วันที่ 28 พ.ย.68 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เปิดเผย กรณีการให้ความช่วยเหลือเหตุน้ำท่วม ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ว่า ได้คุยกับพล.ต.ท. ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช ภ. 9 แพทย์ที่ลงไปและพล.ต.อสำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร.ว่าขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 110 ราย โดยแบ่งผู้เสียชีวิตออกเป็น 3 ส่วน 1.ผู้เสียชีวิตที่ส่งจากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ซึ่งเป็นผู้ป่วย 2.ผู้ที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวตนได้ และ 3.ศพที่นำออกมาจากพื้นที่น้ำท่วม ทั้งนี้ผู้ป่วยที่เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเป็นเรื่องของการการตายแบบธรรมชาติ คาดว่าในวันนี้จะทยอยนำร่างส่งคืนญาติได้ทั้งหมด ส่วนศพที่ไม่ทราบประมาณ 20 รายอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจเทียบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลด้วยดีเอ็นเอ เพื่อเทียบกับญาติใช้เวลาเต็มที่ให้แล้วเสร็จภายในวันพรุ่งนี้
พล.ต.อ กิตติ์รัฐ กล่าวต่อว่า ได้ส่งทีมแพทย์ และเจ้าหน้าที่ สพฐ. ลงพื้นที่ไปทั้งหมดสามชุด โดยหนึ่งชุด สามารถตรวจพิสูจน์ได้ 20 รายต่อหนึ่งวัน ถือว่ายังอยู่ในขีดความสามารถอยู่หากเทียบเคียงเหตุการณ์นี้แล้วจะนำเหตุการณ์โรงงานผลิตพลุระเบิดที่สุพรรณบุรี และไฟไหม้รถเด็กนักเรียน มาเป็นต้นแบบเพื่อให้การตรวจพิสูจน์เกิดความรวดเร็ว
เมื่อถามถึงกรณีอุปกรณ์เพียงพอหรือไม่ เช่น เรื่องถุงซิป พล.ต.อ กิตติ์รัฐ กล่าวตอบว่า ยังมีความจำเป็นต้องสำรอง หากดำเนินการหาความร่วมมือหาถุงซิปได้ก็ดี ทั้งนี้มูลนิธิในพื้นที่ช่วยเหลือสนับสนุนกันดีมาก แต่อยากจะเรียนว่าได้สั่งให้ผู้การกองบินตำรวจ นำอากาศยานสนับสนุนทีมแพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่ สพฐ. ได้ลงพื้นที่อย่างรวดเร็วในการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บบาด ทั้งนี้ได้สั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ระดมกำลังพลเพื่อฟื้นฟูทำความสะอาด และการนำศพออกมาในหลายๆ จุด
ส่วนกรณีของเขต 8 หาดใหญ่ ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษ เข้าดำเนินการเรียบร้อย ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย ณ เวลานี้จะต้องเข้าดำเนินการ และจะมีการตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียด อย่างไรก็ตามได้ให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ประสานปฏิบัติงานร่วมกัน เพราะไม่อยากให้กู้ภัยหรือส่วนเอกชนอื่นเข้าไปโดยไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปด้วย กรณีที่มีเอกชนหรือกู้ภัยจะเข้าให้ประสาน เพราะมีกำลังตำรวจพื้นที่ ตชด. อยู่ที่นั่นเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว และหลังจากนี้จะต้องมีการสืบสวนพิสูจน์ทราบความผิดเก่าและความผิดใหม่ที่เกิดขึ้นในพื้นที่เขต 8
ส่วนกรณีการหยิบสิ่งของของร้านสะดวกซื้อโดยไม่บอกกล่าว พล.ต.อ กิตติ์รัฐ กล่าวว่าถือเป็นกรณีการลักทรัพย์ แต่จะต้องดูว่าเจ้าของจะแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษหรือไม่ หากแจ้งความร้องทุกข์เป็นกฎหมายอาญาแผ่นดิน จะต้องมีการเรียกมาสอบสวนด้วยเพราะถือเป็นความผิดตามกฎหมาย แต่ขอให้เห็นใจซึ่งกันและกัน เราเป็นคนไทยจะเกิดในภาวะวิกฤตเช่นนี้ตลอด เมื่อน้ำลดแล้วหลายคนอาจมองว่าเราสูญเสียทรัพย์สินไปกับน้ำหรือถูกทำลายไปบ้างรถยนต์ถูกน้ำพัดไป จนได้รับความเสียหาย เพราะนั่นคือทรัพย์สิน แต่ตัวของเราเองยังมีชีวิตอยู่รอดเพื่อจะดำเนินเดินหน้าต่อไปในการประกอบสัมมาชีพโดยสุจริต ดังนั้นเราได้รักษาชีวิตของเราแล้ว ถือว่าเป็นบทเรียนในวิกฤตของอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของทางหาดใหญ่ ขอให้ตั้งสติและช่วยเหลือซึ่งกันและกันอะไรที่อะลุ่มอล่วยได้ผู้ที่มีมากกว่าย่อมให้กับผู้ที่มีน้อยกว่าในภาวะเช่นนี้ จะได้เดินหน้าไปด้วยกัทุกอย่างก็จะผ่านไปด้วยดี
พล.ต.อ กิตติ์รัฐ กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่าจะต้องเห็นใจซึ่งกันและกันเป็นเรื่องที่ดี เรื่องอาหารการกินในวันนั้น ระดับน้ำที่ท่วม ตั้งแต่เอวถึงพ้นศีรษะ ทำให้มีความต้องการเรื่องอาหารอย่างมาก ทางเจ้าหน้าที่ของรัฐ เร่งดำเนินการทั้งผลิต นำอาหารแห้ง มาช่วยกันแจกจ่ายในบางซอย ซึ่งยอมรับว่าขณะนั้น ในบางซอยเข้าถึงยากเพราะน้ำเชี่ยว และมีอากาศยานนำส่งอาหารอย่างเต็มที่







