ขีดเส้น5วัน “รมว.ยุติธรรม” สั่งเร่งสอบ “ผบ.คุก” เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯปมเอื้อประโยชน์ผู้ต้องขังชาวจีน ชี้เป็นเหตุการณ์ร้ายแรงบ่อนทำลายกระบวนการยุติธรรม
เมื่อวันที่ 21 พ.ย.68 พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณึงกรณีที่กรมราชทัณฑ์ได้สั่งย้ายผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จากกรณีพบการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ต้องขังชาวจีน โดยเปิดเผยว่าตั้งแต่ตนเองรับราชการมาจนเกษียณอายุราชการ ก็เพิ่งเคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนตัวนั้นรับไม่ได้อย่างมาก เพราะถือเป็นการบ่อนทำลายกระบวนการยุติธรรม เหยียบย่ำกระบวนการยุติธรรมของประเทศ เป็นเรื่องที่เลวร้ายอย่างมาก และเชื่อว่าประชาชนทุกคนก็รับไม่ได้กับเรื่องนี้
อีกทั้งตนได้ทราบผ่านรายงานด้วยวาจาตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็ได้ดำเนินการตรวจค้นและสั่งย้ายผู้บัญชาการเรือนจำตามที่ปรากฏเป็นข่าว โดยตนได้มอบหมายให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทำรายงานสรุปและให้นำมารายงานในที่ประชุมที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อติดตามความคืบหน้า
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังยืนยันด้วยว่า เรื่องนี้จะดำเนินการอย่างเต็มที่ทั้งการตรวจสอบพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงอย่างเข้มข้น รวมทั้งจะเร่งรัดให้ดำเนินการเอาผิดกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นทางอาญาและทางวินัย ไม่มีปล่อยผ่านอย่างแน่นอน ส่วนจะมีการตรวจสอบย้อนหลังกับผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯรายนี้ด้วยหรือไม่ ก็จะดำเนินการตรวจสอบให้กว้างที่สุด
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้รับรายงานด้วยวาจาจากทางกรมราชทัณฑ์ ก็ได้รับรายงานยืนยันว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในข่าวนั้น ทั้งเรื่องของห้องใต้บันได ถุงยางอนามัย และการนำหญิงสาวเข้าไปบริการผู้ต้องขังจีนเทานั้น เป็นเรื่องจริงตามรายงาน แต่ขอตรวจสอบพยานหลักฐานอย่างละเอียดก่อน เพื่อดูว่ามีข้อมูลตรงไหนที่ต้องดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งจะถือโอกาสเป็นการปรับปรุงระบบคุกในประเทศไทยทั้งระบบ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ซึ่งในกรณีการตรวจสอบในประเด็นที่เกิดขึ้นขอใช้ระยะเวลาการตรวจสอบเร่งด่วน 5 วันเพื่อให้เกิดข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้เวลา 09.00 น. ตนพร้อมกับกรมราชทัณฑ์และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จะเข้าตรวจสอบเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในวันพรุ่งนี้ แต่จะให้สื่อมวลชนเข้าร่วมตรวจสอบได้หรือไม่นั้น ขอดูระเบียบของกรมราชทัณฑ์ก่อน







