“กองทัพ” แฉ “เขมร” ส่งโดรนบินชายแดน ละเมิด Joint Statement ยั่วยุ ละเมิด น่านฟ้า ทำให้เกิดการหวาดระแวง ไม่สอดคล้องกับถ้อยแถลงร่วมชี้ ต้องลดความตึงเครียดเตรียมประท้วง
ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้แจง กรณีการตรวจพบโดรนบิน ล้ำเขตน่านฟ้าไทย เมื่อค่ำ 28 ธค.2568 ในพื้นที่ช่องพระพะลัย ศรีสะเกษ และช่องอานม้า เนิน677 อุบลราชธานี ว่า ไทยยังยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง และปฏิบัติตามถ้อยแถลงร่วมของการประชุม GBC อย่างเคร่งครัด การหยุดยิงมีเป้าหมาย เพื่อลดความตึงเครียดและคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งไทยให้ความสำคัญสูงสุด
ส่วนการตรวจพบโดรนบินเข้ามาในน่านฟ้าไทยถือว่าผิดข้อตกลงหยุดยิงหรือไม่ นั้น ตอบว่า การหยุดยิงตามถ้อยแถลงร่วม มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความตึงเครียดและนำไปสู่สันติภาพในอนาคต ซึ่งการบินโดรนล้ำเขต ถือเป็นละเมิดอธิปไตยทางอากาศ แม้ไม่ใช้การโจมตีโดยตรง แต่ก็ทำให้เกิดการหวาดระแวง และยั่วยุระหว่างกันได้ จึงเป็นการกระทำที่ ไม่สอดคล้องกับถ้อยแถลงร่วม
ส่วนจะถือว่าการบินโดรนครั้งนี้เป็นการรุกรานหรือไม่ นั้น ฝ่ายไทยใช้ถ้อยคำอย่างระมัดระวัง โดยพิจารณาว่าเป็น การกระทำที่ไม่สอดคล้องกับถ้อยแถลงร่วม และเข้าข่ายการละเมิดอธิปไตยทางอากาศ ซึ่งจำเป็นต้องบันทึกและดำเนินการรายงานผ่านกลไก AOT รวมถึงช่องทางอื่นที่เหมาะสมตามหลักสากล
ทั้งนี้ การทำหนังสือประท้วงเป็นกระบวนการทางการทูตตามหลักสากล เพื่อบันทึกข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการรักษาสิทธิ อธิปไตยของประเทศ และ ป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือการกระทำซ้ำ ไม่ใช่การยั่วยุหรือยกระดับสถานการณ์
ฝ่ายไทยดำเนินการด้วยความรอบคอบ ยึดแนวทางสันติวิธี และไม่ประสงค์ให้สถานการณ์ยกระดับ หนังสือประท้วงเป็นการสื่อสารอย่างเป็นทางการเพื่อรักษาความชัดเจนและเสถียรภาพในระยะยาว ส่วน ไทยจะตอบโต้ทางทหารหรือไม่ นั้น ขณะนี้ ไม่มีการยกระดับหรือการตอบโต้ทางทหาร
อย่างไรก็ตาม ไทยขอสงวนสิทธิในการปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ หากมีการละเมิดในลักษณะที่เป็นภัยคุกคามเกิดขึ้นอีก
ส่วน ไทยมีหลักฐานเพียงพอหรือไม่ นั้น ฝ่ายไทยดำเนินการบนพื้นฐานของข้อมูลและหลักฐานทางเทคนิคที่ตรวจสอบได้ ซึ่งถูกจัดเก็บและดำเนินการตามกระบวนการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ
การบินโดรนกระทบความปลอดภัยประชาชนหรือไม่นั้น การละเมิดน่านฟ้าโดยอากาศยานไร้คนขับ อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความปลอดภัยทางทหารและความเชื่อมั่นของประชาชน ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ไทยต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมทั้งการบันทึกหลักฐาน และการประท้วง
ทั้งนี้ ฝ่ายไทยคาดหวังให้ทุกฝ่าย ปฏิบัติตามถ้อยแถลงร่วมของ GBC อย่างเคร่งครัด งดการกระทำใด ๆ ที่อาจบั่นทอนความเชื่อมั่น ร่วมกันสนับสนุนบรรยากาศแห่งสันติภาพและเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดน
โดยยืนยันว่า ประเทศไทย สนับสนุนสันติภาพและการหยุดยิงตามข้อตกลง GBC และ ไม่ยอมรับการละเมิดอธิปไตย และ ใช้กลไกทางการทูตและกฎหมายระหว่างประเทศ เมื่อพบการละเมิด พร้อมปกป้องประชาชนและผลประโยชน์ของชาติ เมื่อพบการเป็นภัยคุกคามอย่างเจตนา
“ไทยยึดมั่นการหยุดยิง แต่การหยุดยิงไม่หมายถึงการยอมรับการละเมิดอธิปไตย ไทยเลือกสันติวิธี พร้อมรักษาสิทธิของประเทศตามหลักสากล”
ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ชายแดนไทย- กัมพูชา







