"สุชาติ" ห่วงใยเจ้าหน้าที่-ปชช.ชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านถูกระเบิด สั่ง "ทส." เร่งดูแลช่วยเหลือเต็มที่
ตามข้อสั่งการของนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่แสดงความห่วงใยต่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนจากสถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยเฉพาะกรณีบ้านพักเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติได้รับความเสียหายจากการยิงจรวด และบิดาของเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด ได้มอบหมายให้นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สั่งการให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ดำเนินการตามแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง เพื่อรองรับและให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2568 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) โดยศูนย์เฉพาะกิจประสานงานด้านความมั่นคงพื้นที่ป่าอนุรักษ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ร่วมกับหน่วยงานพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ชายแดน 6 แห่ง และหน่วยงานร่วมบูรณาการ 20 หน่วยงาน ได้ติดตามสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดน ซึ่งยังคงมีการปะทะอย่างต่อเนื่อง มีการยิงปืนใหญ่ จรวดหลายลำกล้อง (BM-21) และโดรน ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของกำลังพลและประชาชนในพื้นที่
จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีประชาชนในพื้นที่บ้านเสาธงชัย ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย และบ้านพักเสียหาย 1 หลัง โดยเป็นบ้านพักของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้รับผลกระทบ 2 ราย ได้แก่ นางรัตนวงค์ จันทร์อ่อน บุคคลภายนอกปฏิบัติราชการให้กรมอุทยานฯ ซึ่งบ้านพักถูกจรวด BM-21 ตกในพื้นที่จนเกิดไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง และนางสาวอัญชลีภรณ์ สุวรรณศิลป์ พนักงานราชการ ตำแหน่งพิทักษ์ป่า ซึ่งแจ้งว่า นายรำไพ สุวรรณศิลป์ บิดา ผู้ปฏิบัติงานชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด BM-21 ขณะหลบอยู่ในหลุมหลบภัย มีบาดแผลที่ท้ายทอยและหมดสติ ก่อนนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี อาการอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง
ทั้งนี้ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 ได้สนับสนุนการดำเนินงานตามแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังอย่างต่อเนื่อง ทั้งการอพยพประชาชนเพิ่มเติมไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว การสนับสนุนสิ่งของอุปโภคบริโภคในศูนย์พักพิง 18 แห่ง การร่วมตรวจตราเฝ้าระวังรักษาความสงบเรียบร้อยใน 31 หมู่บ้าน การจัดเวรยามรักษาความปลอดภัยหน่วยงานในพื้นที่ 26 แห่ง รวมถึงการร่วมบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบ
รองนายกฯ สุชาติ เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดูแลความปลอดภัยและสวัสดิการของเจ้าหน้าที่และประชาชนอย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มกำลัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดนต่อไป







