การศึกษา

รมว.ศธ.นฤมล เข้าร่วมการอภิปรายในการประชุมระดับโลกว่าด้วยอนาคตของการศึกษาและทักษะ พ.ศ.2583

แชร์ข่าว

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ศาสตราจารย์ ดร. นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เข้าร่วมเป็นวิทยากรในการอภิปรายการประชุมระดับโลกว่าด้วยอนาคตของการศึกษาและทักษะ พ.ศ. 2583 (Global Forum : Future of Education and Skills 2040) ณ Hotel Bôrik กรุงบราติสลาวา สาธารณรัฐสโลวัก

ศ.ดร. นฤมล ได้ร่วมนำเสนอวิสัยทัศน์และมุมมองเชิงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาสมรรถนะ ให้แก่ครูและนักเรียนให้มีความพร้อมสำหรับโลกแห่ง AI โดย ศ.ดร. นฤมล เล็งเห็นว่า ทักษะการคิดวิเคราะห์การแก้ไขปัญหา ความคิดสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกัน การสื่อสาร การให้เหตุผลเชิงจริยธรรม และการจัดการตนเอง เป็นสมรรถนะที่สำคัญสำหรับการอยู่ในโลกที่มี AI เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันอย่างมาก นอกจากสมรรถนะข้างต้นแล้ว การรู้เท่าทัน AI การมีทักษะดิจิทัล การมีความรับผิดชอบในการใช้ AI และการมีจริยธรรม เป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ ปัจจุบัน AI มีบทบาทในการเรียนรู้ตลอดชีวิต นักเรียนใช้ AI ทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการพัฒนาผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ปกครองและชุมชน

ในด้านการจัดการเรียนรู้ AI เป็นเครื่องมือช่วยที่ดีสำหรับการลดภาระครู ครูควรได้รับการพัฒนาทักษะการใช้ AI ในการจัดการเรียนรู้ ใช้ AI เป็นผู้ช่วยในการติดตามการเรียนรู้ของผู้เรียน ตลอดจน การใช้ AI เพื่อตอบสนองต่อการเรียนรู้ที่ผู้เรียนมีความสนใจ และปัจจุบัน AI ไม่ได้ถูกจำกัดในวิชาด้านเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ถูกนำไปใช้ในทุกวิชา อาทิ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษา สังคมศึกษา ทั้งนี้ การพัฒนาครูให้สามารถพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของ AI ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นความท้าทายที่สำคัญ กระทรวงศึกษาธิการได้มีการจัดฝึกอบรมครูและนักเรียนอย่างต่อเนื่อง ในโรงเรียนนำร่อง จำนวน 750 แห่ง โดยเน้นการพัฒนาการรู้เท่าทัน AI การใช้อย่างมีจริยธรรม การบูรณาการหลักสูตร และแอปพลิเคชันสำหรับห้องเรียน ตลอดจนการนำ AI มาใช้ในการลดภาระครูในงานธุรการหรืองานอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอนอีกด้วย

ในการอภิปรายครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมอภิปรายระดับรัฐมนตรีจากประเทศที่มีความโดดเด่นด้านการใช้ AI ในการศึกษา และด้านการพัฒนาการศึกษาตามกรอบ OECD สาธารณรัฐสโลวัก สาธารณรัฐโปรตุเกส ราชอาณาจักรไทย สาธารณรัฐอินเดีย และสาธารณรัฐยูเครน และมีผู้เข้าร่วมประชุมจาก 35 ประเทศ จำนวนกว่า 150 คน ประกอบด้วย รัฐมนตรีศึกษา รัฐมนตรีดิจิทัล ผู้บริหารการศึกษา นักวิชาการ นักการศึกษา ผู้เชี่ยวขาญ ครู นักเรียน และนักศึกษา