เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน สนธิกำลังบุกตรวจค้นพื้นที่ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี พบอาวุธปืนและซากสัตว์ป่าสงวน-คุ้มครอง ทั้งเลียงผา แมวดาว เต่า จงอาง เตรียมติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 23 พ.ย.68 นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน จ.ราชบุรี ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรปากท่อ เข้าตรวจสอบปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายป่าไม้และสัตว์ป่า สามารถตรวจยึดของกลางสำคัญจำนวนมาก ประกอบด้วย อาวุธปืน ซากสัตว์ป่าสงวน หัวเลียงผา เนื้อเลียงผา และซากสัตว์ป่าคุ้มครอง หลายรายการ
การปฏิบัติการดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และดำเนินการภายใต้การอำนวยการของ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และนายราชันย์ บัวตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3
คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย 4 หน่วยงาน ได้แก่ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน เจ้าหน้าที่สายตรวจสัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากท่อ และผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายในท้องที่บ้านพุสำโรง ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
ภายหลังการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ได้พบข้อมูลมีการลักลอบล่าสัตว์ป่าสงวนและคุ้มครองแล้วนำซากมาครอบครองจากบ้านเป้าหมาย ซึ่งเป็นบ้านพักชั้นเดียวสภาพทรุดโทรม ได้พบชายอายุประมาณ 38 ปี แสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ และยินยอมให้นำตรวจสอบภายในบ้าน พบซากสัตว์ป่าและอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดจำนวนมาก ประกอบด้วย หัวเลียงผาสด บรรจุในถุงกระสอบวางอยู่ในตู้ทำความเย็น เนื้อเลียงผา บรรจุในถุงพลาสติกวางอยู่ในตู้ทำความเย็น หนังแมวดาว อุ้งตีนตะกวด ขาเก้ง เต่าเหลือและเต่าหก งูจงอาง หนังเก้ง จำนวน 2 ผืน อาวุธปืนลูกซอง จำนวน 2 กระบอก เครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 4 ลูก ลำกล้องปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 2 ลำกล้อง มีดพก จำนวน 6 เล่ม
จากการสอบถามชายคนดังกล่าวทราบว่า บ้านหลังนี้เป็นของนายคาน ไม่ทราบนานสกุล เป็นผู้พักอาศัยอยู่เพียงลำพังมาโดยตลอด และซากสัตว์ป่ารวมถึงอุปกรณ์ที่ตรวจพบเป็นของนายคาน โดยเจ้าหน้าที่ได้สอบถามผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านใกล้ชิด ซึ่งให้การตรงกันว่า นายคาน พักอาศัยที่บ้านหลังนี้โดยลำพัง มีพฤติกรรมมักดื่มสุราและล่าสัตว์ พนักงานเจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ติดต่อไปยัง นายคาน เพื่อให้มาให้ถ้อยคำและชี้แจง แต่ปรากฏว่า นายคาน ยังไม่มาพบพนักงานเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
พนักงานเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของ นายคาน อายุ 54 ปี เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายฐาน "ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง" ตามมาตรา 12 ประกอบมาตรา 89 วรรคสอง ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ฐาน "มีไว้ในครอบครองซึ่ง ซากสัตว์ป่าสงวนหรือคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต" ตามมาตรา 17 ประกอบมาตรา 92 ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ความผิดตาม พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ ฐาน " ห้ามมิให้ผู้ใด มี ใช้ ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาต" ตามมาตรา 7 และมาตรา 8
เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตรวจยึดซากสัตว์ป่าสงวนและซากสัตว์ป่าคุ้มครองทั้งหมดและอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิด พร้อมจัดทำบันทึกตรวจยึด และนำส่งของกลางทั้งหมดไปยังพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธร สภ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เพื่อติดตามตัว นายคาน มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
#ภูมิภาค-








