ข่าวคุณภาพชีวิต

"ตลาด" ปัญหาใหญ่ กทม. จ่อรื้อ "ใต้พรม" ขึ้นโต๊ะเจรจา ชี้ "จตุจักร" วุ่นหนัก ค้างสัญญาเช่า รฟท.

แชร์ข่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า สำนักงานตลาดกรุงเทพมหานครกำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องเร่งแก้ไข ทั้งการเปลี่ยนบอร์ด, งบประมาณ, และหนี้สินค้าง

หนึ่งในตัวอย่างปัญหาที่เรื้อรังคือพื้นที่ตลาดสวนจตุจักร ที่มีประเด็นเรื่อง สัญญาเช่าพื้นที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับหนี้สินและการทำสัญญา ปัญหานี้มีความซับซ้อนและเร่งด่วน เพราะมีความเสี่ยงที่ กทม. อาจถูกฟ้องร้องได้ ต้องใช้ฝ่ายกฎหมายและสำนักการคลังเข้ามาร่วมพิจารณาอย่างเร่งด่วน

นอกจากปัญหาด้านสัญญาแล้ว ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า กทม. ไม่ควรมีหน้าที่บริหารจัดการตลาดด้วยตนเอง เนื่องจากขาดความรู้ความชำนาญในการบริหารตลาด และควรพิจารณาการ "จ้างภาคเอกชน" เข้ามาบริหารจัดการ หรือใช้รูปแบบ PPP (Public-Private Partnership) โดยต้องมีการออกข้อบัญญัติเพื่อเปิดทางให้เอกชนเข้ามามีบทบาท หากยังบริหารเองต่อไป ปัญหาก็จะยืดเยื้อ

มีการวิจารณ์เกี่ยวกับการแต่งตั้งบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับตลาดมาเป็นบอร์ดด้วยว่า ไม่ควรนำผู้มีความชำนาญด้านอื่นมาเป็นบอร์ดบริหารตลาดขนาดใหญ่และซับซ้อนอย่างสวนจตุจักร รวมถึงมีการเรียกร้องให้แก้ปัญหาการบริหารจัดการตลาด โดยนำประเด็นใต้พรมขึ้นโต๊ะเพื่อแก้ไขกฎหมายและนโยบายอย่างเร่งด่วน เนื่องจากปัญหาเหล่านี้มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะถูกซุกซ่อนต่อไปได้

แหล่งข่าวระบุว่า การจัดการเรื่องนี้ มีความจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อพิจารณาปัญหาแต่ละประเด็นอย่างชัดเจนว่าคืออะไร สิ่งใดที่ต้องได้รับการแก้ไข อะไรคือกฎหมาย และอะไรคือนโยบายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นสิ่งที่ต้องทำในวันหนึ่ง ไม่สามารถหลีกเลี่ยงตลอดไปได้

ผู้ที่เกี่ยวข้องเน้นย้ำว่า ทีมงานไม่ควรนิ่งเฉยต่อสถานการณ์ปัจจุบัน และไม่จำเป็นต้องกังวลว่าการเปิดเผยปัญหาจะทำให้เกิดประเด็นเรื่องผลประโยชน์หรือติดขัดต่อผู้ใด แต่ประเด็นที่อยู่ "ใต้พรม" ทั้งหมดจะต้องถูกนำขึ้นมาอยู่บนโต๊ะ เนื่องจากมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมีขนาดใหญ่เกินกว่าจะปกปิดได้

อย่างไรก็ตาม ด้านการร้องเรียนจากผู้ค้าในตลาดหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง หากมี "หลัก" ในการทำงานที่ชัดเจน จะสามารถรับมือได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการร้องเรียนและหลักฐานที่เป็นภาพถ่าย สามารถเชิญทุกฝ่ายมาพูดคุยกันเพื่อหาทางออกได้ หากมี "หลักการ" และ "หลักกฎหมาย" ที่ชัดเจน

สำหรับตลาดนัดจตุจักรมีเนื้อที่ 68 ไร่ 1 งาน 88 ตารางวา โดยมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2561 ให้โอนความรับผิดชอบการบริหารจาก รฟท.ไปให้ กทม. โดยให้ กทม.จ่ายค่าเช่าให้ รฟท.ในอัตราปีละ 169,423,250 บาท และให้มีการพิจารณาทบทวนค่าเช่าร่วมกันทุกๆ 3 ปี มีระยะเวลาให้เช่าไม่เกินปี 2571

แต่เนื่องจากที่ผ่านมา กทม.นำพื้นที่ไปดำเนินการเช่าช่วงอัตรา 1,800 บาท/แผง /เดือน แต่ยังไม่ได้ชำระค่าเช่าให้กับ รฟท.จนนำไปสู่การยื่นฟ้องคดี โดยศาลชั้นต้นพิพากษาว่า กทม.ไม่ได้ปฏิบัติตามมติ ครม.ครบถ้วน มีการเลือกปฏิบัติเฉพาะในส่วนที่ กทม.ได้รับประโยชน์ จึงมีคำสั่งให้ กทม.ชำระค่าเช่าให้กับ รฟท.พร้อมดอกเบี้ย นับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2561 จนถึงวันฟ้องวันที่ 27 มิ.ย. 2565 เป็นจำนวนเกือบ 700 ล้านบาท เป็นเงินต้น 606 ล้านบาท ดอกเบี้ย 66 ล้านบาท นอกจากนี้ ศาลได้สั่งให้ กทม.ชำระค่าเช่า 14 ล้านบาทต่อเดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 65 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ กทม.ได้ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลยังไม่มีคำตัดสินออกมา ซึ่งถึงปัจจุบัน กทม.ยังไม่เคยชำระหนี้หรือจ่ายค่าเช่าให้กับ รฟท.ตามมติ ครม.เลย คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,250 ล้านบาท (เงินต้นและดอกเบี้ย)

ที่ผ่านมา กทม.ได้มีการเจรจาเพื่อขอยกเว้นดอกเบี้ย รวมถึงลดค่าเช่าในช่วงเกิดโควิด- 19 โดยอ้างว่า กทม.ดำเนินการปิดตลาดฯ ในช่วงดังกล่าว และมีการลดค่าเช่าผู้ค้าเอง

ข่าวแนะนำ