ทุกร้านโชห่วยต้องเข้าใจ
ต้นทุนแต่ละแบบ ร้านโชห่วยต้องเข้าใจ
ก่อนจะคำนวณจุดคุ้มทุนได้ ต้องแยกประเภทต้นทุนให้ชัดก่อน มี 2 ประเภทหลัก:
ต้นทุนคงที่ คือค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายทุกเดือนไม่ว่าจะขายได้มากหรือน้อย เช่น:
• ค่าเช่าร้าน 15,000 บาท/เดือน
• ค่าไฟฟ้าพื้นฐาน 2,000 บาท/เดือน
• เงินเดือนพนักงาน 12,000 บาท/เดือน
• ค่าใบอนุญาตต่างๆ 1,000 บาท/เดือน
ต้นทุนผันแปร คือค่าใช้จ่ายที่เปลี่ยนไปตามยอดขาย เช่น:
• ต้นทุนสินค้า (ซื้อมา 8 บาท ขาย 12 บาท)
• ค่าถุงพลาสติก ค่าบรรจุภัณฑ์
• ค่าขนส่งสินค้าเพิ่มเติม
สูตรคำนวณจุดคุ้มทุนที่เจ้าของร้านตกเลขก็เข้าใจ
สูตรคำนวณจุดคุ้มทุน แบบง่ายๆ คือ:
จุดคุ้มทุน (ชิ้น) = ต้นทุนคงที่รวม ÷ (ราคาขายต่อชิ้น - ต้นทุนผันแปรต่อชิ้น)
ตัวอย่างการคำนวณจุดคุ้มทุนสำหรับร้านโชห่วย:
• ต้นทุนคงที่รวม = 30,000 บาท/เดือน
• ราคาขายเฉลี่ยต่อชิ้น = 15 บาท
• ต้นทุนผันแปรเฉลี่ยต่อชิ้น = 10 บาท
• กำไรขั้นต้นต่อชิ้น = 15 - 10 = 5 บาท
จุดคุ้มทุน = 30,000 ÷ 5 = 6,000 ชิ้นต่อเดือน หรือประมาณ 200 ชิ้นต่อวัน
นั่นหมายความว่าร้านนี้ต้องขายสินค้าให้ได้อย่างน้อย 6,000 ชิ้นต่อเดือน ถึงจะครบ Break Even Point ที่ไม่ได้กำไรแต่ไม่ขาดทุน
รู้จุดคุ้มทุนแล้ว เอาไปจริงอย่างไรได้อย่างไรบ้าง
เมื่อรู้จุดคุ้มทุนแล้ว สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายด้าน:
• ตั้งเป้าหมายยอดขาย - หากคำนวณแล้วได้ว่าต้องขาย 200 ชิ้นต่อวัน จะได้รู้ว่าถ้าขายได้ 250 ชิ้น จะได้กำไร 250 บาท (50 ชิ้น × 5 บาท)
• วางแผนจัดการสต็อก - รู้ว่าต้องขายเท่าไหร่ถึงจะคุ้มทุน จึงสามารถวางแผนสั่งสินค้าได้เหมาะสม ไม่เก็บสต็อกมากเกินไป
• ประเมินความเป็นไปได้ - ถ้าคิดแล้วเห็นว่าตลาดในย่านนั้นไม่น่าจะซื้อสินค้าได้ถึงจำนวนที่ต้องการเพื่อให้ถึงจุดคุ้มทุน ก็ควรปรับแผนธุรกิจ
4 วิธีง่ายๆ ลด/เร่งให้ถึงจุดคุ้มทุนเร็วขึ้น
1. ลดต้นทุนคงที่
• หาตำแหน่งร้านที่ค่าเช่าถูกลงแต่ยังมีลูกค้าผ่าน
• ประหยัดค่าไฟฟ้าด้วยการใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน
• เจรจาต่อรองค่าใช้จ่ายประจำต่างๆ
2. ลดต้นทุนผันแปร
• ต่อรองราคาสินค้ากับผู้จำหน่าย หรือซื้อในปริมาณมาก
• หาซัพพลายเออร์ใหม่ที่ให้ราคาดีกว่า
• ลดค่าบรรจุภัณฑ์โดยใช้ถุงรีไซเคิล
3. เพิ่มราคาขายอย่างเหมาะสม
• ปรับราคาสินค้าให้เหมาะสมกับตลาดและคู่แข่ง
• เพิ่มมูลค่าให้สินค้าด้วยบริการพิเศษ
4. เพิ่มยอดขาย
• จัดโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้า
• เพิ่มช่องทางขายออนไลน์
• ขยายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง
การเข้าใจและคำนวณจุดคุ้มทุนเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้ร้านโชห่วยดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่เปิดร้านไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าขาดทุนหรือได้กำไร
ร้านโชห่วยที่เข้าใจBreak Even Point คืออะไรจะช่วยให้สามารถปรับตัวได้เร็ว รู้ว่าเมื่อไหร่ควรเพิ่มสินค้า เมื่อไหร่ควรลดต้นทุน และสำคัญที่สุดคือรู้ว่าธุรกิจกำลังเดินในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่
การคำนวณจุดคุ้มทุนไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ร้านโชห่วยของคุณเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป







