เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.68 ที่ ตม.สงขลา ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต. ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงสกุล ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.ตม.6 , พ.ต.อ.ศุภโชค หยงสตาร์ รอง ผบก.ตม.6 และ พ.ต.อ.สรธรรศจ์ เอี่ยมละออ ผกก.ตม.จว.สงขลา, สั่งการให้ชุดสืบสวน ตม.จว.สงขลา บูรณาการกำลังกับตำรวจทางหลวง , ตำรวจท่องเที่ยว, สภ.รัตภูมิ และเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.สงขลา สกัดรถกระบะตู้ทึบขนแรงงานต่างด้าว 1 คัน พร้อมรถนำสำรวจเส้นทาง ที่บริเวณริมถนนเพชรเกษมขาล่อง บริเวณใกล้แยกคูหา ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา หลังจากสืบทราบว่า จะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวจากพื้นที่ตอนบน ผ่านจังหวัดสงขลาออกไปประเทศมาเลเซียทางช่องทางธรรมชาติ ผลการตรวจสอบพบนายวรพงศ์ อายุ 28 ปี นั่งมากับแฟนสาว เป็นผู้ขับขี่รถกระบะตู้ทึบที่ดัดแปลงภายในตู้เป็น 2 ชั้น พร้อมคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาซุกซ่อนภายในรถจำนวน 22 คน ทุกคนมีสภาพอิดโรยจากอากาศร้อน ส่วนรถนำทางเป็นรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่น แจ๊ส สีขาว มีนายอินทัช อายุ 28 ปี เพื่อนของนายวรพงศ์ เป็นผู้ขับขี่ โดยมีภรรยานั่งมาด้วย
จากการสอบถามนายวรพงศ์ รับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ประกอบอาชีพขับรถรับจ้างส่งของไม่ประจำทาง แต่รายได้ไม่พอใช้จึงหันมารับจ้างขนแรงงานต่างด้าวจากจังหวัดราชบุรี มายังจังหวัดสงขลา ได้ค่าจ้าง 2,200 บาท/คน แบ่งให้รถนำครั้งละ 10,000 บาท ระยะหลังได้เอาไม้กระดานมาเสริมที่ตู้ทึบ เพื่อให้สามารถจุคนได้เพิ่มขึ้นจาก 15-20 คนต่อเที่ยว เป็น 20-30 คนต่อเที่ยว ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่าทั้ง 4 คน กระทำความผิดข้อหา ร่วมกันให้ที่พักพิงซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาคนต่างด้าวทั้ง 22 คน ว่ากระทำความผิดข้อหา เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่ง พงส.สภ.รัตภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงสกุล ผบก.ตม.6 กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ความไม่สงบของประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้พลเมืองของชาตินั้นมีการลักลอบโยกย้ายถิ่นฐานไปทำงานยังประเทศที่มีคุณภาพชีวิตดีกว่า เมื่อไปถึงจะพบว่า พลเมืองกลุ่มนี้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้าง ทั้งเรื่องเวลาการทำงานและรายได้ เนื่องจากเข้ามาแบบผิดกฎหมาย ผบช.สตม. มีนโยบายกำชับให้เจ้าหน้าที่ ตม. ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว ตลอดจนบูรณาการกำลังสกัดกั้นขบวนการลักลอบขนคนต่างด้าวอย่างต่อเนื่อง ทราบมาว่าขบวนการนี้มีผู้บงการเป็นบุคคลที่เคยถูกชุดสืบสวนของ บก.ตม.6 ดำเนินคดีมาแล้วแต่ไม่เข็ดหลาบ กลับมาก่อเหตุซ้ำอีก หลังจากนี้จะมอบหมายให้ พ.ต.อ.สรธรรศจ์ เอี่ยมละออ ผกก.ตม.จว.สงขลา ดำเนินการขยายผลการจับกุมและรายงานให้ทราบโดยเร็วต่อไป







