หมอนทองโมเดล ต้นแบบของทีมเด็กกำพร้าครอบครัวแตกแยก สโมสรต่างจังหวัดขอยึดเป็นแนวทาง เดินหน้าในการสร้างเด็กให้มีตัวตนยืนอยู่ในสังคมได้ คาดหวังจากลายเซ็นและแบบอย่างของนักกีฬาจากหมอนทองส่งไปให้เป็นแรงบันดาลใจแก่นักเตะรุ่นเยาว์ในชนบท ได้มีฝันมุ่งมั่นสร้างตัวตนให้เกิดขึ้นสู่สังคม
วันที่ 27 พ.ย.68 เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.กิตติภา ธนวิจิตรากุล (มี่) อายุ 38 ปี ชาว จ.พิษณุโลกว่า ตนเองเป็นตัวแทนจากทีมฟุตบอลสโมสรบางพะยอมจูเนียร์พิษณุโลก ได้เดินทางเข้ามายังที่แคมป์นักกีฬาชมรมฟุตบอลศิษย์โรงเรียนหมอนทองวิทยา เพื่อนำขนมมาฝาก “น้องบีม” หรือนายเอกสิทธิ์ สกุนา หมายเลข 16 นักเตะในชุดการแข่งขัน 7HD ที่ในอดีตก่อนหน้านั้นเคยอยู่กับทางสโมสรบางพะยอมมาก่อน
ก่อนที่จะมาเรียนต่ออยู่กับอาจารย์สกล เกลี้ยงประเสริฐ ที่โรงเรียนหมอนทองวิทยา เมื่อช่วงเปิดเทอมในเดือน พ.ค.68 ที่ผ่านมา โดยในครั้งนั้นได้พากันเดินทางมาจำนวน 4 คน แต่เด็กที่มีความเข้มแข็งอดทนสามารถอยู่กับทีมหมอนทองได้เพียงคนเดียว โดยน้องบีมนั้นเป็นเด็กที่มีสัมมาคารวะ พูดจาไพเราะสุภาพเรียบร้อย เอกลักษณ์คือพูดน้อย เงียบและฟังยิ้มเก่ง มีความมุ่งมั่นสูงและตั้งใจฝึกซ้อมจนตนเองนั้นรักเสมือนลูก
ในวันนี้ได้นำเสื้อนักเตะของทีมหมอนทองมาขอให้ทาง อาจารย์สกล และนักเตะในชุด 7HD เซ็นชื่อด้วย จำนวน 5 ตัว เพื่อที่จะนำไปเป็นรางวัลให้แก่ดาวซัลโว ในการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เด็กๆ นักเตะที่ จ.พิษณุโลกด้วย ในการที่เราจะจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนช่วงระหว่างวันที่ 5-6 ธ.ค.68 เพราะมองว่าทีมหมอนทอง คือ แก่นแท้ของนักฟุตบอล ในการสอนเด็กที่ผุดจากรากหญ้า จากชื่อเสียงของอาจารย์สกลที่ได้ยินมา โดยฟุตบอลเยาวชนที่จะจัดที่ จ.พิษณุโลกนั้น มีจำนวน 5 รุ่น คือ U8,10, 13, 14, 15 เป็นฟุตบอล 7 คนที่เคยจัดกันมาในทุกปี
โดยน้องบีม ได้ทำให้คนพิษณุโลกต่างพากันดีใจ ที่ได้ทราบว่าเป็นเด็กที่มาจากทีมใน จ.พิษณุโลก และมามีชื่อเสียง ทางสโมสรจึงทำสื่อโปรโมททางโซเชียลด้วย และมีความหวังว่าอยากจะให้ทางหมอนทองไปเยือนเล่นฟุตบอลการกุศลยังบ้านเกิดของ “บีม” ที่พิษณุโลกด้วย เพราะเด็กในทีมสโมสรบางพะยอมกว่าร้อยละ 80 นั้นมีปัญหาทางครอบครัวที่ไม่อบอุ่นพ่อแม่แยกทางกันเช่นเดียวกันกับเด็กส่วนใหญ่ในทีมหมอนทอง โดยบางรายนั้นแทบจะไม่มีบ้านอยู่อาศัย สำหรับน้องบีมนั้น ก่อนหน้าอยู่กับยาย ขณะที่สโมสรของเราก็ยังเป็นสโมสรขนาดเล็ก ที่ยังต้องใช้ลานวัดบางพะยอมในการฝึกซ้อมอยู่ โดยที่เรามีเด็กที่อยู่ในความดูแลสังกัดกว่า 70 คน
จุดประสงค์ในการสร้างทีมและสโมสรขึ้นมานั้น เพื่อให้เด็กได้ห่างไกลจากโทรศัพท์และยาเสพติด มีสังคมมีกลุ่มเพื่อนใหม่ เวลาไปแข่งขันรู้แพ้รู้ชนะ และเป็นคนที่มีกฎระเบียบ รวมถึงการสอนเกี่ยวกับการใช้ชีวิต การเข้าสังคมด้วย ขณะที่เด็กผู้ขาดโอกาสทางครอบครัวที่นั่น ต่างสนใจมาเข้าอยู่กับทีมของเรา เพื่อที่จะเข้ามาได้เป็นนักกีฬาไปลงสู่การแข่งขัน เพราะสำหรับในพื้นที่แล้วทีมเราถือว่าแกร่งและได้รับชัยชนะบ่อยครั้ง เด็กเขาก็อยากจะได้เงินไปโรงเรียนด้วย เพราะเราจะนำเงินรางวัลที่ได้มาหารแบ่งให้กับเด็กๆ เท่าๆ กันทุกคนเลยหลังจากหักค่าสมัครแข่งขันแล้ว
โดยที่เราจะไม่มีการหักเก็บเอาไว้เลย ทั้งค่าน้ำมันรถค่าน้ำ ทางเราไม่ได้นำมารวมเป็นค่าใช้จ่ายทุกอย่างจะให้แก่เด็กหมด โดยที่เราจะมีชุดกีฬาให้เขาทุกๆ ปี ปีละประมาณ 3 ชุด เด็กส่วนใหญ่จึงอยากจะมาอยู่กับเราเพราะเราให้เขาจริงๆ เพราะอยากให้เขามีอนาคตที่ดียืนอยู่ในสังคมได้โดยปลอดภัย ส่วนมุมที่มองมายังทีมหมอนทองนั้น มองว่า อ.สกล คือแก่นแท้ของโค้ชที่สอนนักฟุตบอลจริงๆ เป็นโค้ชที่รักเด็กจริงๆ และสอนออกมาจากใจจริง
สำหรับเด็กของบางพะยอมก็มีหลายสถาบันได้มาดีลกันเอาไว้บ้างแล้วเหมือนกัน แต่เรายังไม่อยากให้ไป และอยากให้เด็กได้มาเดินต่อที่หมอนทอง น.ส.กิตติภา กล่าว
#ภูมิภาค-18








