ภารกิจประวัติศาสตร์ ไทย-กัมพูชา ปักหมุดอ้างอิงชั่วคราวชายแดน 8.3 กม. สำเร็จครบ 166 หมุด ก่อนเดินหน้าสู่ขั้นตอนการบินโดรนทำแผน ที่ความละเอียดสูงเตรียมสร้างรั้วบริหารจัดการ
วันที่ 27 พ.ย.68 ปฏิบัติการสำคัญในการจัดทำข้อมูลอ้างอิงร่วมกันตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ได้เสร็จสิ้นลงแล้วอย่างสมบูรณ์ เมื่อคณะทำงานชุดสำรวจร่วมไทย–กัมพูชา ได้ดำเนินการปักหมุดอ้างอิงชั่วคราวครบตามกำหนด บริเวณหลักเขตที่ 52–59 ในพื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี คิดเป็นระยะทางรวมทั้งสิ้น 8.3 กิโลเมตร
การปฏิบัติงานที่ใช้ระยะเวลาต่อเนื่องถึง 16 วัน ได้มาถึงวันสุดท้ายด้วยการปักหมุดที่หลักเขตที่ 59 เป็นที่เรียบร้อย โดยวานนี้ นาวาเอก ปรัชญา หาญเทียม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยเข้าร่วมกับคณะทำงานฯ โดยตลอดภารกิจมีการปักหมุดอ้างอิงชั่วคราวไปทั้งสิ้น 166 หมุด ซึ่งถือเป็นความคืบหน้าที่มีนัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดทำข้อมูลอ้างอิงที่ใช้ร่วมกันระหว่างสองประเทศ
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ ได้ออกมาระบุถึงความสำคัญของการสำรวจนี้ว่า เป็นเพียง “กระบวนการทางเทคนิคตามมาตรฐานสากล” ที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับ เพื่อให้ทั้งไทยและกัมพูชามีข้อมูลภูมิประเทศที่ตรงกัน และยืนยันหนักแน่นว่า “ไม่ได้เป็นการปรับเปลี่ยนเส้นเขตแดนในขั้นตอนนี้”
สำหรับภารกิจลำดับถัดไปคือ การใช้เทคโนโลยีสำรวจขั้นสูง โดยจะมีการบินโดรนสำรวจภาพถ่ายทางอากาศ เพื่อจัดทำข้อมูลแผนที่ที่มีความละเอียดและแม่นยำสูง ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้จะถูกรวบรวมเพื่อเสนอให้ประธานคณะกรรมการเขตแดนร่วม (JBC) ของทั้งสองประเทศพิจารณารับรองอย่างเป็นทางการ
พลเรือตรี ปารัช ยังกล่าวถึงแผนในอนาคตหลังการรับรองข้อมูล โดยฝ่ายไทยจะหารือกับกัมพูชาเพื่อเข้าสู่กระบวนการเตรียมการสร้างรั้วชายแดน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมการผ่านแดน และป้องกันการลักลอบการกระทำผิดกฎหมายทุกประเภท พร้อมเสริมความชัดเจนในการบริหารจัดการพื้นที่ร่วมกัน และเน้นย้ำอีกครั้งว่า รั้วดังกล่าวเป็นเพียงเครื่องมือบริหารจัดการแนวชายแดนเท่านั้น ไม่ใช่เส้นเขตแดนใหม่
ทั้งนี้ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ได้ร่วมปฏิบัติภารกิจอย่างเข้มงวดภายใต้กลไกความร่วมมือของคณะกรรมการชายแดนภูมิภาค (RBC) เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยสูงสุดให้กับชุดสำรวจฯ ขณะที่กองทัพเรือยืนยันความพร้อมในการปกป้องอธิปไตยของชาติ รักษาผลประโยชน์ของประเทศ และดูแลประชาชนในพื้นที่ชายแดนอย่างเต็มที่
#ภูมิภาค-17