วันที่ 16 พ.ย.68 เวลา 15.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง เตรียมรับมืออุณหภูมิลดลง ส่วน 13 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ให้เฝ้าระวังและรับมือสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ดินโคลนถล่ม สำหรับ 7 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 17 - 23 พ.ย. 68 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้และให้คำแนะนำประชาชนในการดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่อุณหภูมิลดลง ส่วนพื้นที่ที่เฝ้าระะวังสถานการณ์อุทกภัย ให้จัดทีมปฏิบัติการและนำเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย โดยเฉพาะพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมบ่อยครั้ง สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนการเดินเรือ และเดินเรือด้วยความระมัดระวัง รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนปฏิบัติตามประกาศแจ้งเตือนภัยจากทางราชการอย่างเคร่งครัด
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยา ได้มีประกาศฉบับที่ 3 (342/2568) เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ระบุว่า ในช่วงวันที่ 17 - 23 พฤศจิกายน 2568 ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศแปรปรวน โดยจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง และมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีสมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 4 - 7 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุม อ่าวไทย และภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร จึงขอแจ้งพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ดังนี้
พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์อุณหภูมิลดลง ระหว่างวันที่ 17 - 23 พฤศจิกายน 2568 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง
พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่ม ระหว่างวันที่ 17 - 23 พฤศจิกายน 2568 แยกเป็น
-ภาคกลาง 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
-ภาคใต้ 13 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพัทลุง จังหวัดสงขลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส จังหวัดระนอง จังหวัดพังงา จังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง และจังหวัดสตูล
พื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ระหว่างวันที่ 19 - 23 พฤศจิกายน 2568
-ภาคใต้ 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ทุกอำเภอ) ชุมพร (อำเภอเมืองชุมพร อำเภอปะทิว อำเภอสวี อำเภอทุ่งตะโก อำเภอหลังสวน และอำเภอละแม) สุราษฎร์ธานี (อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี อำเภอไชยา อำเภอท่าชนะ อำเภอท่าฉาง อำเภอพุนพิน อำเภอดอนสัก อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงัน) นครศรีธรรมราช (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอขนอม อำเภอสิชล อำเภอท่าศาลา อำเภอปากพนัง และอำเภอหัวไทร) สงขลา (อำเภอเมืองสงขลา อำเภอระโนด อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสทิงพระ อำเภอสิงหนคร อำเภอจะนะ และอำเภอเทพา) ปัตตานี (อำเภอเมืองปัตตานี อำเภอหนองจิก อำเภอยะหริ่ง อำเภอปะนาเระ อำเภอสายบุรี และอำเภอไม้แก่น) และจังหวัดนราธิวาส (อำเภอเมืองนราชิวาส และอำเภอตากใบ)
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประสานจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง เตรียมพร้อมรับมืออากาศหนาวถึงหนาวจัด โดยประชาสัมพันธ์และให้คำแนะนำสร้างการรับรู้แก่ประชาชนในการดูแลรักษาสุขภาพจากอุณหภูมิที่ลดลง ส่วนจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และพื้นที่ภาคใต้ 13 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และจังหวัดสตูล เตรียมรับมือสถานการณ์ภัย โดยติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ใน 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมบ่อยครั้ง เพื่อลดผลกระทบจากเหตุอุทกภัยให้ได้มากที่สุด สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นห้ามเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยตลอด 24 ชั่วโมง
ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง โดยเฉพาะ 7 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ขอให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกประกาศหรือติดตั้งสัญญาณแจ้งเตือนบริเวณชายฝั่งทะเล ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำทะเลโดยเด็ดขาด และให้แจ้งชาวเรือ ผู้บังคับเรือ และผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง ให้พิจารณาห้ามเดินเรือเด็ดขาด
พร้อมกันนี้ ได้ประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง และพร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีหากเกิดสถานการณ์ขึ้น ตลอด 24 ชั่วโมง และขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน "THAI DISASTER ALERT" ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ ทั้งระบบ IOS และ Android และหากความเดือดร้อนจากสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ "ปภ.รับแจ้งเหตุ1784" โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป
ข่าวคุณภาพชีวิต
ปภ.เตือนรับมืออากาศหนาว-อุทกภัยทั่วไทย 17-23 พ.ย.68 เฝ้าระวังน้ำท่วม ดินโคลน คลื่นลมแรง
แชร์ข่าว
ข่าวแนะนำ
แชร์ข่าว








