เมื่อทุกพรรคการเมืองเข้าสู่การเตรียมพร้อม ลุยศึกเลือกตั้ง 2569 บรรยากาศการเมืองบ้านเราในวันนี้จึงเต็มไปด้วยความเข้มข้น
นอกเหนือไปจากการขยับย้ายพรรค จากอีกพรรคหนึ่ง ไปยังพรรคใหม่ ที่มั่นใจว่า จะทำให้ชนะการเลือกตั้ง ฝ่าด่านเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรกันได้แล้ว ยังพบว่าแต่ละพรรค ยังต้องเสนอ “จุดขาย” ทั้งในแง่ “นโยบาย” และ “ตัวบุคลล” ที่จะมาเป็น “นายกฯคนใหม่”
ปัจจัยด้าน “ตัวบุคคล” มีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจของประชาชน ในฐานะ “โหวตเตอร์” ดังนั้นแม้บรรดาพรรคใหญ่ จะมีความพร้อมทั้งทุนรอน และว่าที่ผู้สมัคร คัดสรรกันมาทั้งกลุ่มก๊วน บ้านใหญ่ หรือแม้แต่ มา “ทั้งพรรค” ก็ไม่ได้หมายความว่าการนำเสนอ “แคนดิเดตนายกฯ” จะขาดน้ำหนักไปแต่อย่างใด
การเปิดตัว “ดร.เชน” ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ในฐานะแคนดิเดตเบอร์ 1 ของพรรคเพื่อไทย ที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่จะทำให้คอการเมือง และพรรคคู่แข่ง ต้องหันมามอง เพราะนี่คือสัญญาณ การสู้ต่อ สำหรับ “ตระกูลชินวัตร” แม้ในวันที่ไม่มี “ทักษิณ ชินวัตร” มานั่งบัญชาการอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า
แต่เมื่อมี “หลานลุง” อย่างดร.เชน พรรคเพื่อไทก็พร้อมที่จะสู้ต่อ ไม่ว่าการต่อสู้รอบนี้ พรรคจะวางเดิมพันเอาไว้ที่ตัวเลขสส.เท่าใดก็ตาม !
ดร.เชน ยศชนัน ในห้วงเวลานี้ อยู่ในช่วงของการเดินสายโปรโมท ทั้งแนวคิด และตัวตน ตลอดจนนำเสนอนโยบายของพรรคตามสื่ออย่างต่อเนื่อง การตอบคำถามข้อยาก ว่าด้วยความสัมพันธ์ของครอบครัวกับงานด้านการเมือง กลับไม่ได้ทำให้ “ตายไมค์”
แน่นอนว่าในระหว่างที่ดร.เชน เดินสายนำเสนอตัวเองผ่านสื่อ เพื่อเปิดตัวเองให้ประชาชนได้รู้จัก ปรากฎว่าอีกด้านหนึ่ง มีความเคลื่อนไหวที่พรรคเพื่อไทย เมื่อบรรดาอดีตสส.และกลุ่มการเมืองในพรรค ยังเลือดไหล ทยอยทิ้งพรรค
จะนับว่าเป็นความท้าทายทั้งต่ออดีตนายกฯทักษิณ เจ้าของพรรค และแคนดิเดตนายกฯอย่างดร.เชน ด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ ล่าสุด ยังปรากฏว่า ดร.เชน ยังต้องตอบคำถาม กรณี “น้องสาว” คือ ชยาภา วงศ์สวัสดิ์ หรือ “เชอรี่” น้องสาวของ ดร.ยศชนัน ที่เคยแต่งงานกับ นัม ลินัล เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะรัฐมนตรีกัมพูชา ลูกชายของ เลียง นัม สส.เสียมราฐ คนใกล้ชิดกับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา
เพื่อโยงไปถึงความสัมพันธ์ครอบครัว วงศ์สวัสดิ์ กับ คนใกล้ชิดสมเด็จฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา ตัวจริงที่บัญชาการรบทหารกัมพูชา รุกรานไทย ในเวลานี้
ทำให้ ชยาภา ได้ออกมาเปิดใจชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว ว่าความสัมพันธ์ระหว่างตนกับนัม ลินัล ได้สิ้นสุดลงโดยสมบูรณ์จากการหย่าร้างมานานกว่า 5 ปีแล้ว เนื่องจากทัศนคติที่ไม่ตรงกัน การนำเรื่องราวในอดีตที่จบไปแล้วมาเชื่อมโยงเพื่อโจมตีทางการเมืองใส่ร้าย ดร.ยศชนัน ผู้เป็นพี่ชาย เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
“ยืนยันด้วยเกียรติว่า ครอบครัวของตนไม่มีความเกี่ยวข้องหรือได้รับผลประโยชน์ใดๆ ทางการเมืองจากการแต่งงานในครั้งนั้น และย้ำจุดยืนในฐานะคนไทยที่รักชาติ อย่าเอาความเจ็บปวดผู้หญิงมาเล่นการเมือง”
การหยิบเอาเรื่องราวส่วนตัว ความสัมพันธ์ในอดีตของในครอบครัววงศ์สวัสดิ์ เพื่อรับน้องใหม่ทางการเมืองอย่างดร.เชน กรณีนี้อาจเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น เพราะแม้ผ่านมา สำหรับตัวดร.เชน จะมีประวัติที่พร้อมแทบทุกด้าน หลายคนที่รู้จักเขาในฐานะนักวิชาการ มักพูดถึงในแง่บวก
แต่เมื่อวันนี้ ดร.เชน ปรับโหมดจากนักวิชาการ ลงมาสู่ “สนามการเมือง” อะไรที่ยังไม่เคยเจอ ก็อาจจะได้พบ โดยเฉพาะหากปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่จบ ยืดเยื้อต่อไป ความสูญเสียทวีมากขึ้น เชื่อเถอะว่าเมื่อ พรรคคู่แข่งขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียง
นับจากนี้ไป ความสัมพันธ์ระหว่าง “ลุงทักษิณ” กับสมเด็จ ฮุน เซน ไปจนถึง “คลิปเสียง” ที่ “แพทองธาร ชินวัตร" อดีตนายกฯ คุยกับ “อังเคิลฮุนเซน” จะวนกลับมา "ฉายซ้ำ" เพื่อเขย่า ดร.เชน และพรรคเพื่อไทย ด้วยความแรงอีกหลายเท่า !







