นาทีนี้ไม่มีคำว่าถอย! เมื่อศึกไทยกัมพูชากลายเป็นสมรภูมิเดิมพันอำนาจระหว่างสองบุรุษสายเหยี่ยว "ฮุน เซน" ผู้เจนจัดในสนามรบ ปะทะ "เนวิน" ผู้นำจิตวิญญาณสายบู๊ กับประกาศิตสะเทือนพนมเปญ "เอาให้มันจบในคราวนี้!" ใครจะคุมเกมสงครามไฮบริดครั้งนี้...
หลายฝ่ายเอาใจช่วยให้บทสรุปปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาจบลงภายใต้ชัยชนะของประเทศไทยและจบลงโดยเร็วที่สุด ตามเป้าหมาย “สิ้นสภาพทางการทหารไปอีกนาน” กระนั้น ที่น่าสนใจในสงครามไฮบริด ช่วงวันที่ 7-8 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมามีข้อสังเกตบางประการ เกี่ยวกับการอพยพประชาชนจังหวัดบุรีรัมย์ในพื้นที่เสี่ยงเข้าศูนย์พักพิง
หลังมีกระแสข่าวการล็อกเป้าโจมตีทางอากาศลึกเข้ามาในพื้นที่ยุทธศาสตร์อย่างท่าอากาศยานบุรีรัมย์ แม้ในข้อมูลจะปรากฏว่าทะเบียนบ้านของ อนุทิน ชาญวีรกูล รักษาการนายกรัฐมนตรีอยู่ที่บุรีรัมย์ แต่เชื่อกันว่า สงครามจิตวิทยาที่เกิดขึ้นน่าจะหวังให้กระทบต่อฐานที่มั่นทางการเมืองของพรรคภูมิใจไทย ก็คือ “ตระกูลชิดชอบ” ของครูใหญ่ เนวิน ชิดชอบ
น่าสนใจว่าวิกฤตการณ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงการปะทะกันของกองทัพ แต่มันคือการเผชิญหน้ากันของสอง "ผู้เล่น" ระดับเฮฟวี่เวทที่มีประวัติการเมืองยาวนานและโชกโชนที่สุดในภูมิภาค ฝั่งกัมพูชา ผู้อยู่เบื้องหลังเกมครั้งนี้คือสมเด็จฮุน เซน ชายผู้เป็นตำนานที่มีลมหายใจทางการเมืองมายาวนานกว่า 4 ทศวรรษ
ฮุน เซน ก้าวขึ้นสู่อำนาจท่ามกลางซากปรักหักพังของสงครามกลางเมืองและการยึดครองของเวียดนาม เขาเรียนรู้ยุทธวิธีการรบตั้งแต่อายุยังน้อยในฐานะผู้บัญชาการกองพันเขมรแดง ก่อนจะผันตัวมาเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดคนหนึ่งของโลก ประสบการณ์ของฮุน เซน คือการใช้กองทัพเป็นฐานอำนาจและใช้ประเด็นชาตินิยมเป็นเครื่องมือทางการเมืองมาทุกยุคสมัย ที่ต้องประคองบัลลังก์นายกรัฐมนตรีของลูกชาย คือ ฮุน มาเนต
การที่เขาสั่งขยับอาวุธหนักเข้าประชิดชายแดนอุดรมีชัยและเล็งเป้ามาที่บุรีรัมย์ในเดือนธันวาคม 2568 นี้ ไม่ใช่เพียงการข่มขวัญ แต่คือการใช้ทักษะ "รัฐบุรุษสายเหยี่ยว" ที่เขาสั่งสมมาตั้งแต่วัย 26 ปี เพื่อทดสอบผู้มีอำนาจของฝ่ายไทย
ตัดภาพกลับมาที่ฝั่งไทย เนวิน ชิดชอบ คือคู่ชกที่สมน้ำสมเนื้อที่สุดในสมรภูมินี้ แม้จะไม่มีตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี แต่ "บารมี" ของเขาล้นเหลือ เนวินเติบโตมาจากพื้นฐานครอบครัวการเมืองที่เก่าแก่ ยุคหนึ่งเขาคือตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดการพลิกขั้วรัฐบาล
หลังวางมือจากฉากหน้าทางการเมือง เนวินใช้เวลาหลายทศวรรษปั้น "บุรีรัมย์โมเดล" ยึดสภาสูง และเป่ามนต์จน อนุทิน ได้เป็นนายกฯ ตามที่ลั่นวาจาไว้ ที่สำคัญคือการ "หักเหลี่ยม" การเมืองกับ ทักษิณ ชินวัตร ล้มรัฐบาลแพทองธาร
จุดพีคของสถานการณ์อยู่ที่ถ้อยคำสั้นๆ แต่สะเทือนถึงกรุงพนมเปญ เมื่อเนวินประกาศว่า
"ผมพูดตรงๆ ในนามตัวแทนชาวบ้าน... ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ก็ขอให้กองทัพกับรัฐบาลเนี่ย เอาให้มันจบในคราวนี้เถอะครับ...รัฐบาลจะทำอะไร กองทัพจะทำอะไรก็ทำเถอะ ทำให้มันจบไป"
นี่ไม่ใช่คำสั่ง แต่ก็เปรียบได้กับประกาศิต เมื่อผู้นำจิตวิญญาณของรัฐบาลส่งสัญญาณว่า "คนบุรีรัมย์หมดความอดทนแล้ว" คำว่า "ทำให้มันจบไป" ของเนวินคือการเดิมพันด้วยชื่อชั้นทางการเมืองที่ผ่านมาทั้งหมดของเขา
ศึกครั้งนี้นอกเหนือจากกองทัพจะรับบทหนักในการรักษาอธิปไตยและปกป้องประชาชนแล้ว สมรภูมิชายแดนไทย-กัมพูชา ยังเป็นการเดิมพันของสองผู้นำจิตวิญญาณ ที่ทั้งคู่ต้องใช้ไหวพริบและเหลี่ยมคูทางการเมืองที่สั่งสมมาทั้งหมดฟาดฟันและมีราคาที่ต้องจ่าย หากฝ่ายใดเพี่ยงพล้ำ
#สงครามไทยกัมพูชา #เนวินชิดชอบ #ฮุนเซน #บุรีรัมย์ #การเมืองไทย2568 #กองทัพไทย








