ข่าวคุณภาพชีวิต

"หมอเจด" แนะ 5 วิธีอาบน้ำเย็นหน้าหนาวอย่างปลอดภัย ลดเสี่ยงวูบ–หัวใจทำงานหนัก แม้ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น

แชร์ข่าว

วันที่ 24 พ.ย.68 นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ หรือ หมอเจด รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โพสต์เฟซบุ๊ก "หมอเจด" ระบุว่า...

มีหลายคนถามผมว่า "ถ้าชอบอาบน้ำเย็น หรือบ้านไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น จะอาบยังไงไม่ให้เลือดหนืดหรือเสี่ยงต่อหัวใจดีคะ?" ซึ่งการอาบน้ำเย็นในวันที่หนาว ส่งผลต่อหัวใจและระบบไหลเวียนเลือดมากกว่าที่คิดครับ เพราะน้ำเย็นทำให้เลือดหดตัวกะทันหัน เลือดหนืด หัวใจสูบฉีดแรงขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิร่างกาย อาจทำให้วูบ หน้ามืด เหนื่อยง่าย หรือหัวใจเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว วันนี้ผมเลยรวบเทคนิคง่าย ๆ ที่ช่วยให้อาบน้ำเย็นได้ปลอดภัยขึ้น ลดภาระหัวใจ และช่วยให้เลือดไม่หนืดแม้ไม่มีน้ำอุ่นครับ

1) อุ่นร่างกายก่อนประมาณ 3–5 นาที

ก่อนอาบน้ำเย็น ควรทำให้ร่างกาย “อุ่นจากข้างในก่อน” เพื่อให้เลือดตื่นตัว ไม่โดนน้ำเย็นกระตุกแบบฉับพลัน การทำให้ร่างกายอุ่น 3–5 นาที จะช่วยให้เลือดสูบฉีดดีขึ้น หลอดเลือดขยายอย่างพอดี เมื่อต้องเจอน้ำเย็น ร่างกายจะไม่หดตัวแรงจนวูบหรือใจสั่น แถมยังช่วยลดความรู้สึกช็อกน้ำเย็นตอนแรกสัมผัสได้ดีมาก ใครที่มักหน้ามืดเวลาอาบน้ำเย็น การเตรียมร่างกายให้ “อุ่นก่อนลงน้ำ” ถือว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดครับ

2) ใช้วิธี “ลูบ–ประแป้งน้ำ” แทนการราดรวดเดียว

หลังจากอุ่นร่างกายแล้ว อย่าพึ่งจ้วงขันราดน้ำเย็นไปเลยนะครับ เพราะจะทำให้หลอดเลือดหดตัวแบบฉับพลันและหัวใจต้องเร่งสูบเลือดทันที วิธีที่ปลอดภัยกว่าคือ “ประแป้งน้ำ” หรือค่อย ๆ ลูบผิวด้วยน้ำเย็นทีละส่วน เพื่อให้ผิวและหลอดเลือดปรับอุณหภูมิ ละนิด ซึ่งช่วยให้เลือดไหลเวียนต่อเนื่อง ไม่สะดุด และลดอาการวูบจากการเปลี่ยนอุณหภูมิรวดเร็ว แถมวิธีนี้ยังช่วยให้ร่างกายรู้สึกเย็นน้อยลงด้วยเมื่ออาบจริงครับ

3) เริ่มจากส่วนปลายก่อน ไม่ราดที่อกทันที

ใครที่เริ่มราดน้ำเย็นลงหน้าอกทันทีอันตรายมากครับ เพราะกระตุ้นหัวใจโดยตรง เกิดการสะดุ้ง หัวใจเต้นเร็ว หรือหายใจติดขัดได้ วิธีที่ถูกต้องคือเริ่มอาบจากส่วนปลายร่างกายก่อน เช่น มือ เท้า แขน ขา แล้วค่อยเลื่อนขึ้นมาเรื่อย ๆ จนถึงลำตัว แล้วค่อยลูบน้ำบริเวณหน้าอกและหัวใจเป็นลำดับสุดท้าย เทคนิคนี้ช่วยให้หลอดเลือดส่วนปลายเป็นตัวปรับอุณหภูมิก่อน ลดแรงกระแทกของน้ำเย็นต่อระบบหัวใจและปอด ใครที่เคยรู้สึกจุกหน้าอกหรือวูบ วิธีนี้ช่วยได้มากครับ

4) อย่าอาบน้ำนานเกิน 5–7 นาที

ใครที่ชอบอาบน้ำนาน ๆ บางคน 20-30 นาทีก็มี ทำให้ร่างกายต้องผลิตความร้อนเพื่อสู้กับความเย็นตลอดเวลา ส่งผลให้หัวใจต้องสูบฉีดแรงขึ้นต่อเนื่อง เลือดข้นขึ้นชั่วคราว และอาจเหนื่อยง่ายหรือมือเท้าเย็นจัดได้ คนที่มีความดันสูง–ต่ำ หรือเคยวูบในห้องน้ำต้องระวังเป็นพิเศษ ควรตั้งเวลาอาบประมาณ 5–7 นาทีพอ เพื่อให้ร่างกายสัมผัสน้ำเย็นพอสดชื่น แต่ไม่ทำให้ระบบไหลเวียนทำงานหนักจนเกินไปครับ

5) เช็ดตัวและใส่เสื้อผ้าอุ่นทันที

หลังอาบน้ำเย็นเสร็จ ร่างกายจะสูญเสียความร้อนเร็วมาก ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานเกิน 1–2 นาที หลอดเลือดจะยังหดตัว และเสี่ยงเลือดหนืดชั่วคราวได้ การเช็ดตัวให้แห้งทันทีและสวมเสื้อผ้าอุ่น เช่น เสื้อไหมพรม ถุงเท้า หรือผ้าคลุมไหล่ ช่วยให้ร่างกายกลับมาอุ่นเร็ว หัวใจทำงานน้อยลงและระบบไหลเวียนฟื้นตัวเร็วขึ้น ใครที่มักหนาวจนสั่นหลังอาบน้ำ การอุ่นตัวเร็วคือกุญแจสำคัญครับ

อาบน้ำเย็นในหน้าหนาวไม่จำเป็นต้องอันตรายเสมอไป ถ้ารู้วิธีปรับตัวให้ถูกต้อง ตั้งแต่เตรียมร่างกายให้อุ่น ค่อย ๆ ปรับอุณหภูมิก่อนอาบ ไม่ราดน้ำที่หน้าอกทันที ไม่อาบนานเกินไป และรีบอุ่นตัวหลังอาบ เทคนิคเหล่านี้ช่วยลดภาระหัวใจ เลือดไม่หนืด ลดอาการวูบ และทำให้อาบน้ำได้ปลอดภัยขึ้น แม้บ้านจะไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นก็ตามครับ

#หมอเจด #สุขภาพหน้าหนาว #อาบน้ำหน้าหนาว #เตือนสุขภาพ #คนไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น #ดูแลตัวเอง #ข่าวสุขภาพ #หนาวนี้ต้องระวัง