วันที่ 26 พ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดปัตตานียังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง หลังมวลน้ำจำนวนมหาศาลจากจังหวัดยะลายังคงไหลสมทบลงในแม่น้ำปัตตานีไม่ขาดสาย ส่งผลให้หลายพื้นที่ริมแม่น้ำได้รับผลกระทบหนัก ระดับน้ำเพิ่มสูงอย่างรวดเร็วจนสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นวงกว้าง
ชาวบ้านจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ใน บ้านชั้นเดียว ต้องเร่งอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวของแต่ละอำเภอ เนื่องจากน้ำท่วมสูงจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ขณะเดียวกันถนนหลายสายถูกน้ำตัดขาด ทำให้หลายชุมชนต้องใช้ เรือเป็นยานพาหนะเพียงชนิดเดียว สำหรับการเข้าออกหมู่บ้าน
นอกจากนี้ยังประสบปัญหาด้านอาหาร เนื่องจากเสบียงที่กักตุนไว้ก่อนหน้านี้เริ่มหมดลง ชาวบ้านหลายครอบครัวต้องรอการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐและองค์กรช่วยเหลือต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน
โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชนริมคลอง ตำบลจะบังติกกอ อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีและตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำปัตตานี ระดับน้ำได้เพิ่มสูงถึง 1-2 เมตร ถนนหลายสายจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมด อีกทั้งกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวทำให้การเดินทางเข้าออกเป็นไปด้วยความลำบากอย่างมาก บ้านเรือนที่เป็นบ้านชั้นเดียวไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ชาวบ้านจำนวนมากต้องอพยพไปอยู่บ้านญาติหรือย้ายขึ้นที่สูง เหลือเพียงทรัพย์สินบางส่วนที่ยังคงอยู่ในบ้านซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทั้งเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และสิ่งของอุปโภคบริโภคจำนวนมากถูกน้ำท่วมจนหมด ซึ่งน้ำท่วมครั้งนี้ถือว่า หนักกว่าปี 2567 ที่ผ่านมา ทำให้ชุมชนริมคลองกว่า 553 ครัวเรือน ประชากร 1,688 คน ต่างได้รับผลกระทบแทบทุกครอบครัว
โดยชาวบ้านจำเป็นต้องรอการเข้าช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องเรือรับ–ส่ง การจัดเสบียงอาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรค
ขณะทีเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยยังคงเร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและประเมินความต้องการเร่งด่วนของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ระดับน้ำยังไม่มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากยังคงมีมวลน้ำจากตอนเหนือไหลสมทบเข้าสู่ตัวเมืองอย่างต่อเนื่อง
นายอลงกรณ์ คลังขล้อง ปลัดอำเภอยะหริ่ง และเป็นชาวชุมชนริมคลองซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ภายในบ้านของผมชั้นล่างถูกน้ำท่วมจนถึงระดับหัวเข่า ส่วนบริเวณหน้าบ้านระดับน้ำสูงถึงเอว แต่ยังพออาศัยอยู่ชั้นบนได้เนื่องจากเป็นบ้านสองชั้น อย่างไรก็ตาม ยังมีบ้านของชาวบ้านอีกหลายหลังที่เป็นบ้านชั้นเดียว จำเป็นต้องอพยพออกจากพื้นที่ เพราะห้องน้ำไม่สามารถใช้การได้ และหากน้ำประปาหยุดไหลก็จะเกิดความเดือดร้อนมากขึ้น
นายอลงกรณ์ เผยตอนท้ายว่า ขณะนี้ยังรู้สึกกังวลว่าระดับน้ำอาจเพิ่มขึ้นอีก แม้ว่าทางจังหวัดจะมีมาตรการช่วยเหลือชาวบ้านอย่างต่อเนื่องก็ตาม หลังน้ำลดเจ้าหน้าที่จะต้องเร่งสำรวจความเสียหายและดำเนินการเยียวยาตามขั้นตอน
ตอนนี้หน่วยงานภาครัฐได้ลงพื้นที่เข้ามาช่วยเหลือแล้ว โดยเฉพาะการนำถุงยังชีพมาแจกจ่ายให้ประชาชนในจุดต่างๆ ถือเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นได้มาก
#ภูมิภาค-74








