ผู้ว่าฯ สุพรรณบุรีลงนาม MOU ร่วมมหาวิทยาลัย–หน่วยงานรัฐ–เอกชน ขับเคลื่อนจังหวัดสู่เมืองต้นแบบอาหารปลอดภัย ยกระดับมาตรฐาน GAP–เกษตรอินทรีย์ สู่ตลาดโลก
วันที่ 19 พ.ย.68 ที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ "การขับเคลื่อนจังหวัดสุพรรณบุรีสู่การเป็นเมืองต้นแบบอาหารปลอดภัย" โดยมี ดร.พงศ์ไท ไทโยธิน รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิทักษ์ จันทร์เจริญ อธิการบดี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต นายสมศักดิ์ สมานวงศ์ นายกสมาคมอารักขาพืชไทย รองศาสตราจารย์ ดร.ชนะศึก นิชานนท์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร วิจัย และนวัตกรรม มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ผู้บริหารส่วนราชการจังหวัด ผู้บริหารภาคเอกชน ประธานหอการค้าจังหวัด ผู้บริหารและบุคลากรมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน และสื่อมวลชน เข้าร่วมในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ซึ่งกิจกรรมในวันนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการพัฒนาเกษตรและอาหารในจังหวัดสุพรรณบุรีให้มีคุณภาพปลอดภัยและได้มาตรฐานสากล เพื่อให้สินค้าเกษตรและอาหารมีคุณภาพ ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และสามารถแข่งขันได้ในตลาด ภายใต้ยุทธศาสตร์ "หนึ่งมาตรฐาน หนึ่งความเชื่อมั่น สู่ความยั่งยืน" ซึ่งเรามุ่งมั่นให้มาตรฐาน ไม่ใช่เพียง "ข้อกำหนดทางเทคนิค" แต่เป็น "เครื่องมือสร้างความเชื่อมั่น" และ "สร้างมูลค่าเพิ่ม" ให้แก่ เกษตรกรและผู้ประกอบการในทุกระดับ โดยสุพรรณบุรีเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงในด้านการผลิตสินค้าเกษตรและอาหาร ไม่ว่าจะเป็นข้าว พืช ผัก ผลไม้ ปศุสัตว์ ประมง และผลิตภัณฑ์แปรรูป ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในวงกว้าง การขับเคลื่อนจังหวัดสุพรรณบุรีสู่การเป็น "เมืองต้นแบบอาหารปลอดภัย" จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
ในโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า จังหวัดสุพรรณบุรีเป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรธรรมชาติและเป็นแหล่งผลิตอาหารสำคัญของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพืชผลทางการเกษตร ปศุสัตว์ และการแปรรูปอาหาร ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ควรต่อยอดให้เกิดคุณค่าและความยั่งยืน โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่ผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญกับ "ความปลอดภัยของอาหาร" และ "การบริโภคอย่างรับผิดชอบ" นโยบายสำคัญของจังหวัดสุพรรณบุรีภายใต้การขับเคลื่อนในระยะต่อไป คือ การพัฒนาและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของอาหารในทุกห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ตลอดไป การลงนามบันทึกความเข้าใจในวันนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงพลังของความร่วมมือและความมุ่งมั่นร่วมกันของทุกภาคส่วน ที่จะทำให้คำว่า "อาหารปลอดภัยที่มาจากจังหวัดสุพรรณบุรี" กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความเชื่อมั่น ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ และด้วยศักยภาพของจังหวัดสุพรรณบุรี ความเข้มแข็งของชุมชน และความร่วมมือของทุกภาคส่วน จะช่วยให้สามารถขับเคลื่อนจังหวัดสุพรรณบุรีให้ก้าวสู่การเป็น "เมืองต้นแบบอาหารปลอดภัย" ได้อย่างแท้จริง และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับจังหวัดอื่น ๆ ได้ต่อไป
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ยังได้เน้นย้ำใน 2 เรื่อง ได้แก่ (1) การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practice) ซึ่งเป็นแนวทางและมาตรฐานในการผลิตทางการเกษตรที่มุ่งเน้นให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ปลอดภัยต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การทำเกษตรตามมาตรฐาน GAP ครอบคลุมตั้งแต่การเตรียมพื้นที่ปลูก การจัดการแปลง การใช้ปัจจัยการผลิต ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวและจัดการหลังการเก็บเกี่ยว และ (2) เรื่องเกษตรอินทรีย์ ที่เน้นการสร้างความยั่งยืน โดยหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีสังเคราะห์ เช่น ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง และยาฆ่าหญ้า แต่จะเน้นการใช้หลักธรรมชาติในการปรับปรุงบำรุงดิน การฟื้นฟูระบบนิเวศ และการจัดการศัตรูพืชโดยใช้วิธีการทางชีวภาพ เกษตรอินทรีย์มุ่งหวังให้ได้ผลผลิตที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างความสมดุลให้ระบบนิเวศในระยะยาว
#ภูมิภาค-43








