“จตุพร” ชี้ยุบสภากลางศึกกัมพูชา เสี่ยงไร้เลือกตั้งยาว-การเมืองล่ม เข้าสู่เงาทหาร

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2568 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน โดยระบุว่า การยุบสภาในขณะที่ประเทศทำศึกสงครามอธิปไตยกับกัมพูชา อาจส่งผลให้จัดเลือกตั้งไม่ได้ และส่อแววจะไม่มีเลือกตั้งอีกยาวไกล

“ยุบสภาแล้วไม่รู้จะเลือกตั้งวันไหน ยิ่งในสถานการณ์สงคราม ซึ่งไม่รู้จะจบเมื่อไร แล้วใครจะสามารถจัดการเลือกตั้งได้ และอาจไม่มีทางจัดเลือกตั้งกันได้อีกยาวไกล เท่ากับนักการเมืองแสดงความโง่ ตีไพ่ให้การรัฐประหารเสียเอง”

อีกทั้งกล่าวว่า การแก้ รธน.จะให้ สว.ยกมือตัดอำนาจตัวเอง โดยยกเลิกเสียง สว. 1 ใน 3 ในการโหวตรับหรือไม่รับ รธน. เพื่อมาใช้ระบบเสียงข้างมากของสองสภาตามมติของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) นั้น ถูกคว่ำในที่ประชุมรัฐสภาเมื่อ 11 ธ.ค.นี้ จนเป็นเหตุให้พรรคประชาชนไม่พอใจและประกาศยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตาม ม. 151 ของ รธน. 2560

อย่างไรก็ตาม การยื่นอภิปรายฯ มุ่งหวังไล่รัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งมีชะตากรรมต้องแพ้มติกลางสภาอย่างแน่นอน จนเป็นเหตุให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ ต้องยุบสภาหนีโหวต กลายเป็นรัฐบาลรักษาการ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45-60 วันตั้งแต่ยุบสภา

สิ่งสำคัญภายใต้ประเทศทำศึกสงครามขณะนี้จะจัดการเลือกตั้งได้อย่างไร เพราะบทบัญญัติ รธน.และผลวินิจฉัยของศาล รธน.ว่า การเลือกตั้งต้องจัดพร้อมกันในวันเดียวทั่วราชอาณาจักร

นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อฐานะรัฐบาลเป็นรัฐบาลรักษาการไม่มีอำนาจเต็ม ดังนั้น อำนาจบริหารจึงถูกแบ่งครึ่งกับ กกต. ด้วย โดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณฟื้นฟูภาคใต้จากผลกระทบภัยพิบัติน้ำท่วม หรือโยกย้าย แต่งตั้งข้าราชการ ต้องขออนุญาต กกต. ยิ่งท่ามกลางการทำสงครามการใช้งบประมาณคงไม่ทันการกับทำศึกสงคราม

“ถึงที่สุดแล้ว ทหารจะปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร ท้ายที่สุดทหารก็เอาอำนาจมาอยู่ในมือตัวเองด้วยการประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ดังนั้น การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไป จะเป็นวันไหนก็ไม่รู้”

อีกอย่างการแก้ รธน. เป็นเรื่องที่ยากอยู่แล้ว ถ้านักการเมืองเอาแต่เรื่องส่วนตัว ยึดอารมณ์แข็ง ๆ ใส่กันก็ต้องล่มไม่เป็นท่า และถ้ามาอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก ขณะที่ชาติบ้านเมืองยังรบกัน มีคนตายและผู้อพยพเป็นแสนคนมีความยากลำบาก ท้ายที่สุดนักการเมืองก็ไปประเคนอำนาจให้ทหาร แล้วจะโทษใคร

“อารมณ์นักการเมืองวันนี้ไม่พอใจกับการแก้ รธน.แน่นอน เพราะสิ่งที่ต้องการไม่ได้ดังใจ แต่เอาเป็นว่า ถ้าไม่มีศึกสงครามก็เอากันเต็มที่ไปเลย แต่เมื่อมีศึกสงครามจะเอาแก้ รธน.ให้ได้ ยิ่งจะโดนฉีก รธน.เอาเสียด้วยซ้ำ”